โผล่อีก! นทท.แอบหยิบหินภูเขาไฟ 'ปราสาทพนมรุ้ง' ส่งไปรษณีย์ฝาก จนท.นำกลับคืนที่เดิม


เพิ่มเพื่อน    

โผล่อีกราย นทท.นำก้อนหินภูเขาไฟที่แอบหยิบจากปราสาทพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์ บรรจุกล่องพัสดุพร้อมแนบ จม.เขียนด้วยลายมือส่งไปรษณีย์ฝาก จนท.นำกลับไปไว้ที่เดิม คาดนำไปเป็นเป็นของที่ระลึกหรือบูชา แต่กลัวอาถรรพ์ลี้ลับจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เผยภายในเดือนนี้มี นทท. ฝากไปรษณีย์ส่งดินและหินคืนแล้ว 2 ราย

23 ส.ค.64 - เฟซบุ๊กของอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง (Phanom Rung Historical Park) ได้โพสต์ข้อความว่า อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง ได้รับพัสดุจากประชาชน ภายในพัสดุมีก้อนหิน (เป็นหินภูเขาไฟ) จากเขาพนมรุ้งพร้อมจดหมายเขียนข้อความว่า "ข้าพเจ้ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ ขอกราบขอขมาด้วยกาย วาจา ใจ ขอคืนสู่อุทยานประวัติศาสตร์เขาพนมรุ้ง ข้าพเจ้าเก็บตรงกลางทางขึ้นปราสาทนานแล้ว *เห็นข่าวตอนเช้า 18 ส.ค. 64 จึงนึกขึ้นได้ ขอคืนสู่พนมรุ้ง"   บัดนี้เจ้าหน้าที่อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง ได้นำก้อนหินกลับสู่ปราสาทพนมรุ้งแล้ว #โบราณสถานเป็นของทุกท่าน โปรดช่วยกันดูแลรักษา #ขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวไม่หยิบจับหรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดออกจากโบราณสถาน #พนมรุ้งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ 

ซึ่งก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นหลากหลาย  อาทิ  เคยเจอกับตัวเหมือนกันสามีพาลูกๆ ไปชมปราสาทพนมรุ้งแล้วเก็บก้อนหินโยนใส่รถพอเดินทางต่อเกิดอุบัติเหตุเลยนึกขึ้นได้ว่าแฟนเก็บก้อนหินบนปราสาทพนมรุ้งมาด้วย เลยไปขอขมาแล้วนำก้อนหินไปคืน  , บางคนบอกว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง ,  สิ่งใดอยู่ที่ใดย่อมกลับคืนสู่ที่เดิม”

จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง​ อำเภอ​เฉลิม​พระ​เกียรติ​ จังหวัด​บุรีรัมย์​ เพื่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว    ก็ได้พบกับนายกฤษณพงษ์ พูนสวัสดิ์ นักโบราณคดี อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง ให้ข้อมูลว่า​ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้รับพัสดุจากนักท่องเที่ยวรายหนึ่ง​ ซึ่งเป็นผู้ชายอยู่ต่างจังหวัด ซึ่งข้างในกล่องพัสดุก็จะเป็นก้อนหินภูเขาไฟ ขนาดประมาณ 2 นิ้วจำนวน 1 ก้อน และมีจดหมายเป็นแผ่นกระดาษที่เขียนด้วยลายมือ ระบุข้อความว่า "ข้าพเจ้ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ ขอกราบขอขมาด้วยกาย วาจา ใจ ขอคืนสู่อุทยานประวัติศาสตร์เขาพนมรุ้ง ข้าพเจ้าเก็บตรงกลางทางขึ้นปราสาทนานแล้ว *เห็นข่าวตอนเช้า 18 ส.ค. 64 จึงนึกขึ้นได้ ขอคืนสู่พนมรุ้ง" ซึ่งคาดว่านักท่องเที่ยวรายดังกล่าวน่าจะมาท่องเที่ยวแล้วหยิบหินก้อนดังกล่าวไปจากบริเวณทางเดินหลัก ก่อนจะขึ้นตัวปราสาท ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้นำหินก้อนดังกล่าวที่ นทท.ส่งพัสดุมาไปเก็บไว้ที่ใต้ต้นมะขาม บริเวณชานชลากากบาท ก่อนถึงทางดำเนินเสานางเรียง ทางขึ้นตัวปราสาทเรียบร้อยแล้ว ซึ่งในจดหมายไม่ได้ระบุเนื้อหาว่า​ ไปเจออะไรมาบ้างถึงได้ส่งก้อนหินมาคืน เพียงระบุว่าเห็นในข่าวว่ามีคนส่งดินที่เอาไปจากพนมรุ้งกลับมาคืน

นักโบราณคดี ฝากถึงนักท่องเที่ยวที่เคยหยิบสิ่งใดติดไม้ติดมือไปช่วงที่มาเที่ยว ไม่ว่าจะเอาไปเป็นของที่ระลึก หรือเอาไปบูชาตามความเชื่อ หากต้องการจะส่งคืนเจ้าหน้าที่ก็ยินดี พร้อมฝากประชาสัมพันธ์ถึง นทท.ด้วยว่าไม่ว่าจะมาไปเที่ยวโบราณสถานแห่งใดก็ตาม ไม่ควรจะหยิบฉวยอะไรไปด้วย  เพราะถือว่าเป็นสมบัติของคนไทยทุกคน สำหรับปราสาทพนมรุ้งในรอบเดือนนี้ก็เป็นรายที่สองแล้วที่ นทท.ส่งดินและหินที่หยิบไปกลับมาคืน

อย่างไรก็ตาม​ช่วงนี้ปราสาทพนมรุ้ง และปราสาทเมืองต่ำยังเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมตามปกติแล้ว ภายใต้มาตรการควบคุมป้องกันเชื้อไวรัสโควิดอย่างเข้มงวด


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"