งบฯ ราชการในพระองค์


เพิ่มเพื่อน    

งบฯ ๖๕ ผ่านสภาวาระ ๓ ไปแล้ว

            แต่ทิ้งร่องรอยบางอย่างไว้ตลอดกาล

            เดิมทีงบประมาณส่วนราชการในพระองค์ สภาผู้แทนราษฎรไม่เคยตัด

            ไม่มี ส.ส.คนไหนขอสงวนคำแปรญัตติเพื่อปรับลดงบประมาณมาก่อน

            ครั้งนี้ ส.ส.พรรคก้าวไกล ตั้งแต่หัวหน้าพรรคยันลูกพรรค มาเป็นทีมแบ่งประเด็นการอภิปราย เพื่อปรับลดงบประมาณ

            นับแต่อดีตไม่มีกฎข้อห้ามว่า ส.ส.จะอภิปราย ปรับลดงบประมาณ หรือตัดงบประมาณ            ส่วนราชการในพระองค์ หรืองบประมาณส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์

            และไม่มี ส.ส.คนไหน อภิปราย ปรับลด ตัดงบประมาณในส่วนนี้

            เพราะต่างเข้าใจดีว่า เป็นงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรและไตร่ตรองมาดีแล้ว 

            แต่นี่เป็นครั้งแรกโดยพรรคก้าวไกล

            ตั้งแต่การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ วาระที่ ๑ พรรคก้าวไกล มีเจตนาชัดเจน ที่สร้างกระแสขึ้นมา

            ต่อมาในชั้นกรรมาธิการ "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่นั่งเป็นกรรมาธิการอยู่ด้วย แสดงจุดยืนในที่ประชุมว่า ต้องการให้มีการพิจารณางบประมาณส่วนราชการในพระองค์โดยละเอียดเพราะเอกสารชี้แจงงบประมาณมีเพียงแค่ ๗ หน้าเท่านั้น

            "พิธา" ขู่ว่า ถ้าไม่มีรายละเอียด ไม่มีตัวแทนจากหน่วยงานดังกล่าวมาชี้แจง ก็ต้องเสนอให้มีการแขวนหรือเลื่อนการพิจารณางบประมาณหน่วยงานนี้ไปก่อน

            มาดูกันว่างบประมาณส่วนราชการในพระองค์ ที่อยู่ที่ ๘,๗๖๑ ล้านบาทนั้นประกอบด้วยอะไรบ้าง

            งบประมาณด้านบุคลากรในพระองค์ ๘,๐๙๘ ล้านกว่าบาท

            ประกอบด้วยสำนักองคมนตรี

            สำนักพระราชวัง

            และค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่นค่าใช้จ่ายในด้านสาธารณูปโภค ค่าวัสดุต่างๆ ค่าชุดต่างๆ ค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม ค่าใช้จ่ายในการเดินทางทั้งในประเทศและต่างประเทศ

            ขณะที่ส่วนราชการในพระองค์มีบุคลากรจำนวนทั้งสิ้น ๑๔,๒๗๕  อัตรา

            ประกอบด้วย สำนักงานองคมนตรี สำนักงานพระราชวัง สำนักงาน  ๙๐๔ กองบัญชาการทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์

            และกองบัญชาการนายตำรวจราชองครักษ์ในพระองค์ ซึ่งกำลังพลที่โอนมาทั้งฝ่ายตำรวจและกลาโหม    เป็นการโอนตาม พระราชกำหนดโอนอัตรากำลังพล และงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กองทัพไทย  กระทรวงกลาโหม ไปเป็นของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์ พ.ศ. ๒๕๖๒ ที่พรรคก้าวไกลค้านมาตั้งแต่เป็นพรรคอนาคตใหม่

            เพราะเป็นงบประมาณที่ไม่ซับซ้อน ส่วนใหญ่เป็นงบประมาณด้านบุคลากร รายละเอียดจึงไม่จำเป็นต้องใส่ในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณมากนัก

            แต่หากจะเอาเป็นร้อยเป็นพันหน้าเหมือนที่พรรคก้าวไกลต้องการ  ก็คงต้องเขียนไว้ในร่าง พ.ร.บ.ว่านายคนนั้นเงินเดือนเท่าไหร่ นางคนนี้เงินเดือนเท่าไหร่ จึงจะได้รายละเอียดตามที่พรรคก้าวไกลต้องการ ซึ่งไม่มีงบประมาณกระทรวงไหนเขาทำกัน

            การลงมติร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ มาตรา ๓๖ ซึ่งเป็นงบส่วนราชการในพระองค์ ที่มี ส.ส.พรรคก้าวไกลเพียงพรรคเดียวอภิปรายนั้น  ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรลงมติไม่ปรับลด ๓๓๗ เสียง

