"ตำรวจ" จับมือเผาป้อมจราจรใต้ด่วนดินแดงแล้ว พร้อมรวบ 3 แนวร่วมป่วนกรุง ยึดระเบิดปิงปอง 75 ลูก สารภาพเคยไปแจกจ่ายผู้ชุมนุม "โฆษก บช.น." ย้ำวงจรปิดจับภาพชัดคนยิงเยาวชน 15 ปีหน้า สน.ดินแดง ยันไม่ใช่ ตร. เล็งเรียก "ณัฐวุฒิ" ให้ข้อมูลหลังปูดรู้ตัวคนร้าย "เต้น" รีบขานรับมาแน่ "สิระ" เตรียมนำ กมธ.ลงพื้นที่ดูเหตุการณ์ "ทะลุฟ้า" เดินสายร้องเรียน 3 สถานทูต จ๋อย "สถานทูตจีน" ส่ง รปภ.มารับหนังสือ "แยกดินแดง" ยังปะทะรายวัน
     ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) วันที่ 20 ส.ค. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะโฆษก บช.น.แถลงถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีผู้ชุมนุมที่วางเพลิงตู้ควบคุมสัญญาณจราจรใต้ด่วนดินแดงเมื่อวันที่ 10 ส.ค.ว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บช.น.นำหมายศาลอาญาที่ 364/2564 เข้าทำการตรวจค้นจับกุมตัวผู้ต้องหาเผาตู้ควบคุมสัญญาณจราจรใต้ด่วนดินแดงดังกล่าว  พร้อมแจ้งข้อหาวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น ร่วมกันมั่วสุมสมคบกันตั้งแต่  10 คนขึ้นไปก่อความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมือง ฝ่าฝืนข้อกำหนด  พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
    ถามถึงกรณีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดง ระบุว่าคนร้ายที่ยิงเยาวชน 2 คนได้รับบาดเจ็บใกล้ สน.ดินแดงเป็นสายตำรวจ ได้ตรวจสอบแล้วหรือไม่ พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์ เภตรา ผบช.น.สั่งการให้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกให้นายณัฐวุฒิมาให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนวันศุกร์ที่ 27 ส.ค.นี้ 
    "ต้องขอบคุณประชาชนหรือสื่อมวลชนที่ให้ข้อมูลกับตำรวจ ไม่ใช่เฉพาะนายณัฐวุฒิอย่างเดียว ตำรวจทำอย่างตรงไปตรงมาในกรอบกฎหมาย ทุกข้อมูลจะถูกนำเข้าสำนวนการสอบสวน ชั่งน้ำหนักพยานมีความเชื่อมโยงกันอย่างไร มีน้ำหนักพยานแค่ไหน จากนั้นจะนำมาประกอบเป็นสำนวนการสอบสวน บางส่วนที่ได้มาสอดคล้องกับข้อมูลของเจ้าหน้าที่หรือไม่" พล.ต.ต.ปิยะกล่าว
    โฆษก บช.น.กล่าวว่า ผบช.น.ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก โดยให้ พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร จเรตำรวจ ช่วยราชการ บช.น.ลงไปควบคุมการปฏิบัติด้วยตัวเอง โดยใช้เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพิสูจน์หลักฐานกลาง เจ้าหน้าที่ตรวจขีปนวิถีกว่า 100 นายเข้าตรวจสอบเก็บพยานหลักฐาน เก็บรอยเลือดเพื่อตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ จุดที่เชื่อว่ามีการยิงเยาวชนอายุ 15 ปีอยู่ใกล้โรงแรมปริ๊นส์ตั้น ด้านหลัง สน.ดินแดง จากนั้นคนเจ็บวิ่งมาล้มลงใกล้ สน.ดินแดง ซึ่งในส่วนนั้นเจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานแล้วส่วนหนึ่ง แต่ขอสงวนไว้ก่อนเพราะเข้าสู่กระบวนการสอบสวนแล้ว ยืนยันว่ามีพยานหลักฐานชัดเจนแน่นอน และประจักษ์สำคัญผู้ได้รับบาดเจ็บอายุ 14 ปีที่ยืนยันว่าคนยิงไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และไม่ได้ยิงจาก สน.ดินแดง
    ส่วน พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาญชากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย พร้อมตรวจยึดของกลางวัตถุระเบิดปิงปอง 75 ลูกว่า จากการสืบสวนพบมีกลุ่มวัยรุ่นลักลอบผลิตและจำหน่ายวัตถุระเบิดให้ประชาชนทั่วไปผ่านแพลตฟอร์มสื่อออนไลน์ บช.สอท.จึงได้สืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน กระทั่งศาลอนุมัติหมายค้นสถานที่ที่น่าเชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตและเก็บวัตถุระเบิดของกลาง จำนวน 4 จุดในพื้นที่ย่านดอนเมือง 
รวบ 3 นิ้วยึดระเบิดปิงปอง
    จากการเข้าตรวจค้นพบระเบิดปิงปองรวม 75 ลูก ซุกซ่อนอยู่ภายในบ้านพักของผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย หนึ่งในผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า  เคยนำประทัดยักษ์ไปแจกจ่ายให้ผู้ชุมนุมเพื่อนำไปขวางใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน ที่บริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดงเมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา จึงคุมตัวส่ง สน.ดอนเมือง แจ้งข้อหาทำซื้อ มีใช้ สั่ง นำเข้า ค้า หรือจำหน่ายด้วยประการใดๆ ซึ่งวัตถุระเบิด ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน  เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน   พ.ศ.2490 มาตรา 38, 74 มีอัตราโทษคุก 1 ปี ถึง 20 ปี ปรับตั้งแต่  2,000 บาท ถึง 40,000  บาท
    ขณะที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดง โพสต์เฟซบุ๊กตอนหนึ่งว่า "ถ้าตำรวจตั้งใจจะสอบความจริงเรื่องยิงเด็กที่ดินแดงคงไม่ซับซ้อนมาก ไล่กล้องไล่คนตามนั้นก็น่าจะเห็น ข่าวทางผมเขาชี้กันแล้วว่าใครยิง ผมฟันธงเองไม่ได้ ข้อมูลในมือตำรวจต้องมีมากกว่า อยู่ที่จะตรงไปตรงมากันหรือไม่ จะเรียกไปถามผมพร้อมตั้งแต่บัดนี้ ไม่ต้องรอถึง 27  ส.ค. แต่ก่อนจะคุยกันควรบอกผมด้วยว่าได้ถามคน 6 คน ตำรวจ 2 นาย  สาย 4 คนในซอยโรงกรองน้ำหรือยัง ได้ข้อเท็จจริงสำคัญหรือไม่ ยิงกันใกล้ สน.ขนาดนี้ ช้าไปจะยิ่งดูไม่ดี" นายณัฐวุฒิระบุ
    ที่รัฐสภา ในการประชุมกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร มีนายสิระ เจนจาคะ เป็นประธาน ได้หารือเพื่อหาทางออกการชุมนุมทางการเมือง หลังจากมีประชาชนร้องเรียนได้รับผลกระทบจากการชุมนุมและจากปฎิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเฉพาะย่านดินแดงที่มีการชุมนุมและปะทะกันอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นที่ประชุมมีมติจะลงพื้นที่สังเกตการณ์การชุมนุมที่เกิดขึ้นในวันที่ 22 ส.ค.นี้ ร่วมกับกรรมาธิการพัฒนาการเมือง และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพื่อติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนเดินหน้าตรวจสอบการดำเนินงานของฝ่ายต่างๆ ต่อไป
    ที่กรมราชทัณฑ์ นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์ ชี้แจงการรักษานายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน ที่ติดเชื้อโควิด-19 และเข้ารับการรักษาตัวที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ว่า วันนี้ผู้ป่วยรู้สึกตัวดี ไม่มีไข้ ไม่มีอาการหอบเหนื่อย มีอาการไอมีเสมหะเล็กน้อย อัตราการหายใจ 20 ครั้ง/นาที  อัตราการเต้นของชีพจร 68 ครั้ง/นาที ความดันโลหิต 108/53 มิลลิเมตรปรอท ค่าออกซิเจนปลายนิ้ว 98% รับประทานอาหารได้ สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้เอง จมูกได้กลิ่นและลิ้นรับรสได้ปกติ นอนพักหลับได้ปกติ แพทย์ให้การรักษาด้วยยาฟาวิพิ​ราเวียร์ ร่วมด้วยกับยาพ่นโรคหอบ ยารักษาตามอาการ และสังเกตอาการใกล้ชิด 
    วันเดียวกัน ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ตั้งแต่เวลา 10.00 น. กลุ่มทะลุฟ้าได้จัดกิจกรรม "Car Mob สัญจรยื่นหนังสือทะลุโลกเปิดโปงทรราชให้ต่างชาติได้รับรู้" โดยตั้งขบวนที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อเดินไปยื่นหนังสือแก่สถานเอกอัครราชทูต​ 3 แห่ง โดยเริ่มต้นเวลา 11.45 น. ไปสถานเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย ถนนวิทยุ เพื่อร้องเรียนเกี่ยวกับกรณีเจ้าหน้าที่รัฐไทยใช้ปฏิบัติการทางกฎหมายในการสลายการชุมนุมของประชาชน เป็นการขัดต่อสนธิสัญญาเจนีวาที่ประเทศไทยร่วมลงนามกับประเทศสวิตเซอร์แลนด์และประเทศที่เกี่ยวข้อง 
