เหตุโกลาหลที่สนามบินคาบูล ตอกย้ำความล้มเหลวของมะกัน


เพิ่มเพื่อน    

การล่มสลายของรัฐบาลอัฟกานิสถานอย่างฉับพลัน และความโกลาหลที่สนามบินนานาชาติคาบูลเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สะท้อนถึงความล้มเหลวโดยสิ้นเชิงของนโยบายสหรัฐฯ
    ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แถลงยืนยันว่าวอชิงตันทำถูกแล้วที่ถอนทหารออกจากประเทศนั้น
    และอ้างว่าที่นักรบตอลิบันสามารถยึดครองพื้นที่ประเทศอัฟกานิสถานได้อย่างรวดเร็วเกินความคาดหมายนั้น เป็นเพราะทหารของรัฐบาลอัฟกันภายใต้การนำของประธานาธิบดี Ashraf Ghani ไม่ยอมลุกขึ้นสูรบ
    ภาพที่สนามบินคาบูลเมื่อวันจันทร์ หรือหนึ่งวันหลังจากที่อำนาจการปกครองอัฟกานิสถานหลุดมือจากรัฐบาลเดิมมาสู่กลุ่มติดอาวุธตอลิบัน คือภาพความโกลาหลที่เป็นฉากประวัติศาสตร์
    เป็นภาพที่น่ารันทดเมื่อมีชาวอัฟกันและอื่นๆ หลายพันคนยื้อแย่งกันขอขึ้นเครื่องบินหนีไปอยู่ประเทศอื่น
    เพราะรู้แล้วว่าสหรัฐฯ ทอดทิ้งพวกตนแล้ว
    ทหารสหรัฐฯ ที่สนามบินแห่งนี้ต้องยิงปืนขู่เพื่อรักษาความสงบ 
    สื่อต่างชาติรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 รายที่สนามบิน
    ที่น่าเศร้าเป็นพิเศษคือ ภาพของคนจำนวนหนึ่งที่หล่นลงมาจากเครื่องบินที่บินขึ้นเพราะไปเกาะล้อและส่วนอื่นๆ ของเครื่องบิน
    ยอมเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายดีกว่าอยู่ต่อในประเทศที่ไม่อาจจะคาดได้ว่าจะนำไปสู่อะไร
    ภาพและวิดีโอคลิปบนโซเชียลมีเดียเห็นประชาชนพยายามเบียดเสียดยัดเยียดแย่งกันปีนบันไดขึ้นเครื่องบินกันจ้าละหวั่น
    บางคนเกาะเครื่องบินขณะกำลังแล่นบนรันเวย์ก่อนเครื่องบินขนส่งทางทหารของสหรัฐฯ ทะยานขึ้นฟ้า
    สายการบินพาณิชย์ต่างๆ หลีกเลี่ยงหรืองดเที่ยวบินไปยังคาบูลกันเกือบทั้งหมด
    หลายประเทศเช่น อิตาลี, ซาอุดีอาระเบีย, ฝรั่งเศส, นิวซีเเลนด์,  สวีเดน, ออสเตรเลีย และสาธารณรัฐเช็ก อพยพคนของตนออกจากอัฟกานิสถานอย่างเร่งรีบ


