ก็ไม่ถือว่าเปล่าประโยชน์ไปซะทีเดียว
การชี้แจงสถานการณ์ของประเทศบนความขัดแย้งทางการเมือง เป็นเรื่องต้องทำใจ หากจะมีคนที่อยู่อีกขั้วการเมือง ไม่ฟัง ไม่เข้าใจ
โต้ตอบ และด่ากลับ
ประเด็นไม่มีอะไรซับซ้อน
เพราะกูไม่ชอบมึง
วานนี้ (๑๘ สิงหาคม) "ลุงตู่" ระบายความในใจ เฟซบุ๊ก "ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut-chan-o-cha" เรื่องโควิด-๑๙
...พี่น้องประชาชนชาวไทยที่รักทุกท่าน ในขณะนี้สถานการณ์การติดเชื้อโควิด-๑๙ ของประเทศไทย หลังจากเริ่มมาตรการล็อกดาวน์มาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม
แม้ว่าจะมียอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวันอยู่มากกว่าสองหมื่นคน แต่เริ่มจะเห็นสัญญาณของการชะลอตัว และมีสัญญาณของผู้ป่วยที่หายดีมากกว่าผู้ติดเชื้อรายวัน
แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือ ตัวเลขของผู้เสียชีวิต ที่แม้ว่าเราจะมีจำนวนผู้เสียชีวิตที่ต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยของทั่วโลก แต่ก็ยังมีบางวันที่ยังขึ้นสูงอยู่ และเราทุกคนไม่อยากให้มีใครเสียชีวิตแม้แต่คนเดียว
ทางกระทรวงสาธารณสุขได้วิเคราะห์ว่า หากเราสามารถที่จะเพิ่มประสิทธิภาพของการล็อกดาวน์ได้มากกว่านี้ ก็จะสามารถลดยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตได้มากขึ้น ที่ประชุม ศบค.จึงมีมติให้ขยายเวลาการบังคับใช้มาตรการออกไปจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม
หากเราสามารถควบคุมการล็อกดาวน์ได้ดีขึ้นกว่านี้ อาจจะสามารถผ่านจุดสูงสุดของยอดการติดเชื้อได้ภายในสิ้นเดือนนี้ และเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่องได้ในต้นเดือนกันยายน
ซึ่งจะทำให้เราสามารถปรับมาตรการการควบคุมและผ่อนคลายกิจการและกิจกรรมบางอย่างได้....
....ผมรับรู้ความเจ็บปวดของทุกท่านที่ได้รับผลกระทบ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ต้องปิดกิจการ หรือผู้ที่ต้องสูญเสียรายได้จากมาตรการต่างๆ ของรัฐ หรือแม้แต่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักจากโรคร้ายนี้
ผมเจ็บปวดและเศร้าใจทุกครั้งที่ได้อ่านข่าวผู้เสียชีวิตจากโควิด และเป็นสิ่งเตือนใจผมตลอดเวลาว่าจะต้องทำให้ได้ดีกว่านี้ ในการพยายามหาหนทางทุกๆ ทางที่จะทำให้ผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตลดลงให้มากที่สุด
วิกฤติครั้งนี้หนักหนาสาหัสอย่างที่โลกไม่เคยพบเคยเจอมาก่อน โดยเฉพาะในช่วงเวลาของการระบาดในระลอกนี้ ทำให้แผนการที่เราวางไว้บางอย่างอาจยังไม่บรรลุเป้าหมาย หรือต้องปรับเปลี่ยนแผน
แต่ผมขอให้พวกเราทุกคนอดทน ช่วยกันประคองสถานการณ์ในระลอกนี้ให้ผ่านไปให้ได้ก่อน
รักษาสุขภาพ ดูแลป้องกันตัวเองและคนรอบข้างไม่ให้ติดเชื้อ เพื่อบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อประเทศชาติ และเพื่อท่านและครอบครัวของท่านเอง....
ช่วงนี้จะอยู่ในจุดสูงสุดของการระบาดแล้วจริงๆ
ไม่ขึ้นไปกว่านี้
แต่จะลดลงหรือไม่ และเมื่อไหร่ มันไม่ได้อยู่ที่รัฐบาลเพียงฝ่ายเดียว ประชาชนทุกคนล้วนมีส่วนด้วยกันทั้งนั้น
ครับ...เรื่องเดียวกันนี้ แต่มองกันไปคนละมุม
แน่นอนคนที่สนับสนุนรัฐบาลพากันให้กำลังใจ
สำหรับคนไม่ชอบรัฐบาล การชี้แจงคือการแก้ตัว ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของประเทศที่มีความขัดแย้งทางการเมืองแบบนี้
ไม่เฉพาะไทยครับ อเมริกาก็เป็น
กองหนุน "ทรัมป์" ด่า "ไบเดน"
คนชอบ "ไบเดน" พากันถล่ม "ทรัมป์"
ล่าสุดก็เรื่องอัฟกานิสถาน โยนเผือกร้อนกันนัวเนีย
สุดท้ายอเมริกันชน ยังงงกันอยู่ ส่งทหารไปตายเพื่อใคร
ทหารอเมริกากว่า ๒,๕๐๐ นาย เสียชีวิตในสงครามนี้
กว่า ๓ หมื่นนาย บาดเจ็บหรือพิการ
ปี ๒๕๔๔-๒๕๖๒ รัฐบาลอเมริกา ทุ่มเงินไปในสงครามอัฟกานิสถานสูงถึง ๘.๒๒ แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
ถ้ารัฐบาลไทยทุ่มเงินไปขนาดนี้สิ่งที่ต้องเจอคือ เงินภาษีกูอยู่ไหน?
