ไปที่ชอบเถอะ 'ยิ่งลักษณ์'


เพิ่มเพื่อน    

ไปกินอะไรมา?
    ทำไม "ยิ่งลักษณ์" ถึงได้มั่นใจว่า ถ้าไม่มีรัฐประหาร ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ประเทศจะมั่งคั่ง คนไทยจะรวยขึ้น มีรถไฟความเร็วสูง วิ่งเพ่นพ่าน
    วานนี้ (๒๓ สิงหาคม) นักโทษหญิงหนีคุกคดีโกง โพสต์เฟซบุ๊ก  Yingluck Shinawatra 
    "...ย้อนไปใน วันที่ ๒๓ สิงหาคม เมื่อ ๑๐ ปีที่แล้ว เป็นวันที่ดิฉันแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ด้วยคำมั่นสัญญาที่ว่าจะอยากให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น 
    ลดช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจน 
    สร้างความมั่นคงทางรายได้ในประเทศ เพื่อลดการพึ่งพาการส่งออก 
    มีแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในการลดต้นทุนค่าขนส่งให้กับภาคอุตสาหกรรมเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน 
    รวมไปถึงการเชื่อมโยงเส้นทาง และสร้างรถไฟความเร็วสูงระหว่างเมืองหลักไปสู่ภูมิภาคอาเซียน เพื่อขยายฐานเศรษฐกิจ และเพิ่มโอกาสทำมาค้าขายให้แก่ประเทศไทยมากขึ้น 
    แต่ผ่านไป ๑๐ ปีแล้วหลายอย่างยังย่ำอยู่กับที่ 
    การบริโภคในประเทศยังไม่สามารถเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 
    เรายังคงพึ่งพาการส่งออก และการท่องเที่ยว เมื่อเกิดวิกฤติโรคระบาด รายได้แทบเป็นศูนย์ 
    รัฐบาลขาดยุทธศาสตร์การเยียวยาที่มีประสิทธิภาพ ประชาชนต้องกู้หนี้ยืมสิน ส่งผลให้อัตราหนี้ครัวเรือนพุ่งสูงกว่า ๙๐% ค่าแรงแทบไม่ขยับ 
    เงินเดือนปริญญาตรียังอยู่กับที่ แต่ค่าครองชีพกลับถีบตัวสูงขึ้น 
    ขณะที่สินค้าเกษตรตกต่ำยังเป็นปัญหาเดิมที่เผชิญทุกปี แต่รัฐบาลกลับไร้กลไก และมาตรการในการยกระดับราคาสินค้าเพื่อสร้างความกินดีอยู่ดีให้แก่เกษตรกร 
    ส่งผลให้ความเหลื่อมล้ำของไทยยิ่งแย่ลง รวยกระจุก จนกระจาย 
    ขณะที่การจัดเก็บรายได้ของภาครัฐก็ย่ำแย่ต้องทำงบประมาณขาดดุล ต้องกู้จนเต็มเพดานซึ่งจะกลายเป็นภาระของประชาชน และเป็นภาพที่ไม่ดีนักต่อสายตานักลงทุน 
    หากไม่มีการรัฐประหารในวันนั้น แผนงานต่างๆ ที่แถลงไว้ต่อรัฐสภาคงสำเร็จเป็นรูปธรรมไปนานแล้ว     ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นไม่เลวร้ายอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน 
    สำหรับบางคนเวลา ๗ ปีหลังรัฐประหารภายใต้การนำของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา อาจจะผ่านไปเร็ว แต่สำหรับคนส่วนใหญ่แล้วสถานการณ์ความยากลำบากที่เกิดขึ้น 
    มันเป็นความยาวนาน และทรมานของคนไทยทั้งประเทศค่ะ 
    เป็นเรื่องน่าเสียดายที่เราต้องมาหาหนทางเริ่มต้นกันใหม่กับโอกาสที่เสียไป..."
    ช่างกล้า!
    แต่...ขอโทษนะ ไม่ได้เขียนเอง ไม่ทราบว่าใครเขียนให้
    "ยิ่งลักษณ์" ไม่มีศักยภาพ มองปัญหาทะลุขนาดนั้น 
    ถ้าไม่มี "ชินวัตร" ห้อยท้าย "ยิ่งลักษณ์" ก็แค่พวกไฮโซ ใช้ชีวิตแบบไฮโซไปวันๆ 
    แต่เพราะ "ชินวัตร" ถึงได้เป็นนายกรัฐมนตรีหุ่นเชิดของพี่ชาย 
    ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับความสามารถเลย 
    ๑๐ ปีที่แล้วรัฐบาลยิ่งลักษณ์โชคดีกว่ารัฐบาลลุงตู่เยอะครับ เพราะได้บริหารประเทศในสถานการณ์ปกติ 
    สองพี่น้องโชคดีจริงๆ
    คนพี่เข้าบริหารหลังประเทศฟื้นตัวจากวิกฤตต้มยำกุ้ง 
    ส่วนคนน้องบริหารหลังประเทศฟื้นตัวจาก วิกฤตซับไพรม์
    ทั้ง ๒ เหตุการณ์เป็นวิกฤตของโลก ที่เขย่าจนหลายประเทศแทบจะล่มจม 
    ยุคยิ่งลักษณ์ มีวิกฤตเดียวคือน้ำท่วมใหญ่ภาคกลาง แต่ก็เกิดจากการเมืองแทรกแซงการตัดสินใจการบริหารจัดการน้ำของกรมชลประทาน 
    ไม่เจออุปสรรคระดับโลก!
    มีแต่ปัญหาที่สร้างเองทั้งนั้น 
    รถไฟความเร็วสูง ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับการรัฐประหาร 
    แต่เพราะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ ๙ ต่อ ๐ เสียง  วินิจฉัยว่าร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ ๒ ล้านล้านบาท ขัดต่อรัฐธรรมนูญ
    ยังมีคดี ป.ป.ช.ส่งฟ้อง "ศาลฎีกา" ฟัน "ยิ่งลักษณ์" และพวก ทุจริตจัดอีเวนต์รถไฟความเร็วสูง สูญเงิน ๒๔๐ ล้านอีกต่างหาก 
    "ยิ่งลักษณ์" มีโอกาสที่จะบริหารประเทศจนครบ ๔ ปี โดยไม่มีการรัฐประหาร 
    แต่...กลับเสนอกฎหมายนิรโทษโกงเหมาเข่ง 
    จุดเชื้อไฟให้เกิดรัฐประหาร
    รัฐประหารไม่ดีครับ ไม่ควรจะมีอีก
    เช่นเดียวกันนักการเมืองโกง ไม่ควรจะมีที่ยืนในสังคม 
    "ยิ่งลักษณ์" อ้างสวยหรูไปหน่อยกับนโยบาย ลดช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจน  
    และถ้าตัวเองได้อยู่ต่อจะสามารถแก้ปัญหารวยกระจุก จนกระจาย ได้
    นี่คือคำพูดนักการเมือง ที่พูดแล้วไม่เคยแสดงความรับผิดชอบ
    โครงการรับจำนำข้าวคือโครงการสร้างหนี้ให้เกษตรกร ไปพร้อมๆ กับการเปิดโอกาสโกงให้นักการเมืองและพวกพ้อง 
    และผลที่ออกมาเราเห็นกันคาตาอยู่แล้ว 
    ไม่มีนโยบายไหน โครงการอะไรของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่จะนำไปสู่การแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำได้เลย 
    จะเสมอภาคคงมีแค่เรื่องเดียวคือ นิรโทษเหมาเข่งเสมอกันทุกโกง    
    รัฐบาลลุงตู่ปัญหาเยอะครับ เริ่มจากต่างชาติไม่ยอมรับการรัฐประหาร หนักหนาสาหัสคือวิกฤตโควิด-๑๙ ที่เป็นวิกฤตของโลก หนักกว่าต้มยำกุ้ง+ซับไพรม์ จนแทบนำมาเทียบกันไม่ได้ 
    แต่ตอนนี้เรากำลังสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงรวดเดียว ๒ สาย คือสายกรุงเทพฯ-โคราช และกรุงเทพฯ-อู่ตะเภา
    เด็กรุ่นหลังอาจถูกล้างสมองว่า "ยิ่งลักษณ์" เก่ง งั้นลองทบทวนอดีตดูครับ 
    ย้อนไปกว่า ๑๐ ปีที่แล้ว เด็กสามนิ้วในวันนี้ยังอ่อนเกินไปที่จะได้ซึมซับบรรยากาศการเป็นผู้นำประเทศของ "ยิ่งลักษณ์"
    จิ้มมาข่าวนึงแล้วกัน
    วันที่ ๕ กันยายน ๒๕๕๕ "ยิ่งลักษณ์" ล่องใต้ ตรวจสถานการณ์ที่จังหวัดนราธิวาส 
    หลักฐานเป็นคลิปวิดีโอยังสามารถหาดูได้โดยทั่วไป ใช้วิธีของ "ลุงตู่" คือเสิร์ชหาจาก google รับรองเจอแน่นอน 
    เป็นคลิป "ยิ่งลักษณ์" แถลงข่าวร่วมกับ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย, พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม และผู้ที่เกี่ยวข้อง 
    "ยิ่งลักษณ์" พูดตะกุกตะกัก ผิดๆ ถูกๆ แบบคนไม่รู้เรื่อง ไม่ได้ทำการบ้าน ไม่มีภูมิความรู้ 
    เช่น "...ดูแลจากภาคประชาชนซึ่งเป็นตัวแทนนะคะ ที่... (ออกอาการตะกุกตะกัก) เรียกว่าตัวแทนพวกคณะคุ้มครองทางภาคประชาชนคุ้มครองตำบล นะคะ” 
    นายยงยุทธพูดแก้แทนให้ว่า “ชุดคุ้มครองหมู่บ้าน”  "ยิ่งลักษณ์" หันซ้ายหันขวาน่าเวียนหัว แล้วจึงกลับมาพูดที่ไมโครโฟนว่า “ชุดคุ้มครองหมู่บ้านนะคะ เรียกว่าชุดคุ้มครองหมู่บ้าน ตำบล นะคะ อันนี้ก็จะเป็นภาคประชาชนที่จะเข้าไป”
    ถ้ารู้จริง แค่พูด ๓ คำ "ชรบ." จบ!
    ข้อมูลพื้นฐานมาก คนเป็นนายกฯ ต้องรู้ 
    แต่ "ยิ่งลักษณ์" ไม่รู้
    ถึงได้บอกว่าหาก ๑๐ ปีที่แล้ว "ยิ่งลักษณ์" ไม่ได้เป็นนายกฯ  ระบอบทักษิณคงไม่สร้างความเสียหายต่อเนื่่องมาจนถึงทุกวันนี้
    ไปที่ชอบๆ ได้นะ "ยิ่งลักษณ์" อนุญาต ชวนพี่ชายไปด้วย 
    อย่ามาหลอกหลอนประเทศไทยอีกเลย. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"