    แกนนำตอลิบันพยายามออกข่าวยืนยันว่าจะดูแลให้ประชาชนใช้ชีวิตตามปกติ
    หนึ่งในแกนนำพูดภาษาถิ่น "พาชโต" ว่า "ตอลิบันจะรับผิดชอบประชาชนทุกคน จะดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขา และจะแสดงให้เชื่อว่าตอลิบันจะทำให้ชีวิตของทุกคนดีขึ้นได้"
    สหรัฐฯ และอีกกว่า 60 ประเทศร่วมออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทุกฝ่ายในอัฟกานิสถานเคารพและช่วยอำนวยความสะดวกต่อการนำชาวต่างชาติและชาวอัฟกันจำนวนหนึ่งออกจากประเทศ
    โจ ไบเดน แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์ทั่วประเทศว่า ภารกิจของกองทัพสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถาน “ไม่เคยเป็นเรื่องของการช่วยสร้างชาติ” 
    คำว่า Nation-building เป็นศัพท์ที่ผู้นำสหรัฐฯ ใช้มาตลอดในการเข้าไปแทรกแซงหรือเกื้อหนุนประเทศอื่นต่อสู้กับศัตรูของสหรัฐฯ
    อ้างว่าเป็นการช่วยประเทศนั้น “สร้างชาติ”
    การที่ไบเดนบอกว่า ภารกิจของทหารสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถานไม่เคยเป็นเรื่องของการ “สร้างชาติ” จึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างแปลก
    ไบเดนบอกว่า ภัยคุกคามจากการก่อการร้ายที่เป็นเหตุให้ทหารสหรัฐฯ ต้องเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในประเทศนี้ กลับขยายผลเป็นวงกว้างออกไปยังประเทศอื่นๆ ที่อยู่ข้างเคียง
    ผู้นำสหรัฐฯ ยอมรับว่า การที่กลุ่มตอลิบันสามารถยึดพื้นที่ทั่วอัฟกานิสถานได้อย่างรวดเร็วฉับพลันนั้นเป็นเรื่องที่ “เกินความคาดหมาย” ของสหรัฐฯ
    เหตุหนึ่งก็เพราะกองกำลังอัฟกันเองยังไม่คิดจะจับอาวุธขึ้นมาสู้ด้วยซ้ำ
    ในระหว่างการประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาตินัดฉุกเฉินในวันจันทร์ เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติอันโตนีโอ  กูเตอร์เรส เตือนให้
     “ทั่วทั้งโลกจับตาดู” สถานการณ์ในอัฟกานิสถานในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ 
    และเรียกร้องให้กลุ่มตอลิบัน “ใช้ความยับยั้งชั่งใจให้มากที่สุด” เพื่อปกป้องชีวิตของชาวอัฟกันและเปิดทางให้มีการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปสู่ผู้ที่เดือดร้อนได้
    อัฟกานิสถานมีประชากร 36 ล้านคน ประเมินกันว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนนี้ตกอยู่ในภาวะยากแค้นและต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างรุนแรง
    มีความหวั่นเกรงกันว่า สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในอัฟกานิสถานจะย่ำแย่ลงไปอีก หากกลุ่มตอลิบันไม่สามารถสร้างความมั่นใจให้ประชาชนได้ทันกับความเปลี่ยนแปลงที่หนักหน่วงรุนแรงครั้งนี้
    การเมืองอัฟกานิสถานจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร?
    สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทั้ง 15 ประเทศออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติการต่อสู้
    และเสนอให้มีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ที่มาจากการเจรจาโดยให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วม
    เน้นการเปิดทางให้ผู้หญิงมีบทบาทที่เท่าเทียมมากขึ้นด้วย
    น่าสังเกตว่า สองมหาอำนาจที่ยืนอยู่คนละข้างกับสหรัฐฯ คือรัสเซีย และจีน ได้แสดงท่าทีที่ค่อนข้างเป็นมิตรกับตอลิบันพอสมควร
    วาสสิลี เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำองค์การสหประชาชาติ บอกว่า “ไม่มีเหตุผลที่จะต้องตื่นตระหนก” กับสถานการณ์ในอัฟกานิสถาน
    โดยเน้นว่า “จุดสำคัญก็คือ ทุกฝ่ายต้องหลีกเลี่ยงเหตุการณ์นองเลือดในกลุ่มพลเรือนให้ได้” 
    เกิง ช่วง อุปทูตจีนประจำองค์การสหประชาชาติ แถลงต่อที่ประชุมว่า “สถานการณ์ในอัฟกานิสถานกำลังก้าวผ่านการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญอยู่” 
    ย้ำว่าจีน “เคารพต่อจิตวิญญาณและทางเลือกของประชาชนชาวอัฟกัน”.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"