‘สภา’ลากยาวพ่นน้ำลาย เพิ่มวันถกงบประมาณ65


เพิ่มเพื่อน    

วาระ 2 ถกงบประมาณปี 2565 ยิ่งกว่าเต่าคลาน ซ้ำร้ายงัดเรื่องส่วนตัวฟัดกันนัว ฝ่ายค้านพาเหรดแห่ชงตัดโน่นนี่ แต่สุดท้ายเสียงลงมติยึดตามกรรมาธิการ “พลังงาน-พาณิชย์-มหาดไทย-ยุติธรรม” ผ่านฉลุย คาดต้องเพิ่มวันให้ทั่นผู้แทนจ้อ
    เมื่อวันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม ถือเป็นวันที่ สามที่สภาผู้แทนราษฎรได้มีการประชุมเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พุทธศักราช 2565 ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท โดยนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรอบเวลาประชุมว่า การแปรญัตติเป็นสิทธิของผู้แปรญัตติ ซึ่งไปย่อความเขาไม่ได้ แต่ที่สำคัญคือเวลาหายไปวันละ 5 ชั่วโมง เพราะที่ผ่านมาประชุมกันถึงเวลาเที่ยงคืนก็มี แต่ปัจจุบันไม่อาจขยายเวลาถึงเที่ยงคืนได้ เพราะสมาชิกไม่พร้อม ดังนั้นแนวโน้มเรื่องขยายเวลาต้องดูว่าวันนี้จะประชุมได้ถึงเมื่อใด
     เมื่อถามว่า พร้อมประชุมในวันเสาร์ที่ 21 ส.ค.ใช่หรือไม่ นายชวนกล่าวว่า จบเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ส่วนจะประชุมในวันที่ 21 ส.ค.หรือไม่ ก็เป็นไปได้ ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนภาพรวมในการประชุมนั้นเป็นไปด้วยดี เพียงแต่มีสมาชิกบางคนยังอภิปรายเหมือนวาระ 1 ก็พยายามเตือนว่าวาระนี้เป็นวาระแปรญัตติ
ขณะเดียวกัน นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ ในฐานะโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงถึงกรณี ส.ส.ตั้งข้อสังเกตการตั้งงบประมาณของ กต.ว่าฟุ่มเฟือยและไม่สอดคล้องสถานการณ์ปัจจุบัน ว่า กต.คำนึงถึงผลกระทบของสถานการณ์โรคโควิด-19 ที่มีต่อประเทศ โดยได้ของบในรายการที่จำเป็นต่อการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยเฉพาะการคุ้มครองและดูแลคนไทยในต่างประเทศ รวมถึงคำนึงถึงความประหยัด คุ้มค่า และเหมาะสม นอกจากนี้ โฆษก กต.ยังชี้แจงถึงเหตุผลการจัดซื้อรถยนต์ประจำตำแหน่ง 12 คัน และครุภัณฑ์ อาทิ ตู้แช่ไวน์และเครื่องอุ่นจาน โดยให้เหตุผลว่าของเก่าใช้มานานแล้ว
ทั้งนี้ ในการประชุมสภา ได้เริ่มที่มาตรา 18 งบประมาณรายจ่ายของกระทรวงพลังงาน จำนวน 1,873,129,300 บาท โดยนายพิสิฐ ลี้อาธรรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะรองประธาน กมธ.กล่าวว่า ขอตัดงบ 5% เพราะต้องการให้ตื่นตัวและเป็นหันมาใช้พลังงานสะอาดอย่างแสงแดดและลมมากกว่านี้ 
นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย (ภท.) อภิปรายว่า การตั้งงบประมาณของกระทรวงพลังงานตั้งงบแบบชาญฉลาด เพราะเป็นลักษณะผูกพันประจำปีเกือบทุกโครงการ ทำให้ กมธ.ไม่สามารถตัดได้ จึงขอปรับลดงบ 7% และขอเรียกว่างบทิพย์ เพราะไม่สามารถตัดได้จริง
    จากนั้นเวลา 11.40 น. ที่ประชุมเห็นชอบมาตรา 18 งบประมาณกระทรวงพลังงาน ด้วยมติ 229 ต่อ 109 งดออกเสียง 1 ไม่ลงคะแนน 2 เสียง
ต่อมาเวลา 11.45 น. ได้พิจารณามาตรา 19 งบกระทรวงพาณิชย์ (พณ.) 3,601,805,300 บาท โดยนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล กมธ.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย (พท.) อภิปรายว่า พรรค ปชป.มีนโยบายประกันรายได้ ประกาศจะประกันรายได้ข้าวหอมมะลิอยู่ที่ 18,000 บาท ข้าวขาวอยู่ที่ 12,000 บาท แต่วันนี้ราคาข้าวตกต่ำ เกษตรกรฝากมาถามว่าตกลงประกันราคาข้าวอยู่ที่ราคาเท่าไหร่ เกษตรกรเดือดร้อนมาก สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ โครงการจำนำข้าว ประกาศให้ข้าวหอมมะลิอยู่ที่ 20,000 บาท ข้าวขาวอยู่ที่ 15,000 บาท วันนี้ไม่มีโครงการจำนำข้าวแล้ว ประชาชนทั้งประเทศลำบากหมด นอกจากนี้ยังมีความเดือดร้อนของชาวสวนลำไย เพราะราคาตกต่ำ กรมการค้าภายในมีงบช่วยเหลือ 500 ล้านบาท ถามว่าเงินส่วนนี้อยู่ที่ไหน จึงขอปรับลดเงินส่วนนี้ 500 ล้านบาทให้หมด 
