รับรองไม่เหมือนอัฟกานิสถาน รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ของสหรัฐให้คำมั่นระหว่างเยือนสิงคโปร์เมื่อวันจันทร์ว่า การเกี่ยวพันของสหรัฐกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นจะยืนยาว ส่วนความล่มสลายของอัฟกานิสถานเวลานี้ สหรัฐกำลังง่วนกับการอพยพ ยังมีเวลาเหลือเฟือที่จะวิเคราะห์บริบทที่เกิดหลังจากสหรัฐถอนทหาร
แฟ้มภาพ คามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐ (Photo by Anna Moneymaker/Getty Images)
รองประธานาธิบดีหญิงของสหรัฐเดินทางมาเยือนสิงคโปร์และเวียดนามในสัปดาห์นี้ ตามกำหนดการที่วางไว้ล่วงหน้านานแล้ว ด้วยเป้าหมายเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์กับหุ้นส่วนความร่วมมือของสหรัฐในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามต้านทานอิทธิพลทางเศรษฐกิจและความมั่นคงที่เพิ่มขึ้นของจีน
อย่างไรก็ดี การเดินทางเยือนต่างแดนในช่วงเวลาเดียวกับที่กองทัพสหรัฐกำลังรีบเร่งอพยพชาวอเมริกันและชาวอัฟกันที่เป็นพันธมิตรของสหรัฐและครอบครัวของพวกเขาออกจากอัฟกานิสถานภายหลังตอลิบันยึดครองประเทศนี้ได้ ทำให้เธอตกเป็นเป้าวิจารณ์
แฮร์ริสเริ่มการเยือนสิงคโปร์อย่างเป็นทางการในวันจันทร์ โดยได้พบหารือกับนายกฯ ลี เซียนลุง และประธานาธิบดีฮาลิมาห์ ยาค็อบ ต่อมาแฮร์ริสและลีได้แถลงข่าวร่วมกัน ตอนหนึ่งเธอเน้นย้ำถึงความยึดมั่นที่สหรัฐมีต่อภูมิภาคนี้ หลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นในอัฟกานิสถานส่งผลต่อความเชื่อถือและความพึ่งพาได้ของสหรัฐ
"รัฐบาลของเรามุ่งมั่นที่จะเกี่ยวพันอย่างยืนนานในสิงคโปร์, ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก" แฮร์ริสกล่าวขณะแถลงข่าวร่วมกับผู้นำสิงคโปร์ "เหตุผลที่ดิฉันมาที่นี่เป็นเพราะสหรัฐคือผู้นำโลก และเรายึดถือบทบาทนี้อย่างจริงจัง"
แฮร์ริสเลี่ยงที่จะตอบคำถามว่า ความน่าเชื่อถือของสหรัฐได้รับความเสียหายจากความล่มสลายของอัฟกานิสถานหรือไม่ โดยเธอกล่าวเพียงว่า ยังมีเวลาเหลือเฟือที่จะวิเคราะห์สิ่งที่เกิดขึ้นและบริบทที่เกิดจากการถอนตัวออกจากอัฟกานิสถาน แต่ขณะนี้รัฐบาลสหรัฐมุ่งเน้นกับการอพยพพลเมืองอเมริกัน, ชาวอัฟกันที่เคยทำงานให้สหรัฐ และชาวอัฟกันที่อ่อนแอ ซึ่งรวมถึงผู้หญิงและเด็ก
นายกฯ ลี ยินดีกับคำมั่นของรองประธานาธิบดีสหรัฐต่อภูมิภาคนี้ และบอกว่าสิงคโปร์เสนอส่งเครื่องบินทหารลำหนึ่งไปช่วยการอพยพที่สนามบินคาบูลด้วย "เราหวังว่าอัฟกานิสถานจะไม่กลายเป็นศูนย์กลางของการก่อการร้ายอีกครั้ง" ลีกล่าว
วิกฤติในอัฟกานิสถานถูกนำไปเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ไซ่ง่อนแตกเมื่อปี 2518 คราวนั้นสหรัฐต้องใช้เฮลิคอปเตอร์หลายลำอพยพคนชุดท้ายจากดาดฟ้าสถานทูตสหรัฐเมื่อทหารเวียดกงรุกคืบเข้ามา แฮร์ริสจะออกเดินทางจากสิงคโปร์ช่วงเย็นวันอังคารเพื่อไปเยือนเวียดนามต่อ
ในการแถลงข่าวครั้งนี้ แฮร์ริสตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของสหรัฐที่จะทำงานร่วมกับประเทศพันธมิตรและหุ้นส่วนในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก เพื่อรักษาระเบียบระหว่างประเทศที่อิงตามกฎกติกาและเสรีภาพในการเดินเรือ รวมถึงในทะเลจีนใต้
รัฐบาลสหรัฐและสิงคโปร์ยังบรรลุข้อตกลงหลายด้านด้วยในวันจันทร์ โดยมีการลงนามข้อตกลงว่าด้วยการต่อสู้กับภัยคุกคามทางไซเบอร์, การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก และการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
เอกสารการประชุมที่ทำเนียบขาวเผยแพร่ระบุด้วยว่า สองประเทศยังบรรลุข้อตกลงด้านความมั่นคงที่จะยืนยันการแสดงตนของสหรัฐในภูมิภาคนี้ ผ่านการสับเปลี่ยนวางกำลังของเครื่องบินพี-8 ของกองทัพสหรัฐและเรือรบชายฝั่งที่สิงคโปร์.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |