23 ส.ค. 64 - ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงว่า การนัดทำกิจกรรมของกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งหมด 2 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 คือกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ที่กระทรวงยุติธรรมเวลา 09.00 น. กลุ่มที่ 2 กลุ่มผู้ก่อเหตุความวุ่นวายในบ้านเมืองคือกลุ่มทะลุแก๊ส นัดชุมนุมที่สามแยกดินแดง เวลา 17.30 น.  และจากการชุมนุมวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุมได้ใช้ระเบิดปิงปอง พลุเพลิง พลุไฟ ขว้างปาใส่เจ้าหน้าที่เพื่อหวังทำร้าย มีการทำลายสิ่งของสาธารณะประโยชน์ ทรัพย์สินราชการได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 8 นาย จับกุมกุมตัวผู้ต้อหา 42 คน ยึดรถจักรยานยนต์ 27 คัน อาวุธปืนเครื่องกระสุน ระเบิดปิงปอง ระเบิดแสวงเครื่องและอื่นๆ อีกจำนวนมาก นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีฐานมั่วสุมกันตั้งปแต่ 10 คน ขึ้นไป ก่อความไม่สงบในบ้านเมือง เจ้าหน้าที่สั่งการให้ยุติแต่ไม่ยุติ ความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน พ.ร.บ.โรคติดต่อและ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

บช.น. เรียนเตือนกรณีผู้ปกครองส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือมีพฤติกรรมเสี่ยงกระทำความผิด จะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ผู้ปกครอง บิดามารดาหรือผู้ดูแลบเด็กและเยาชนจะต้องได้รับโทษตามกฎหมาย รถจักรยานยนต์ เครื่องกระสุนปืน ที่เจ้าหน้าที่ยึดได้ พนักงานสอบสวนจะดำเนินการร้องขอต่อพนักอัยการร้องขอต่อศาลริบของกลางที่ใช้ในการรกะทำความผิดตกเป็นของแผ่นดิน ส่วนทรัพย์สินที่เป็นของผู้อื่นถูกนำมาใช้กระทำความผิดเจ้าของทรัพย์จะต้องถูกหมายเรียกมาให้ปากคำตามกฎหมายอีกส่วนหนึ่ง

สรุปการดำเนิคดีกับผู้ชุมนุมเดือน ก.ค.- ส.ค.ที่ผ่านมา ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุม 92 คดี มีผู้ต้องหาที่อยู่ในข่ายที่จะถูกดำเนินคดี 523 คน ถูกจับกุมตัวแล้ว 266 คน ภาพรวมจากการชุมนุมมีคดีเกี่ยวกับความมั่นคง 341 คดี สอบสวนเสร็จสิ้น 200 คดี อยู่ระหว่างการสอบสวน 141 คดี บช.น.ออกหมายเรียกผู้กระทำความผิดมารับทราบข้อหาตามกฎหมายรวม 118 หมาย เป็นแกนนำ 16 หมาย บช.น.ยืนยันว่าผู้กระทำความผิดในกรุงเทพฯต้งอถูกดำเนินคดีทุกราย

ผู้สื่อข่าวถามว่า การจู่โจมปิดประตูตีแมวเป็นการกระทำรุนแรงหรือไม่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ตอบว่า ถ้าบอกให้เขาหยุดเขาจะหยุดหรือไม่ การจับกุมเป็นการดำเนินการหลังการประกาศเตือน เป็นมาตรการจากเบาไปหาหนัก อยากจะให้มองว่าเป็นการดำเนินการระงับยับยั้งการก่อเหตุความวุ่นวาย การชุมนุมที่สามเหลี่ยมดินแดงไม่ใช่การเรียกร้องอะไรแล้ว ตำรวจก็มีการปรับแผนการจับกุม แจ้งเตือนไม่ฟังความเสียหายในวงกว้างจะเกิดก็ต้องดำเนินการ ถ้าเปรียบเทียบกับประเทศอื่นหรือเหตุการณ์อื่นผู้ที่ก่อเหตุคงไม่นั่งรอ ยืนรอให้จับกุม

เมื่อถามว่า การชุมนุมที่แยกดินแดงต้องเรียกว่าผู้ชุมนุมหรือเด็กแว้นเข้ามาก่อกวน พล.ต.ต.ปิยะ  ตอบว่า การแถลงข่าวช่วงหลังจะไม่เรียกว่าผู้ชุมนุม จะเรียกว่าเป็นผู้ก่อความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมือง เป็นอาชญากรรมร้ายแรงไม่มีจุดในการเรียกร้องใดๆ มีแต่พฤติกรรมที่ละเมิดกฎหมายบ้านเมือง ส่วนการป้องกันเจ้าหน้าที่คงจะมีหลายๆ มาตรการ วันต่อๆ ไปอาจมีวิธีการอื่นหรือมาตรการอื่นๆ มาเสริมการปฏิบัติเพื่อแยกแยะตัวผู้ก่อเหตุ คอยติดตามดูตำรวจจะมีมาตรการบังคับใช้กฎหมายให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยความปลอดภัยให้กับประชาชน และตัวผู้กระทำความผิดและตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยืนยันว่าการจู่โจมจับกุมเป็นการปฏิบัติตามยุทธวีธี มีการวางแผนกำหนดพื้นที่จะเข้าควบคุมตัวผู้ต้องหา อย่างที่เห็นกลุ่มผู้กระความผิดใช้ความเร็ว ตำรวจถูกผู้ชุมนุมขับรถจักรยานยนต์ชนหลายครั้ง เจ้าหน้าที่จึงพยายามเว้นระยะห่างและใช้วิธีการต่างๆ เข้าสกัด กลุ่มผู้ชุมนุมไม่มีกติกา แต่เจ้าหน้าที่มีกฎระเบียบมาตรการต่างๆที่ต้องปฏิบัติ ผู้กระทำความผิดละเมิดกฎหมายหมายได้ แต่ตำรวจเป็นผู้รักษากฎหมายต้องรักษามาตรกลางเอาไว้

"เด็กเป็นผู้เยาว์เด็กเป็นผู้ที่ต้องเอาใจใส่ดูแล เด็อาจถูกล่อลวงหรือถูกบังคับเราต้องปฏิบัติตามมาตรการแนวทางการดูแลเด็กตามกฎหมายเด็ก สิ่งที่สำคัญที่เป็นปัจจัยคือผู้ปกครอง เด็กเป็นผู้มีวุฒิภาวะต่ำผู้ปกครองมีวุฒิภาวะสูงหากยินยอมส่งเสริมให้เด็กมากระทำความผิด ผู้ปกครองต้องรับผิดชอบ และขณะนี้พนักงานสอบสวนได้เรียกผู้ปกครองมาสอบสวนกรณีไหนความผิดชัดเจนจะดำเนินคดีกับผู้ปกครองทุกราย ส่วนเด็กที่ถูกจับกุมตัวการประกันตัวอยู่ที่ดุลพินิจของศาล ใครมีพฤติกรรมเสี่ยงกระทำความผิดอีกหรือหลบหนีพนักงานสอบสวนจะมีความเห็นไม่ให้ประกัน แต้ะทั้งหมดทั้งมวลเป็นดุลพินิจของศาล" พล.ต.ต.ปิยะ ระบุ

เมื่อถามว่า กลุ่มผู้ชุมนุมเหล่านี้เป็นผู้ชุมนุมอิสระหรือได้รับการว่าจ้างมาหรือไม่ รอง ผบช.น.ตอบว่า ไม่มีม็อบไหนที่ไม่มีผู้อยู่เบื้องหลัง.