            ไม่เห็นด้วย ๔๗ เสียง ซึ่งเป็น ส.ส.พรรคก้าวไกลทั้งหมด

            งดออกเสียง ๓ เสียง

            ไม่ลงคะแนนเสียง  ๕ เสียง 

            ใช่ว่าพรรคก้าวไกลไม่รู้ว่าผลโหวตจะออกมาตามนี้

            แต่รู้ทุกอย่าง และต้องการให้ผลออกมาอย่างที่เห็นกันอยู่

            พรรคก้าวไกลไม่ได้หวังผลในสภา

            นอกสภาต่างหากที่พรรคก้าวไกล ต้องการจุดประเด็นขึ้นมา

            เจตนาอภิปรายเพื่อให้กระทบกับสถาบันสูงสุดของประเทศในทางที่ตัวเองต้องการ 

            และนี่้เป็นหนึ่งในความพยายามปั่นกระแสปฏิรูปสถาบัน

            เพื่อให้สอดรับกับการเคลื่อนไหวของคณะก้าวหน้า "ปิยบุตร" ขึ้นป้ายขู่วันก่อนว่า วิธีการที่ดีที่สุดที่จะทำให้ประเทศไทยไม่เป็นสาธารณรัฐ คือ การปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์

            ครับ...พรรคก้าวไกลพยายามทำเรื่องนี้ให้เป็นประเด็นใหญ่

            ทั้งๆ ที่งบประมาณส่วนราชการในพระองค์คิดเป็นสัดส่วนประมาณ  ๐.๒๕% ของงบประมาณแผ่นดินทั้งหมด

            และพรรคก้าวไกลอีกเช่นกัน ที่ไปปั้นตัวเลข แล้วบอกว่างบพระมหากษัตริย์มีถึง กว่า ๓ หมื่นล้านบาท ด้วยการไปขุดตัวเลขจากกระทรวงต่างๆ รวมทั้งงบฯ โครงการพระราชดำริ

            แล้วมาบอกกับสาธารณชนว่า เป็นงบประมาณของสถาบันพระมหากษัตริย์

            มีการนำไปบิดเบือนกันต่อในกลุ่มมวลชนของตนเอง ว่า พระมหากษัตริย์ ทรงเป็นผู้บริหารงบประมาณทั้ง ๓ หมื่นกว่าล้านบาทที่ว่านี้

            ทั้งที่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลย

            นับเป็นเรื่องน่าเศร้าใจพรรคก้าวไกล ไม่ได้ถามในสภาด้วยซ้ำไปว่า ที่รัฐบาลต้องกู้มาเพื่อชดเชยความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว และโครงการบ้านเอื้ออาทร นั้นตั้งงบประมาณไว้เท่าไหร่ 

            ระงับไว้ก่อนได้หรือไม่

            เพราะสถานการณ์เช่นนี้นำเงินไปเหมา Pfizer ยกเข่งจากอเมริกา น่าจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติประชาชนกว่ากันเยอะ

            ไม่ใช่น้อยๆ นะครับ

            รัฐบาลลุงตู่ ยังต้องตามเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์อีกเป็นแสนๆ ล้านบาท

            วานนี้ (๒๒ สิงหาคม) ปิยบุตร ตั้งคำถามมาจากฝรั่งเศสว่า           "ทำไมสื่อไทย ทั้งสิ่งพิมพ์ โทรทัศน์ และโซเชียล มีเดีย ไม่นำเสนอเรื่องงบประมาณสถาบันกษัตริย์?"

            ก็ถามกลับไปยัง "ปิยบุตร" ว่า ไม่พอใจอะไรที่สื่อไทย ไม่นำเสนองบประมาณสถาบันพระมหากษัตริย์ในทิศทางที่ตัวเองต้องการ

            สื่อไทยนำเสนอกันถ้วนทั่วครับ

            เสนอว่า มีเพียงพรรคก้าวไกลเพียงพรรคเดียวเท่านั้น ที่ต้องการตัดงบประมาณส่วนราชการในพระองค์

            และ ส.ส.พรรคก้าวไกล พากันขยายความเรื่องนี้ด้วยตัวเอง

            เช่น "อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล" ส.ส.บัญชีรายชื่อ โพสต์เฟซบุ๊กว่า

                "...น่าเสียดายที่การอภิปรายของ ส.ส.ก้าวไกลยังไม่สามารถโน้มน้าวใจเพื่อน ส.ส.ในสภาให้ร่วมโหวตเห็นด้วยจนได้เสียงมากพอในการตัดลดงบประมาณส่วนราชการในพระองค์ ให้เหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจของประเทศ และสอดคล้องกับมาตรฐานสากลของประเทศที่มีการปกครองระบอบ ปชต.อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขอื่นๆ ได้..."

            ประชาธิปไตยคือระบอบการปกครองที่ถือมติประชาชนเป็นใหญ่ ไม่ใช่หรือ

            พรรคก้าวไกลมักอ้างประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจตัวเอง และใช้ส.ส.เป็นตัวแทนในการใช้อำนาจไม่ใช่หรือ

            ส.ส.ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ๓๓๗ คนลงมติไม่ปรับลด งบประมาณส่วนราชการในพระองค์ ไม่มีความหมายอะไรเลยหรือ

            หรือว่า ๔๗ เสียงของพรรคก้าวไกลใหญ่กว่าใคร ทุกคนต้องฟังและทำตาม

            ครับ...งบประมาณเป็นเพียงหนึ่งในประเด็นเล็กๆ ที่พรรคก้าวไกลจุดขึ้นมาเพื่อนำไปสู่จุดมุ่งหมายหลัก คือการวิพากษ์วิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์

            เป้าหมาย "ปิยบุตร" เป็นคนถือธงนำ 

            ต้องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ตามแนวทางที่คนกลุ่มนี้ต้องการเท่านั้น

            ถ้าไม่ทำ ก็เป็นสาธารณรัฐ.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"