บันทึกหน้า4


เพิ่มเพื่อน    

ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" storage.thaipost.net การเมืองช่วงนี้ท่าจะมันกับมหกรรมเปิดโปง-จวกยับรายวัน จากนาฬิกาหรูไม่กี่เรือน สู่นาฬิกาหรูหลายๆๆๆๆ เรือน ของ “เสี่ยป้อม–พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ที่เพจชื่อดังไปตามเก็บภาพเก่าๆ มาปล่อยรายวันไม่ซ้ำเรือน ราคาหลักแสนหลักล้าน ที่ไม่รู้รวยมาจากไหนและไม่ได้แจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. ไอ้ที่มีกระแสข่าวออกมาโยนหินถามทางว่ายืมเพื่อน แค่ยืมเพื่อนเรือนเดียวราคาเป็นล้านก็น่างงละ มาหลายๆๆๆๆ เรือนอย่างนี้ยืมเพื่อนคงไม่ไหวล่ะมั้ง เอ๊ะ หรือว่าท่านไปซุ่มทำธุรกิจค้าขายนาฬิกาเลยต้องใส่มาอวดเป็นพรีเซนเตอร์รึเปล่า แต่ถ้าไม่แจ้งก็ผิดอยู่ดีในฐานะเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ...๐

เรื่องนี้ถึงคราที่ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” อดีตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกโรงจวกเรื่องนี้ด้วยความห่วงใยนิดๆ ว่า ที่น่าเป็นห่วงคือ ตอนนี้เรื่องยืดเยื้อและประชาชนไม่พอใจ จะลามไปถึงนายกรัฐมนตรีด้วย เป็นเรื่องอื้อฉาวที่กระทบต่อภาพลักษณ์ อย่างไรก็ตาม ถ้ายังจำกันได้ ในสมัยที่ตนเป็นรัฐบาล เพียงแค่เกิดเรื่องราวขึ้นยังไม่ได้พิสูจน์ว่าจริงหรือไม่ นายวิทยา แก้วภราดัย อดีต รมว.สาธารณสุข หรือกรณี นายวิฑูรย์ นามบุตร อดีต รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ยังขอลาออก เพื่อตัดไฟแต่ต้นลมไม่ให้เกิดปัญหา ซึ่งตนจำคำพูดของที่นายวิทยาบอกได้ว่า “ผมไม่อยากเป็นภาระของรัฐบาล” เป็นการยกตัวอย่างเปรียบเทียบที่น่าจะเจ็บแสบ หากยังมีสปิริตหลงเหลืออยู่ในใจจริงๆ ...๐

อย่างไรก็ตาม นาฬิกาหรูนี้มิใช่จะบรรลัยแค่รัฐบาล คสช. เพราะ ป.ป.ช.ชุดปัจจุบันเองก็แทบจะบรรลัยตาม ที่ไม่รู้จะตามเช็กหรือตามเช็ดยังไงกับเรื่องนี้ ในฐานะที่เป็น "องค์กรปราบโกง" แต่คราวนี้ผู้ต้องสงสัยกลับเป็นพี่ใหญ่มากๆ ประธาน ป.ป.ช.ก็เคยมีตำแหน่งให้โยงได้ว่าเป็นมิตรสหายน้องผู้มีความสัมพันธ์กับพี่ใหญ่มาก่อนอย่างทนโท่ ยังไม่พอ สนช.ฝักถั่วยังเอาใจช่วยโหวตผ่านกฎหมายลูกให้คณะกรรมการป.ป.ช.ได้อยู่ต่อทั้งคณะแม้คุณสมบัติจะขัดรัฐธรรมนูญ กลายเป็นยกลาภ-ยศ-สรรเสริญ ให้อย่างจัดเต็มพร้อมความบรรลัยไปอย่างไม่ตั้งใจ ...๐

ความบรรลัยยังไม่หยุดแค่นั้น เพราะการที่ สนช.โหวตผ่านกฎหมายลูกที่ถูกมองว่าขัดรัฐธรรมนูญ และยังยักแย่ยักยันไม่กล้าส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนั้น “ศรีสุวรรณ จรรยา” เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย บุกยื่นเรื่องถึง “บิ๊กตู่–พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ให้ส่งร่างกฎหมายลูกดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย หากไม่ดำเนินการตามคำร้องจะถือว่าเพิกเฉยต่อการปฏิบัติหน้าที่ เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เขายังบอกว่าจะดำเนินการตามช่องทางต่อไป และ สนช.ที่โหวตเห็นชอบร่างกฎหมายดังกล่าว ถือว่ากระทำการเอื้อประโยชน์ต่อกรรมการ ป.ป.ช.ชุดปัจจุบัน ซึ่งอาจจะเข้าข่ายความผิดเหมือน ส.ส.ที่โหวตผ่าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งจะยื่นเอาผิดด้วย โอ้โห! ยกตัวอย่างด้วย พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับเดียวพังทั้งกระดานมาแล้ว นาฬิกาจะพาพังบ้างหรือไม่ ...๐

ไปที่อีกรายอีกเรื่องกับนักไล่บี้คดีกบฏ กปปส. “วิญญัติ ชาติมนตรี” เลขาธิการสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิและเสรีภาพ (สกสส.) ทนายความเสื้อแดงคนดัง หลังออกมาปูดทำนองว่าการนัดพร้อมผู้ต้องหาคดีกบฏ กปปส. ในวันที่ 24 ม.ค.นี้ ที่อัยการจะนัดส่งตัวผู้ต้องหาทั้งหมดฟ้องต่อศาลนั้น ทาง กปปส.ได้ยื่นขอชะลอสั่งคดีและรื้อคดี โดยจะให้ส่งตัวก่อนเฉพาะ 9 แกนนำ เสร็จแล้ว “วิญญัติ” ก็ไปยื่นย้ำกับอัยการสูงสุดไม่ต้องการให้มีการชะลอและรื้อคดี แถมยังปูดเพิ่มอีกเรื่องทำนองสงสัยว่าพนักงานอัยการในชุดที่พิจารณาคดี กปปส. เป็นอัยการชุดเดียวกันที่เคยทำคดีจำนำข้าวและระบายข้าวจีทูจีหรือไม่ ทำให้รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดผู้รับเรื่องตอบกลับทันควันว่าเป็นคณะทำงานคนละชุด เรียกว่าหัวปูดกลับไปแทนไหมละเนี่ย …๐

สำหรับอัยการคณะทำงานของทั้ง 3 คดีนั้น เบื้องต้นเท่าที่ตรวจสอบปัจจุบันคดีกบฏ กปปส.อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานอัยการคดีพิเศษ ซึ่งมีนายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ เป็นอธิบดีอัยการ ส่วนคดีโครงการรับจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคดีระบายข้าวจีทูจี อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานการสอบสวน ซึ่งมี นายกิตินันท์  ธัชประมุข เป็นอธิบดีอัยการ ...๐

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"