    ต่อมาเวลา 12.30 น. เดินทางไปที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ร้องเรียนเกี่ยวกับกรณีการจัดสรรวัคซีนที่ได้รับมอบจากรัฐบาลอเมริกา แต่รัฐบาลไทยกลับมีการนำวัคซีนไปแจกจ่ายแก่กำลังพลในกองทัพ แทนที่จะเป็นบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า เพื่อรับมือกับโรคระบาดโควิด-19 
    เวลา 13.40 น. เดินทางไปที่สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เพื่อร้องเรียนเกี่ยวกับกรณีการที่รัฐบาลไทยจัดหาวัคซีนซิโนแวคจากบริษัท ซิโนแวค ไบโอเทค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนจีน จำนวนทั้งสิ้น 24.55 ล้านโดส ซึ่งเป็นวัคซีนที่คุณภาพต่ำไม่สามารถรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา  (อินเดีย) ​ได้
จ๋อยจีนส่ง รปภ.รับหนังสือ
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการมายื่นหนังสือของกลุ่มทะลุฟ้าครั้งนี้ ที่สถานทูตสวิตเซอร์แลนด์และสถานทูตสหรัฐฯ มีตัวแทนมารับมอบหนังสือ แต่ที่สถานทูตจีนปรากฏว่ามีชายไทยรายหนึ่งแต่งกายด้วยชุดสีดำ ระบุว่าเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสถานทูตจีน ขอถ่ายสำเนาเอกสารบัตรประชาชนของตัวแทนกลุ่มทะลุฟ้าที่มายื่นหนังสือและรับมอบหนังสือร้องเรียน
    ทั้งนี้ กลุ่มตัวแทนผู้ชุมนุมให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกผิดหวังที่สถานทูตจีน ส่งหัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยมารับหนังสือ หวังว่าจดหมายจะไปถึงเอกอัครราชทูตจีนและได้รับการตอบรับ เพราะคนไทยเดือดร้อนจากการต้องฉีดซิโนแวค ทั้งที่รัฐบาลจีนบอกเองว่าคุณภาพต่ำแต่รัฐบาลยังสั่งซื้อเพิ่มอีก
      จากนั้นเวลา 16.20 น. ได้มีกลุ่มวัยรุ่นขี่จักรยานยนต์มารวมตัวกันบริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดง ซึ่งเป็นจุดที่ปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกๆ วัน โดยมีบางส่วนไปรวมกันหน้าแนวตู้คอนเทนเนอร์ ฝั่งถนนวิภาวดีรังสิตขาออก จากนั้นเริ่มมีการขว้างปาประทัดยักษ์ ระเบิดปิงปองเข้าใส่แนวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
    วัยรุ่นรายหนึ่งระบุว่า ตนมาเพื่อไล่ พล.อ.ประยุทธ์ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไม่ได้มาก่อกวน มาด้วยใจ ไม่มีใครจ้าง สาเหตุที่ขว้างปาประทัดใส่เจ้าหน้าที่ เพราะตำรวจใช้ความรุนแรงยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยางเข้าสลายการชุมนุมก่อน
    เวลา 16.55 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ คฝ.ระดมยิงแก๊สน้ำตาใส่กลุ่มวัยรุ่น ส่งผลให้ควันแก๊สน้ำตาปกคลุมไปทั่วบริเวณถนนดินแดงและถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้า กลุ่มวัยรุ่นที่ขี่รถจักรยานยนต์ได้ล่าถอยมารวมตัวกันอยู่บริเวณช่วงปากซอยร่วมมิตร
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีชายรายหนึ่งคาดว่าเป็นสื่อมวลชนถูกวัตถุไม่ทราบชนิดเข้าบริเวณลำตัว ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ทำให้ผู้สื่อข่าวที่อยู่ข้างเคียงช่วยเหลือนำตัวออกจากแนวปะทะไปปฐมพยาบาล
     และในเวลา 17.00 น. คฝ.พร้อมอาวุธครบมือ ทั้งโล่ กระบอง และปืน ได้เดินเท้าเคลื่อนกำลังเข้าเคลียร์พื้นที่บริเวณแยกดินแดง ขณะที่อีกส่วนจัดเป็นชุดเคลื่อนเร็วเพื่อดำเนินการหากมีการรวมตัวของผู้ชุมนุมอีก  โดยพบวัตถุต้องสงสัยทำด้วยท่อพีวีซีคล้ายระเบิดไปป์บอมบ์ตกอยู่บริเวณเกาะกลางแยกดินแดง
    พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก สตช.กล่าวว่า วันนี้มีกลุ่มวัยรุ่น 50-60 คน ใช้รถจักรยานยนต์รวมตัวกันก่อเหตุรุนแรงบริเวณแยกดินแดง โดยใช้ของแข็งและวัตถุระเบิดขว้างใส่เจ้าหน้าที่ และพบระเบิดที่ยังไม่ทำงานส่วนหนึ่งตกอยู่ในพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่อีโอดีจะเก็บกู้ ขณะเดียวกันได้ตรึงกำลังบางส่วนเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยและเปิดการจราจรให้ใช้งานตามปกติ.