ไม่กี่วันหลังยึดกรุงคาบูล กลุ่มตอลิบันประกาศหลักนโยบายของตน มีสาระสำคัญดังนี้
ประการแรก ประกาศชัยชนะขับไล่พวกต่างชาติ
ชี้ว่าเป็นความภูมิใจของคนทั้งชาติ ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นบ่อย เป็นสิทธิอันชอบธรรมที่ทุกชาติจะแสวงหาเสรีภาพและอิสรภาพ คนอัฟกันต่อสู้เพื่อสิ่งนี้มาแล้ว 20 ปีเพื่อปลดปล่อยการยึดครอง อย่างไรก็ตามรัฐบาลใหม่ต้องการเป็นมิตรกับทุกประเทศ
สถาปนารัฐอิสลามในนาม Islamic Emirate of Afghanistan เป็นไทจากมหาอำนาจนักล่าอาณานิคม
วิเคราะห์: ตอลิบันเริ่มต้นด้วยการประกาศชัยชนะดังกล่าว เป็นเป้าหมายข้อแรกของตนที่ยึดว่าอัฟกานิสถานเป็นดินแดนของมุสลิมอัฟกัน ห้ามชนชาติอื่นโดยเฉพาะคนต่างศาสนามาตั้งมั่นในประเทศ เป็นเรื่องเกี่ยวพันกับศาสนาโดยตรง
มองย้อนหลัง 50 ปี เมื่อกองทัพสหภาพโซเวียตรุกรานอัฟกานิสถาน จัดตั้งรัฐบาลหุ่น เป็นที่มาของมูจาฮิดีนที่ประกอบด้วยคนอัฟกันกับมุสลิมอีกหลายประเทศ ที่ร่วมกันทำสงครามขับไล่กองทัพโซเวียต แต่หลังจากตอลิบันตั้งรัฐบาลได้ 5 ปี (1996-2001) ก็เผชิญสงครามต่อต้านก่อการร้ายของสหรัฐกับพวกอีก รัฐบาลสหรัฐตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยอัฟกัน ต่อสู้กันเรื่อยมา หนักบ้างเบาบ้างถึง 20 ปี จนวันนี้ตอลิบันกลับมาครองอำนาจอีกครั้งหลังประชาชนเสียชีวิตนับแสน หลายล้านคนอพยพหนีออกนอกประเทศ
ประการที่ 2 จะไม่แก้แค้นใครทั้งสิ้น
ตอลิบันประกาศชัดว่าประเทศจะต้องไม่เป็นพื้นที่แห่งความขัดแย้ง ไม่เป็นเขตสงครามของใครอีกต่อไป ตอลิบันไม่เป็นปรปักษ์กับใครไม่ว่าจะในหรือต่างประเทศ ไม่อยากให้ใครอพยพออกนอกประเทศ เพราะอัฟกานิสถานเป็นบ้านของชาวอัฟกันทุกๆ คน ได้รับอภัยโทษ
ในความขัดแย้งที่แล้วมาระหว่างนักรบตอลิบันกับฝ่ายต่างๆ นั้น ตอลิบันทำเพื่อประโยชน์และความมั่นคงของประเทศ การทำสงครามจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่นเดียวกับการบาดเจ็บเสียชีวิต
ทุกคนในกรุงคาบูลจะปลอดภัย ได้รับความคุ้มครองดูแล รวมทั้งคนที่เคยเป็นทหาร เจ้าหน้าที่รัฐ คนที่ทำงานให้กับต่างชาติ ขอประกันความปลอดภัยของสถานทูต ชาวต่างชาติ องค์กรระหว่างประเทศ หน่วยงานความช่วยเหลือต่างๆ
ตอลิบันจะไม่ปล่อยให้เกิดอาชญากรรม พวกฉวยประโยชน์ จะไม่ยอมให้ใครใช้แผ่นดินอัฟกานิสถานเพื่อต่อต้านใครหรือประเทศใด ขอให้ประชาคมโลกมั่นใจเรื่องนี้
วิเคราะห์: นโยบายของตอลิบันชัดเจนว่าจะไม่ยอมเป็นฐานที่มั่นของนักรบต่างชาติหรือผู้ก่อการร้ายใดๆ อีก ซึ่งเป็นต้นเหตุให้สหรัฐกับพวกบุกอัฟกานิสถานเพื่อกวาดล้างอัลกออิดะห์ อย่างไรก็ตามมีผู้วิเคราะห์ว่าอัฟกานิสถานมีภูมิประเทศซับซ้อน และอำนาจตอลิบันอาจครอบคลุมไม่ทั่วถึง อาจเป็นฐานหรือที่หลบซ่อนของผู้ก่อการร้ายอีก นาโตเตือนแล้วว่าหากเป็นแหล่งกบดานของผู้ก่อการร้าย นาโตพร้อมโจมตีแม้อยู่ห่างไกล
ประการที่ 3 รัฐบาลใหม่ที่รวมทุกกลุ่ม
เป็นช่วงเวลากำลังหารือจัดตั้งรัฐบาลอิสลามที่รวมทุกกลุ่มคนเข้าด้วยกัน เป็นรัฐบาลที่เข้มแข็ง ตลอด 20 ปีที่ผ่านมาตอลิบันยึดมั่นอิสลามแต่ได้เติบใหญ่ผ่านประสบการณ์ จึงต่างจากตอลิบันเมื่อ 20 ปีก่อน
ประการที่ 4 ยึดถือหลักศาสนา วัฒนธรรมของเรา
ขอให้นานาชาติยอมรับอัฟกานิสถานเช่นเดียวกับที่อัฟกานิสถานจะยอมรับประชาคมโลก ทั้งนี้ตอลิบันจะยึดถือหลักศาสนา วัฒนธรรมของเรา เป็นสิทธิอันชอบธรรมของพวกเราอัฟกัน ดังเช่นที่นานาประเทศมีกฎหมาย นโยบาย มุมมองของตน
ยกตัวอย่างเรื่องสตรี ตอลิบันจะรักษาสิทธิสตรีตามกฎหมายชารีอะห์ (sharia) ในทุกมิติ ทั้งเรื่องการทำงาน การศึกษา สุขภาพ การดำเนินคดี เช่นเดียวกับชายที่ต้องอยู่ใต้กฎหมายดังกล่าว และตามกฎระเบียบอื่นๆ โดยไม่เลือกปฏิบัติ
วิเคราะห์: มุสลิมทั่วโลกยึดกฎหมายชารีอะห์ แต่ต้องเข้าใจว่า แต่ละนิกาย แต่ละกลุ่มตีความกฎหมายดังกล่าวแตกต่างกัน การปฏิบัติในแต่ละประเทศ แต่ละพื้นที่จึงแตกต่างกันด้วย กรณีตอลิบันก็เช่นเดียวกัน ในอดีตตีความอย่างเคร่งครัดตามแนวทางของตน เป็นที่รับรู้ทั่วไปว่ามุสลิมบางคนแม้ในอัฟกานิสถานเองไม่เห็นด้วยกับการตีความของตอลิบัน เป็นเรื่องน่าติดตามว่าตอลิบันในปี 2021 นี้จะตีความชารีอะห์อย่างไร
ประการที่ 5 ส่งเสริมเศรษฐกิจ
ทันทีที่สถานการณ์สงบ จะเร่งสร้างระบบเศรษฐกิจ สัมพันธ์กับนานาชาติ เพื่อเศรษฐกิจที่ประชาชนอยู่ดีกินดี คนอัฟกันต้องการชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ตอลิบันจะส่งเสริมการค้าการลงทุนทั่วประเทศ
วิเคราะห์: การให้ความสำคัญพัฒนาเศรษฐกิจดูเหมือนเป็นแนวทางที่ต่างจากอดีต และชี้ให้เห็นว่าตอลิบันตระหนักถึงสภาพเศรษฐกิจประเทศ ให้ความสำคัญกับการอยู่ดีกินดีซึ่งเป็นเรื่องใหญ่หากใช้มุมมองการพัฒนาประเทศทั่วไป และจะเกี่ยวข้องกับการพัฒนาประเทศในด้านอื่นๆ ด้วย
ประการที่ 6 สื่อสารมวลชน
สื่อแขนงต่างๆ สามารถทำหน้าที่อย่างอิสระภายใต้กฎระเบียบ เช่น ห้ามต่อต้านอิสลาม เมื่อสื่อจะนำเสนอเรื่องใดๆ ต้องคำนึงว่าไม่ต่อต้านศาสนา นำเสนออย่างเป็นกลาง ส่งเสริมคุณค่าของชาติ เอกภาพ เรื่องที่เป็นฉันทามติ ไม่เน้นเรื่องความแตกแยกของชาติพันธุ์ ความแตกต่างทางศาสนาหรือความเป็นปรปักษ์