แต่อเมริกาก็มีลิมิตแห่งความขัดแย้ง มักจะจบบนเหตุผลที่ยอมรับกันได้ แม้จะต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่ก็ตาม
ไทยไม่ใช่อย่างนั้น
เรามักขัดแย้งกันในเรื่องที่ไม่ควรขัดแย้ง
บางคนมีความเชื่อผิดๆ ใช้ชุดข้อมูลที่มาจาก "ความเห็น" มากกว่า "ข้อเท็จจริง"
ลองดูตัวอย่างดังต่อไปนี้ครับ
เฟซบุ๊ก Veeraporn Nitiprapha เจ้าของคือ "วีรพร นิติประภา" นักเขียนดับเบิลรางวัลซีไรต์ ตอบโต้ "ลุงตู่" ทันควัน
...ไม่ต้องมาบอกว่าประชาชนต้องทำยังไง เขารู้ดีกว่าท่านนานแล้วค่ะ เขาทำไม่รู้จะทำยังไง มีท่านที่มีหน้าที่ แต่ไม่เคยทำ
๑.ตรวจเชื้อเชิงรุกฟรี
๒.แจกหน้ากาก
๓.ซื้อวัคซีนคุณภาพ ไม่เอาซิโนกระจอกๆ ต่างๆ พอเหอะ
๔.สร้างโรงพยาบาลสนามเพิ่มมากๆ เร็วๆ
๕.ฉีดวัคซีนคุณภาพ mRNA ให้หมอ พยาบาล และอาสาด่านหน้าทุกคน
๖.จ่ายยาฟาวิพิราเวียร์ส่งถึงบ้านผู้กักตัวที่บ้านอย่างทั่วถึง
๗.แจกจ่ายออกซิเจนกันตายให้ผู้ป่วยรอเตียงทั้งหมด
๘.แจกจ่ายอาหารและยาสำหรับโรคเรื้อรังอื่นๆ
๙.ลาออก...
คนมีความรู้นะครับ ไม่ใช่ไม่มี
เพียงแต่เข้าไปอยู่ในกลุ่มการเมืองบริวารของทักษิณ จึงมองปัญหาผิดเพี้ยนไปเยอะ
บางข้อเห็นด้วยครับ เช่น ตรวจเชิงรุก แจกหน้ากาก แจกยา
แต่กรณีที่บอกว่า "ซิโนกระจอกๆ" ไม่น่าเชื่อว่าคนได้รางวัลซีไรต์สองรอบ เสพชุดข้อมูลกระจอกๆ แล้วมองเรื่องอื่นเป็นเรื่องกระจอกไปเสียหมด
ที่จริง เรียกร้องตามข้อ ๙ คุณไม่ต้องเรียกร้องข้ออื่นแล้ว
เวลาบุคลากรทางการแพทย์เขาแถลงข่าว ก็ฟังเสียบ้าง อย่างน้อยๆ ต่อให้สมองกระจอกๆ ก็น่าจะเข้าใจในสิ่งที่สื่อสารออกมาได้
วัคซีน mRNA เข้าฉีดด่านหน้าอยู่แล้ว
โรงพยาบาลสนามสร้างกันจนนับไม่ทันอยู่แล้ว แต่จะมีแค่โรงพยาบาลสนามอย่างเดียว โดยไม่มีกำลังของหมอ พยาบาลเข้าไปดูแลมันก็เปล่าประโยชน์
รู้ใช่มั้ยว่า เวลานี้บุคลากรทางการแพทย์ที่มีอยู่ทำงานกันจนเกินขีดจำกัดแล้ว
วัคซีนซิโนกระจอกๆ ช่วยให้คนป่วยโควิดอาการไม่รุนแรงมาแล้วนับไม่ถ้วน
การเป็นบุคคลสาธารณะ เป็นคนในกลุ่มการเมือง จะต้องมีความรับผิดชอบ อย่างน้อยๆ ก็สื่อสารบนข้อเท็จจริง
การสื่อสารของ "ลุงตู่" อย่ามองแค่ผิวเผิน แล้วเอาไปด่าสนุกปาก เพราะการแสดงความเห็นในขณะที่มีผู้ติดเชื้อเกิน ๒ หมื่นคนต่อวัน เสียชีวิตหลักร้อยต่อวัน จะพูดส่งเดชไม่ได้
วิกฤติในครั้งนี้ไม่สามารถแก้ได้ด้วยการด่า การด้อยค่าวัคซีนครับ
ซิโนแวคที่สั่งมาเพิ่ม เพราะงานวิจัยมันออกมาแล้วว่าฉีดซิโนแวคเข็มแรก ตามด้วยแอสตร้าเซนเนก้าเป็นเข็มสอง ห่างกัน ๓-๔ สัปดาห์ ซึ่งทำให้ภูมิคุ้มกันขึ้นสูงใกล้เคียงกับการฉีดแอสตร้าเซนเนก้า ๒ เข็ม ที่ต้องเว้นระยะห่างถึง ๓ เดือน
ฉะนั้นคิดตามซิครับว่า ทำไมเขาถึงทำแบบนี้
จะรอ mRNA ก็ได้ แต่ตุลาคมเป็นอย่างต่ำ
กระจอกจริงๆ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |