‘ทนาย-แม่พริษฐ์’แกนนำม็อบเรียกร้องความเท่าเทียมขอศาลย้ายเพนกวินไปรพ.ธรรมศาสตร์


เพิ่มเพื่อน    

25 ส.ค. 2564 - ที่ศาลอาญา นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน พร้อมด้วยนางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ แม่ของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำม็อบราษฎร เดินทางเข้ายื่นเรื่องขอให้ศาลมีคำสั่งส่งตัวนายพริษฐ์ ไปรักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ  

โดยนายกฤษฎางค์ กล่าวว่ามายื่นตามมาตรา 89/1 ป.วิ.อาญา ขอให้ศาลมีคำสั่งให้ส่งตัวนายพริษฐ์ไปรักษาที่รพ.ธรรมศาสตร์ฯ เนื่องจากเรายื่นไปที่กรมราชทัณฑ์ รพ.ราชทัณฑ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมแล้ว  ก็ยังไม่ได้รับคำตอบ ซึ่งหลังจากทนายไปเยี่ยมมาพบว่านายพริษฐ์ติดโควิดแน่นอน และอาการยังไม่ดีขึ้น ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที จะมีความเสี่ยงอันตรายถึงชีวิตหรือไม่ ซึ่งตามกฎหมายให้อำนาจศาล ถ้าเห็นสมควรจะส่งตัวผู้ที่ถูกจองจำ กักขังในคำสั่งศาล ไปยังสถานที่อื่นที่ปลอดภัย ซึ่งกรณีอย่างนี้มีอยู่ทั่วไป จะเห็นได้จากคดีเก่าที่ผู้หลักผู้ใหญ่บางคนไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ หรืออดีตที่ล่วงลับไปแล้วที่เคยมีคดีความก็ไปนอนรักษาตัวเวลาอายุมาก ซึ่งอาจเป็นความเสี่ยงใน รพ.ราชทัณฑ์ ซึ่งก็ไม่ได้ดูแคลน เพียงแต่มั่นใจตรงที่ รพ.ธรรมศาสตร์ฯ เป็นโรงพยาบาลของรัฐ  เป็นโรงเรียนแพทย์ และมีความสามารถในการรักษาโรคโควิดโดยตรง นายพริษฐ์มีประวัติการรักษาที่นั่น เพราะเป็นโรคหอบหืดอยู่แล้ว เราหวังว่าศาลจะพิจารณา

 เมื่อถามว่า ทาง รพ.ธรรมศาสตร์ฯ มีการออกมาระบุว่าเตียงเต็ม นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า เรามีหนังสือตอบรับ เนื่องจาก รพ.ธรรมศาสตร์ก็เหมือนกับโรงพยาบาลทั่วประเทศคือภาวะการรักษาคนป่วยด้วยโรคโควิดก็คงยังเต็มอยู่ แต่เนื่องจากนายพริษฐ์ รวมถึงนายสิริชัย นาถึง เป็นนักศึกษาธรรมศาสตร์ เราได้ประสานงานจนเป็นที่ยืนยันแล้วว่าพอจะรักษาได้มีความสามารถ เครื่องมือ และยารักษาโรค ดังนั้นมั่นใจว่าถ้าไปยื่น รพ.ธรรมศาสตร์ฯ ในบรรยากาศแบบนี้ นอกจากจะเป็นการเปิดโอกาสให้เรือนจำได้เปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังรายอื่น เราคิดว่าชีวิตผู้ต้องขังทุกคนสำคัญ อย่างไรก็ตาม รพ.ธรรมศาสตร์ฯ ระบุว่ากรณีของนายพริษฐ์ และนายสิริชัย ทาง รพ.ยินดีรักษา

 “ตอนนี้มีเหตุขัดข้องอยู่คือ มีผู้บริหารระดับสูงเพียงคนเดียวของกระทรวงในฝ่ายราชการประจำที่ยังไม่เห็นด้วยในการส่งตัวนายพริษฐ์ และนายสิริชัยไปรักษาตัวที่ รพ.ธรรมศาสตร์ฯ ส่วนในระดับกรมราชทัณฑ์ และในระดับโรงพยาบาลที่เขารู้อาการ คุณหมอเขาก็ไม่ขัดข้อง มีเพียงแต่ผู้บริหารสูงสุดในฝั่งข้าราชการประจำที่ไม่เห็นด้วย คงต้องขออำนาจศาล เพราะถ้านายพริษฐ์เป็นอะไรความรับผิดชอบจะตกอยู่ที่กรมราชทัณฑ์ และเสียหายไปหมด” นายกฤษฎางค์ กล่าว

 เมื่อถามว่ามีความกังวลอะไรเรื่องนี้บ้าง นางสุรีย์รัตน์ กล่าวว่า กังวลเรื่องอาการของนายพริษฐ์ กรณีอื่นๆ ที่ผ่าน กว่าจะมีการอนุมัติให้ย้ายก็มีอาการหนัก อย่างกรณีนายศักดิ์ชัย ตั้งจิตสดุดี หรือเฮียซ้ง  ดังนั้น จากคนที่อาการดี ๆ รักษาได้ง่าย ๆ จะต้องรอให้ให้อาการหนัก แล้วค่อยจัดการ ก็อันตรายเกินไป นอกจากนี้ถ้าเพนกวินได้ไปรักษาที่อื่นก็ได้มีที่ใน รพ.ราชทัณฑ์ให้คนอื่นอีก เพราะ รพ.ราชทัณฑ์ต้องรับผู้ต้องหาจากต่างจังหวัดเข้ามารักษาด้วย นายพริษฐ์บอกว่าคนรอเตียงข้าง ๆ เขามีแต่อาการหนักทั้งนั้น ดังนั้นเจ้าหน้าที่ก็ต้องเอาทรัพยากรที่มีไปรักษาคนอื่น นอกจากนี้ หากได้ย้ายไป รพ.ธรรมศาตร์ฯ เขาก็จะสามารถช่วยแบ่งเบาภาระได้ ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะคัดค้าน


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"