วิเคราะห์: เรื่องสื่อแสดงให้เห็นชัดว่า แม้ตอลิบันยอมรับการมีอยู่ของความหลากหลายศาสนานิกาย หลายชาติพันธุ์ แต่ตอกย้ำส่งเสริมศาสนาในแบบของตนเท่านั้น ห้ามสื่อนำเสนอเรื่องที่สร้างความแตกแยกไม่ว่าจะศาสนาหรือชาติพันธุ์
ประการที่ 7 ต่อต้านยาเสพติด
ในปี 2001 ประเทศไม่ผลิตยาเสพติดเลยแต่หลังจากนั้นยาเสพติดเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลายคนมีส่วนเกี่ยวข้องแม้กระทั่งคนในรัฐบาล นับจากนี้เป็นต้นไปทุกคนต้องไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดอีก ตอลิบันไม่อยากเห็นคนหนุ่มสาวติดยา คนที่ไม่เห็นอนาคต นับจากนี้อัฟกานิสถานจะเป็นประเทศปลอดยาเสพติด และยินดีรับความช่วยเหลือจากนานาชาติเพื่อการนี้ ช่วยส่งเสริมปลูกพืชทดแทน แน่นอนว่าต้องใช้เวลา แต่จะสำเร็จ
วิเคราะห์: อัฟกานิสถานประเทศผู้ปลูกฝิ่นมากที่สุดในโลกและปลูกมานานแล้ว ช่วงปี 1935-1945 ฝิ่นเป็นสินค้าออกสำคัญอย่างหนึ่ง ในอดีตคนทั่วไปสามารถซื้อหาฝิ่นตามท้องตลาด สามารถปลูกและซื้อขายโดยเสรี ในอดีตการปลูกและเสพฝิ่นเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่งของชาวบ้าน
เป็นความจริงที่ว่าการปลูกฝิ่นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังปี 2001 หลังกองทัพสหรัฐกับพันธมิตรโค่นล้มรัฐบาลตอลิบัน และแม้รัฐบาลประชาธิปไตยประกาศให้การปลูกการค้าฝิ่นผิดกฎหมาย แต่นโยบายต่อต้านยาเสพติดไม่ได้ผล ทุกวันนี้อัฟกานิสถานเป็นสวรรค์ของนักค้ายาเสพติด
สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะ การปลูกฝิ่นเป็นรายได้สำคัญของพวกหัวหน้าเผ่าและกองกำลังติดอาวุธท้องถิ่น อีกทั้งเป็นรายได้สำคัญของชาวบ้าน เนื่องจากมีพื้นที่เพาะปลูกเพียงเล็กน้อย เป็นแรงกดดันให้ปลูกพืชที่ทำเงินมากที่สุด ฝิ่นคือคำตอบเพราะมีผู้รับซื้อทั้งหมด และให้ราคาสูงว่าพืชผลชนิดอื่นๆ
ตอลิบันมาถูกทางที่ร้องขอความช่วยเหลือจากนานาชาติช่วยแก้ปัญหาฝิ่น แต่จะได้ผลมากน้อยเพียงไรเป็นเรื่องน่าติดตาม เป็นอีกประจักษ์พยานบ่งบอกความสำเร็จของแนวการปกครองแบบตอลิบัน
รัฐอิสลาม Islamic Emirate of Afghanistan ของตอลิบันจะเป็นที่จับตาของนานาชาติอีกนาน ทั้งเรื่องการเป็นแหล่งกบดานของผู้ก่อการร้าย สิทธิมนุษยชน การแก้ปัญหายาเสพติด แนวทางระบอบการปกครองอิสลามอีกรูปแบบหนึ่ง.
--------------
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |