เกษตรกร 9 จังหวัด ภาคกลาง ปลื้มโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่ และเชื่อมโยงตลาด สร้างประโยชน์ให้เต็มร้อย ด้านผอ.สสก.1 เผยผลความคืบหน้าการส่งเสริม พร้อมส่งเกษตรตำบล เกษตรอำเภอเกาะติดเร่งดูแล 64 แปลงที่ร่วม มุ่งผลให้สำเร็จตามเป้าของกระทรวงเกษตรฯ

นายวีระชัย เข็มวงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 1 จังหวัดชัยนาท (สสก.1)  เปิดเผยว่า สสก.1 จ.ชัยนาท เป็นหน่วยงานในสังกัดกรมส่งเสริมการเกษตร ที่ได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลดำเนินการโครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกรมส่งเสริมการเกษตร ที่มีมุ่งมั่นให้ภาคเกษตรมีความมั่นคง เกษตรกรมั่งคั่ง ทรัพยากรยั่งยืน จึงมุ่งเน้นการพัฒนาอาชีพด้านการเกษตร เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน จากที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน สามารถส่งเสริมให้เกษตรกรรวมกลุ่มกันจัดตั้ง และเกิดการพัฒนาเป็นเกษตรแปลงใหญ่ที่มีความเข้มแข็งในพื้นที่รับผิดชอบ 9 จังหวัดภาคกลาง รวมจำนวน 375 แปลง ครอบคลุมในสินค้าเกษตรชนิดต่าง ๆ เช่น ข้าว พืชไร่ ไม้ผล พืชผัก ไม้ประดับ ประมง และปศุสัตว์ เป็นต้น 

นายวีระชัย กล่าวต่อไปว่า ในการดำเนินการ สสก.1 จ.ชัยนาท สามารถช่วยพัฒนาเกษตรกรได้ตามเป้าหมายของโครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ ทั้งในด้านการทำให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุน เฉลี่ยร้อยละ 20 ขณะเดียวกันยังได้รับการพัฒนาเพิ่มผลผลิต เฉลี่ยที่ร้อยละ 20 ได้รับการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการผลิต เช่น ได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP  อีกทั้งยังได้รับการพัฒนาด้านบริหารจัดการกลุ่มให้เกิดความเข้มแข็ง รวมถึงการจัดการด้านตลาดตามแนวทางตลาดนำการผลิต มีการเพิ่มช่องทางจำหน่ายทั้งในตลาดออนไลน์และออฟไลน์ ตลาดขายส่ง และโมเดิร์นเทรดต่าง ๆ เป็นต้น”

“ และขณะนี้ กรมส่งเสริมการเกษตร ได้มีการยกระดับการดำเนินโครงการเกษตรแปลงใหญ่ ตามที่ได้รับมอบหมายจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการจัดทำโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่ และเชื่อมโยงตลาด ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2563 ภายใต้แผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า โควิด-19 เพื่อให้เกษตรกรมีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีความหลากหลาย มาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาศักยภาพความเข้มแข็งในการบริหารจัดการแปลงใหญ่ โดยใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมสมัยใหม่ต่อยอด ด้านคุณภาพมาตรฐาน แปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม และเชื่อมโยงการตลาด การลดต้นทุนการผลิต รายได้เพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืน  ซึ่งผลการดำเนินโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่ และเชื่อมโยงตลาดของ สสก.1 จ.ชัยนาท ในสินค้าเกษตรที่รับผิดชอบ ประกอบด้วย พืชไร่ ไม้ผล พืชผัก จิ้งหรีด ไม้ประดับ รวม 64 แปลง จากเกษตรแปลงใหญ่ที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมด 164 แปลง

ผู้อำนวยการ สสก.1 จ.ชัยนาท กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกรตามโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่ และเชื่อมโยงตลาด ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น เกษตรอำเภอ เกษตรตำบล ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามผลการดำเนินการแบบเชิงรุก เพื่อให้เกษตรแปลงใหญ่ในโครงการสามารถดำเนินการตามระเบียบที่กำหนด เช่น ในส่วนของการจัดการด้านสินเชื่อที่ได้รับ การจัดซื้อเครื่องจักรด้านการเกษตรต่าง ๆ ที่ได้รับการสนับสนุน และองค์ความรู้ต่าง ๆ อีกทั้งยังร่วมช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อให้เกิดผลสำเร็จตามเป้าหมาย

ด้าน พ.จ.ท เฉลียว น้อยแสง เกษตรกรต้นแบบศูนย์เครือข่ายแปลงใหญ่ข้าว จังหวัดชัยนาท ในฐานะประธานคณะกรรมการเครือข่ายแปลงใหญ่ระดับเขต (เขต1) กล่าวว่า โครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่ และเชื่อมโยงตลาด ที่ดำเนินการโดยกรมส่งเสริมการเกษตร ถือว่ามีประโยชน์อย่างมากต่อเกษตรกร คาดว่า จะช่วยให้เกษตรกรลดต้นทุนการผลิตลงได้อย่างมาก เนื่องจากได้รับการสนับสนุนงบประมาณมาใช้จัดซื้อเครื่องจักรการเกษตรชนิดต่าง ๆที่จำเป็น ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญในช่วงเวลานี้ ท่ามกลางปัญหาต่าง ๆ ไม่ว่า ภาวะฝนทิ้งช่วง รวมถึงปัจจัยการผลิตมีการขึ้นราคาอย่างต่อเนื่อง ทั้งปุ๋ย และสารเคมี และภาวะราคาที่ตกต่ำ โดยเฉพาะข้าว

“ ต้องบอกว่า ที่ผ่านมา เกษตรกร ไม่ค่อยได้รับการสนับสนุนในลักษณะงบลงทุนจากภาครัฐบาลอย่างเป็นรูปธรรม เหมือนกับโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่ และเชื่อมโยงตลาดที่ดำเนินการในขณะนี้ โดยเดิมนั้นเครื่องจักรกลทางการเกษตรที่หน่วยงานภาครัฐสนับสนุนนั้น จะอยู่ในลักษณะที่หน่วยงานจัดซื้อมาให้เกษตรกรยืมใช้ เกษตรกรไม่ได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ แต่การปรับเปลี่ยนโครงการมาให้เกษตรกรแปลงใหญ่สามารถมีการจัดซื้อเองโดยตรง ถือเป็นสิ่งที่ดีมาก เพราะสามารถเลือกซื้อเครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพตรงกับความต้องการของเกษตรกร เช่น โดรนเพื่อการเกษตรที่ใช้ในการฉีดพ่นสารเคมีหว่านปุ๋ย หรือ รถแทรกเตอร์ปรับระดับดินนาด้วยแสงเลเซอร์ เป็นต้น ดังนั้นผมมั่นใจว่า การที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีโครงการนี้ ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรอย่างมาก และที่อยากให้ดำเนินการต่อเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร คือ การควบคุมราคาปัจจัยการผลิตต่าง ๆให้ต่ำลง จะเป็นอีกแนวทางของการช่วยเหลือเกษตรกรที่ดีมากขึ้น ” พ.จ.ท เฉลียว กล่าวทิ้งท้าย