23 ส.ค. 64 - น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ย้อนไปในวันที่ 23 สิงหาคม เมื่อ 10 ปีที่แล้ว เป็นวันที่ดิฉันแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ด้วยคำมั่นสัญญาที่ว่าจะอยากให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ลดช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจน สร้างความมั่นคงทางรายได้ในประเทศ เพื่อลดการพึ่งพาการส่งออก มีแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในการลดต้นทุนค่าขนส่งให้กับภาคอุตสาหกรรมเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน รวมไปถึงการเชื่อมโยงเส้นทาง และสร้างรถไฟความเร็วสูงระหว่างเมืองหลักไปสู่ภูมิภาคอาเซียน เพื่อขยายฐานเศรษฐกิจ และเพิ่มโอกาสทำมาค้าขายให้แก่ประเทศไทยมากขึ้น
แต่ผ่านไป 10 ปีแล้วหลายอย่างยังย่ำอยู่กับที่ การบริโภคในประเทศยังไม่สามารถเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เรายังคงพึ่งพาการส่งออก และการท่องเที่ยว เมื่อเกิดวิกฤติโรคระบาด รายได้แทบเป็นศูนย์ รัฐบาลขาดยุทธศาสตร์การเยียวยาที่มีประสิทธิภาพ ประชาชนต้องกู้หนี้ยืมสิน ส่งผลให้อัตราหนี้ครัวเรือนพุ่งสูงกว่า 90% ค่าแรงแทบไม่ขยับ เงินเดือนปริญญาตรียังอยู่กับที่ แต่ค่าครองชีพกลับถีบตัวสูงขึ้น ขณะที่สินค้าเกษตรตกต่ำยังเป็นปัญหาเดิมที่เผชิญทุกปี แต่รัฐบาลกลับไร้กลไก และมาตรการในการยกระดับราคาสินค้าเพื่อสร้างความกินดีอยู่ดีให้แก่เกษตรกร ส่งผลให้ความเหลื่อมล้ำของไทยยิ่งแย่ลง รวยกระจุก จนกระจาย ขณะที่การจัดเก็บรายได้ของภาครัฐก็ย่ำแย่ต้องทำงบประมาณขาดดุล ต้องกู้จนเต็มเพดานซึ่งจะกลายเป็นภาระของประชาชน และเป็นภาพที่ไม่ดีนักต่อสายตานักลงทุน
หากไม่มีการรัฐประหารในวันนั้น แผนงานต่าง ๆ ที่แถลงไว้ต่อรัฐสภาคงสำเร็จเป็นรูปธรรมไปนานแล้ว ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นไม่เลวร้ายอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน สำหรับบางคนเวลา 7 ปีหลังรัฐประหารภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อาจจะผ่านไปเร็ว แต่สำหรับคนส่วนใหญ่แล้วสถานการณ์ความยากลำบากที่เกิดขึ้น มันเป็นความยาวนาน และทรมานของคนไทยทั้งประเทศค่ะ เป็นเรื่องน่าเสียดายที่เราต้องมาหาหนทางเริ่มต้นกันใหม่กับโอกาสที่เสียไป.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |