นายกฯ ตรวจเยี่ยมพัฒนาวัคซีนจุฬาฯ-ใบยา กรมวิทย์เปิดผลทดสอบฉีดไขว้ซิโนแวคกับแอสตร้าฯ ภูมิขึ้นสูงสู้เดลตาได้ดี ทั้งแบบสูตรผสมและบูสเตอร์เข็ม 3 เร่งศึกษากรณีฉีดเข้าชั้นผิวหนัง "อนุทิน" ตั้งคณะทำงานรวมข้อมูลจัดหาวัคซีนโควิด ผู้ว่าฯ ชลบุรีสั่งสอบเหตุคนสนิท ส.ส.ได้ฉีดไฟเซอร์ยกครอบครัว ผิดจริงฟันแน่
    เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม เวลา 10.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อมด้วยนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ร่วมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการพัฒนาวัคซีน ChulaCov19 (ชนิด mRNA) โดยมีนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) นพ.เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม ผอ.บริหารโครงการพัฒนาวัคซีนโควิค-19 ศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้บริหาร อว. ผู้บริหารสำนักพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ให้การต้อนรับ
    โดยคณะแพทย์ได้บรรยายความคืบหน้าการพัฒนาวัคซีน พร้อมระบุว่า วัคซีนนี้จะกระตุ้นภูมิต้านทานในเลือดได้สูงเทียบเท่าวัคซีนไฟเซอร์ สามารถยับยั้งสายพันธุ์ดั้งเดิมได้ดี และสามารถยับยั้งเชื้อข้ามสายพันธุ์ได้ถึง 4 สายพันธุ์ คือ อัลฟา เบตา แกมมา เดลตา รวมถึงภูมิคุ้มกันชนิดทีเซลล์ วันนี้ประเทศไทยมีวัคซีน 4 ตัว แต่จะทำอย่างไรให้ขึ้นทะเบียนได้ และขณะนี้เตรียมพัฒนาวัคซีนรุ่น 2 ไว้แล้ว โดยจะใช้เวลาในการผลิต 6 เดือน ดังนั้น ไม่ว่าจะระบาดรอบไหน ไทยก็จะสามารถรับมือได้ 
    "ขณะนี้ไทยมีวัคซีน 4 ยี่ห้อที่ดี แต่จะทำอย่างไรให้วัคซีนไทยนั้นได้ขึ้นทะเบียนรับรอง และสามารถใช้ได้จริงก่อนสงกรานต์ปีหน้า หรือเดือน เม.ย.65 ซึ่งถ้าจะทำให้ดีต้องมีกองทุนอย่างน้อย 3,000 ล้านบาทต่อ 1 วัคซีน และต้องบริหารข้ามระบบราชการ องค์การอาหารและยา (อย.) ต้องให้มีกติกาชัดเจนในเดือน ก.ย.64 เพื่อจะได้รู้ว่าต้องผ่านด่านอะไรบ้าง ไม่อย่างนั้น 4 วัคซีนไทยจะไม่สามารถมีวัคซีนที่ขึ้นทะเบียนใช้ได้ทันปี 65 และโรงงานต้องเร่งผลิต รวมถึงต้องมีนโยบายการจองซื้อวัคซีนล่วงหน้า โดยการขึ้นทะเบียนใช้อาสาสมัคร 4,000-5,000 คน เราก็ต้องใช้ 600 ล้านบาท แต่หากเต็มสูตรจะอยู่ที่ 1,500 ล้านบาท รวมถึงงบจัดซื้อวัตถุดิบด้วย ขณะที่ทีมแพทย์อยากให้ผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศมาดูด้วยกัน เช่น ตัวแทนจาก WHO และตัวแทนจาก อย.อังกฤษ ยินดีจะมาช่วย" นพ.เกียรติระบุ
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ได้ติดตามความก้าวหน้าและอยากให้พัฒนาให้ดีที่สุด ทราบว่าจะเป็นปี 65 สามารถนำไปสู่การผลิตได้ และวัคซีน 4 ตัวจะมาเสริมวัคซีนหลัก ถ้าวันหน้าวัคซีนหลักมีปัญหาเราก็ปรับมาใช้วัคซีนเสริม วันนี้งบเราให้ 400 ล้านบาท รวมถึงจะต้องมีการเตรียมโรงงาน ส่วนกติกาที่จะต้องมีการปรับก็ต้องไปหารือกับ อย. เป็นหมอด้วยกันต้องคุยกันได้ ขอบคุณมากยอดเยี่ยม
    จากนั้นนายกฯ เดินทางไปยังอาคารจุฬาพัฒน์ 14 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อตรวจเยี่ยมการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทย และการวิจัยและพัฒนาวัคซีนโดยใช้เซลล์พืชเป็นแหล่งผลิต (วัคซีนใบยา) ของบริษัท ใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด โดยคณะแพทย์ระบุว่า ภายในห้องทดลองนี้สามารถปลูกวัคซีนได้ 1-5 ล้านโดสต่อเดือน จากนั้นนายกรัฐมนตรีร่วมถ่ายภาพกับคณะ พร้อมกล่าวว่า “นี่คือความภูมิใจของประเทศไทย”
    ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงว่า จากการศึกษาทดลองการตรวจภูมิคุ้มกันหลังการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สูตรฉีดไขว้สลับชนิด โดยเฉพาะการต่อสู้และกำจัดสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) ซึ่งเป็นการศึกษาจากเชื้อสายพันธุ์เดลตาจริง กับเลือดของผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนในสูตรต่างๆ ดังนี้ วัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม สามารถกำจัดไวรัสในหลอดทดลอง ค่าเฉลี่ยภูมิคุ้มกันขึ้นไป 24-25 ถือว่าจัดการกับไวรัสได้ แต่ภูมิคุ้มกันจะค่อยๆ ลดลงตามระยะเวลา
    ส่วนการสลับสูตรแอสตร้าเซนเนก้าเข็มแรก ตามด้วยซิโนแวค เข็มที่ 2 พบว่าภูมิคุ้มกันอยู่ที่ 25 ไม่แตกต่างไปจากการฉีดซิโนแวค 2 เข็ม จึงไม่แนะนำให้ฉีด ส่วนวัคซีนแอสตร้าฯ 2 เข็ม ตรวจภูมิคุ้มกันหลังฉีดเข็มที่ 2 ผ่านไป 2 สัปดาห์ ภูมิคุ้มกันขึ้นไป 76 เท่า สูงกว่าซิโนแวค 2 เข็ม และการสลับสูตร ซิโนแวคเข็มแรก และแอสตร้าเซนเนก้าเข็มที่ 2 พบว่าค่าเฉลี่ยขึ้นไปที่ 78 เท่า เหนือกว่าแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็มอยู่เล็กน้อย แต่มีข้อได้เปรียบที่ใช้เวลาสั้นลงเพียง 5 สัปดาห์ และใช้ต่อสู้กับสายพันธุ์เดลตาที่กำลังระบาดอยู่ในปัจจุบัน 
    สำหรับผลการตรวจภูมิคุ้มกันหลังการฉีดวัคซีนบูสเตอร์โดส พบว่าบูสเตอร์ด้วยซิโนฟาร์ม หลังฉีดซิโนแวค 2 เข็ม แต่สูตรนี้เก็บตัวอย่างน้อย มีเพียง 14 คน ภูมิคุ้มกันขึ้นมาที่ 61 ซึ่งไม่มากเท่าไร และฉีดซิโนแวค 2 เข็ม และบูสเตอร์เข็มที่ 3 ด้วยแอสตร้าฯ ภูมิคุ้มกันขึ้นไปที่ 271 เท่า สามารถกำจัดเชื้อสายพันธุ์เดลตาได้ดีมาก และมีภูมิคุ้มกันมากกว่าการฉีดซิโนแวค 2 เข็ม 10 เท่า
    อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กล่าวว่า ขณะนี้กำลังเร่งศึกษาการฉีดวัคซีนโควิดเข้าชั้นผิวหนัง ประสบการณ์การฉีดวัคซีนในอดีตพบว่า ใช้วัคซีนเพียง 25% สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้สูงพอกับการฉีดเข้ากล้ามที่ต้องใช้วัคซีน 100% หากผลการวิจัยมีผลสำเร็จจะมีโอกาสเพิ่มจำนวนคนที่จะได้รับวัคซีนได้มากขึ้น 4-5 เท่า จะเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์กับการบริหารจัดการวัคซีนเป็นอย่างมาก ทั้งนี้คงต้องรอผลทางวิทยาศาสตร์ 
    มีรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ได้ลงนามในประกาศคำสั่งกระทรวงสาธารณสุข ที่ 881/2564 เมื่อวันที่ 17 ส.ค.2564 เรื่องแต่งตั้งคณะทำงานรวบรวมข้อมูล ข้อเท็จจริง และเอกสารในการจัดหาวัคซีนโควิด-19 โดยมี นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล คณะที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข เป็นประธาน มี พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย และนายสุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัด สธ.เป็นรองประธาน ส่วนคณะทำงานประกอบด้วย นายอภิชาต วชิรพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค นายวิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการ อย. น.ส.รำไพ สมจิตรมูล รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม นางนวรัตน์ มาลินีรัตน์ หัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรี เป็นคณะทำงานและเลขานุการ นางนิสิตา รอบุญ หัวหน้ากลุ่มงานประสานการเมืองสำนักงานรัฐมนตรี เป็นผู้ช่วยเลขานุการ และนางปวีณ์ริศา สกุลเกียรติศรุต หัวหน้ากลุ่มงานสนับสนุนวิชาการสำนักงานรัฐมนตรี เป็นผู้ช่วยเลขานุการ
    โดยมีหน้าที่และอำนาจ 1.รวบรวมข้อมูล ข้อเท็จจริง และเอกสารในการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ข้อ 2.เรียกเอกสาร ข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 3.เชิญเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลแก่คณะทำงาน 4.สรุปผลการดำเนินการจัดหาวัคซีน ขั้นตอน ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะ
    วันเดียวกัน นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวว่า นายณัฐพล (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ช่วยของนายขวัญเลิศ พานิชมาศ ส.ส.ชลบุรี พรรคก้าวไกล ได้อภิสิทธิ์ฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มแรกทั้งครอบครัว รวม 5 คน ทั้งที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ด่านหน้าว่า ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.ชลบุรี จึงสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยให้รอง ผอ.รพ.ชลบุรีเป็นหัวหน้าชุด ให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน หากข้อเท็จจริงออกมาเป็นประการใด จะดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดทันที จะไม่เลือกปฏิบัติ ถึงแม้จะเป็นผู้ช่วยคนสนิท ส.ส.ชลบุรีก็ตาม.