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรค พท. อภิปรายว่า สาเหตุที่ปรับลดงบประมาณของ พณ. เพราะความล้มเหลวในการดูแลสินค้าเกษตร นโยบายประกันรายได้เกษตรกร  มีพืชหลักอยู่ 5 ตัว ได้แก่  ข้าว มันสำปะหลัง อ้อย ยางพารา และปาล์ม ถามว่าเกษตรกรที่ปลูกพืชผักผลไม้ชนิดอื่น เขาเป็นอะไร เป็นลูกเมียน้อยหรือ 
ขณะที่นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ภท. อภิปรายว่า ขอปรับลดงบ 2% เพราะดูผลงานการแก้ไขปัญหาให้เกษตรกรที่ผ่านมาผิดหวังจริงๆ 
      หลังจาก ส.ส.มีการอภิปรายพอประมาณ ที่ประชุมลงมติเห็นชอบมาตรา 19 ตามที่คณะ กมธ.แก้ไข ด้วยคะแนน 249 ต่อ 114 งดออกเสียง 1 ไม่ออกเสียง 2 เสียง
    ต่อมาในช่วงเย็น ในการพิจารณางบประมาณกระทรวงมหาดไทย ในมาตรา 20 วงเงิน 259,593,878,500 บาท วันเดียวกัน นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กมธ.ในสัดส่วนพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อภิปรายตอนหนึ่งเกี่ยวกับการอบรมสัมมนาว่า ควรตรวจสอบการรั่วไหล เพราะขนาดในสภายังมีคนหน้าคุ้นๆ ที่เป็นอดีตนั่งกินข้าวกินน้ำหลวงที่จัดสรรไว้ให้ ส.ส. คนเราเวลาจะไปพูดถึงคนอื่นต้องรู้จักตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาตัวเองก่อน เราพิจารณาตรวจสอบงบประมาณแผ่นดิน 3.1 ล้านล้านบาท ต้องมีความสง่างาม โปร่งใส 
นายยุทธพงศ์ จรัสเถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรค พท. อภิปรายว่า ขอปรับลดลง 10% ก่อนจะมีการตอบโต้เรื่องกินอาหารหลวงของนายเรืองไกร โดยระบุว่า ประธานต้องบอก รปภ.ว่า กมธ.ที่ไม่ได้เป็น ส.ส.บุคคลภายนอกอาจขโมยของหลวงกลับไปด้วย  
จากนั้น นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรค พปชร. ลุกขึ้นประท้วงว่า การพิจารณาไปอย่างล่าช้า เหตุเพราะนำเรื่องแค้นส่วนตัวมาใส่ในสภา ทำให้นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาคนที่ 2 ได้กล่าวเตือนนายยุทธพงศ์เป็นระยะๆ ว่าให้อภิปรายเรื่องที่เกี่ยวกับ มท. และไม่ให้พาดพิงถึงใครหรือองค์กรอื่น   
ต่อมาบรรดา ส.ส.พรรคฝ่ายค้านยังคงเดินหน้าให้ปรับลดงบที่คาดว่าไม่จำเป็น ซึ่งหลังจากที่ได้อภิปรายครบถ้วนได้ลงมติ ผลปรากฏว่าเสียงข้างมาก 233 เสียงเห็นด้วยกับ กมธ.เสียงข้างมากต่อ 104 เสียง
ในช่วงค่ำ มีการอภิปรายในมาตรา 21 งบประมาณของกระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานในกำกับวงเงิน 11,803,483,800 บาท โดย ส.ส.ฝ่ายค้านยังคงเสนอให้ตัดงบในหลายส่วนไม่ต่างจากมาตราก่อนหน้า อาทิ ตัดงบครุภัณฑ์ชุดปราบการก่อการร้าย และกรมราชทัณฑ์ ซึ่งหลังจากการอภิปรายของสมาชิกแล้วเสร็จ ที่ประชุมได้ลงมติ โดยเสียงข้างมาก 222 เสียงเห็นชอบกับ กมธ.เสียงข้างมากต่อ 77 เสียง
ทั้งนี้ มีแนวโน้มว่าการประชุมอาจต้องขยายเวลาออกไปอีก เนื่องจากการพิจารณาเป็นไปด้วยความล่าช้า เพราะมีผู้เสนอแปรญัตติเป็นจำนวนมาก และบางรายมีการอภิปรายเหมือนวาระหนึ่ง จนทำ 3 วันที่ผ่านมาเพิ่งเกินครึ่งทางคือ มาตรา 22 กระทรวงแรงงาน วงเงิน 45,723,428,000 บาท ทั้งที่กฎหมายดังกล่าวมีถึง 42 มาตรา.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"