แตก!ซักฟอกกันเอง ก้าวไกลโวยพท.ตัดป้อม-ธรรมนัส/‘บิ๊กตู่‘พ้อข้อหาแรงเกิน


เพิ่มเพื่อน    

ฝ่ายค้านแตกยับ! ซักฟอกกันเองก่อนเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล "ภูมิธรรม" ท้ารบเลขาฯ ก้าวไกล ทำงานร่วมกันไม่ได้ "สุทิน" เปลือยหมดเปลือก ตัดชื่อ "บิ๊กป้อม-ธรรมนัส" เพราะเขาตอบไปแล้ว  อภิปรายเขาแล้วทำอะไรไม่ได้ "บิ๊กตู่" ปลุกกลางที่ประชุม ครม.ไม่ต้องกลัว แต่บ่นพึม “ผมว่าแรงไปมั้ยในหัวข้ออภิปราย มีใครเคยมีมั้ยแบบนี้”
    เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2564 นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมการพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) เปิดเผยว่า ในการประชุมวิปพรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรคมากันครบ โดยได้แจ้งที่ประชุมให้ทราบถึงไทม์ไลน์ที่สภาผู้แทนราษฎรจะมีการพิจารณาวาระสำคัญ 3 เรื่อง คือ 1.ร่างพระราชบัญญัติ  (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 2.ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช .... (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 83 และมาตรา 91) และการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ซึ่งในสัปดาห์หน้าพรรคร่วมฝ่ายค้านจะหารือกันถึงเรื่องรัฐธรรมนูญและการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
     ส่วนกรณีที่พรรคก้าวไกลออกมาระบุว่าไม่มีชื่อ พล.อ.ประวิตร  วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ นายสุทินกล่าวว่า  ระยะหลังจะมีปัญหาแบบนี้เรื่อยๆ จนเราเริ่มผิดสังเกต เราก็แก้ปัญหาโดยใช้กระบวนการอื่น พรรคร่วมฝ่ายค้านมี 6 พรรค ถ้าตัดสินด้วยคนใดคนหนึ่งจะเกิดปัญหา เราจึงใช้กระบวนการหารือร่วมกันและตัดสินใจร่วมกัน 
    ดังนั้น การอภิปรายครั้งนี้เราก็เกรงว่าจะเกิดปัญหา จึงพูดคุยกันเรื่องการกำหนดตัวผู้อภิปราย โดยให้มาคุยกันในที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านและตัดสินใจร่วมกัน ซึ่งการหารือครั้งนี้บางพรรคเสนอชื่อนายสุริยะ  จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ทางกลุ่มก็พิจารณาว่าหลักฐานไม่พอก็ตกไป บางพรรคเสนอชื่อนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ทางกลุ่มพิจารณาแล้วเห็นว่ายังไม่มีหลักฐานความผิดใหม่ ก็ตกไปเช่นเดียวกับ พล.อ.ประวิตร ทั้งหมดตัดสินใจผ่านกระบวนการกลุ่ม นอกจากนี้การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ พรรคฝ่ายค้านให้ความสำคัญไปที่เรื่องเศรษฐกิจและโควิด-19 รายชื่อต่างๆ ที่ปรากฏว่าไม่ได้ถูกนำมาอภิปรายล้วนอยู่ในข้อจำกัดนี้ ซึ่งครั้งที่แล้วก็อภิปรายเขาแล้วทำอะไรไม่ได้
    “เราไม่ได้ตัดเฉพาะ พล.อ.ประวิตร แต่ตัดคุณสุริยะและคุณจุรินทร์ด้วย ทั้งนี้พรรคก้าวไกลมุ่งมั่นตั้งใจเราก็เข้าใจ แต่เมื่อกระบวนการกลุ่มเห็นอย่างนี้ ท่านจะยอมรับหรือไม่ยอมรับก็เลยมีปัญหาขึ้นมา ส่วนหากเพิ่มชื่อ พล.อ.ประวิตร ก็ต้องเพิ่มชื่อคุณสุริยะและคุณจุรินทร์ให้อีกพรรคหนึ่งด้วย หรือจะคิดว่าเป็นเอกสิทธิ์ กลุ่มอย่ามายุ่ง ถ้าแต่ละพรรคเสนอมา 2-3 คนแบบไม่มีข้อจำกัด อาจจะเป็น 10-20 คน อย่างไรก็ตามเชื่อว่าจะไม่เป็นอะไร ในที่สุดกระบวนการกลุ่มก็จะแก้ปัญหานี้ได้เช่นเคย และต้องเข้าใจว่าต้องอยู่ตามระบบนี้แบบนี้ เมื่อวานก็ยังพูดคุยกันดี จนนาทีสุดท้ายก่อนยื่นให้ประธานสภา แต่เมื่อเกิดปัญหาขึ้นยังไม่ได้คุยกัน” 
    นายสุทินกล่าวว่า กรณีดังกล่าวไม่ใช่แค่พรรคก้าวไกล แต่ภายในพรรคเพื่อไทยเอง อย่างนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม  และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็อยากอภิปราย พล.อ.ประวิตร แต่เมื่อพิจารณาแล้วก็ตกตั้งแต่ในพรรค และพรรคอื่นก็เห็นไม่ต่างกันจึงตกไป  นอกจากนี้ครั้งนี้เราเปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมค่อนข้างมาก มีการส่งมาหลายชื่อ เมื่อไม่เป็นดั่งใจเราก็อธิบาย ไม่มีอะไรลึกลับหรือดีลลับ
เขาได้ตอบแล้ว 
     เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ  พรรคพลังประชารัฐ และประธานวิปรัฐบาลทำการล็อบบี้ นายสุทินกล่าวว่า เป็นธรรมดาที่จะล็อบบี้ ซึ่งไม่ใช่แค่พรรคก้าวไกล เขาก็โทร.มาพรรคเพื่อไทยด้วย โทร.มาหาตนด้วย แต่คนใดคนหนึ่งตัดสินไม่ได้ ถ้าเราเคารพกระบวนการกลุ่มจึงจะทำงานได้ ไม่เช่นนั้นก็ทำงานไม่ได้
    ถามถึงกรณีมีกระแสข่าวสาเหตุที่ไม่มีชื่อ พล.อ.ประวิตร และ ร.อ.ธรรมนัส เพราะอนาคตหาก พล.อ.ประยุทธ์ลาออกจากการเป็นนายกฯ  พรรคพลังประชารัฐและพรรคเพื่อไทยจะจับมือกันตั้งรัฐบาลเป็นไปได้หรือไม่ นายสุทินแจงว่าเป็นการสร้างวิมานที่ยากมาก เพราะ ร.อ.ธรรมนัสมีคนอยากอภิปรายเยอะ แต่สุดท้ายก็ไม่เห็นมีใครเสนอชื่อ เพราะเพิ่งจะอภิปรายผ่านมาและเขาได้ตอบแล้ว ซึ่งครั้งนี้ยังไม่มีอะไรใหม่ ส่วนที่นายกฯ ลาออก แล้วสองพรรคจะจัดตั้งรัฐบาล ยังไม่มีใครคิดสูตรนี้ รวมถึงพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคใหญ่ การที่จะคิดเป็นรัฐบาลแบบไม่ลืมหูลืมตา ก็ทำไมเขาจะไม่คิดว่าอนาคตเขาจะไม่เหลือแฟนคลับเขาทั่วประเทศ  สร้างเนื้อสร้างตัวมาจนเป็นรัฐบาลมาไม่รู้กี่สมัย จะไปกระเหี้ยนกระหือรืออยากเป็นรัฐบาล แค่นี้แลกกับความช้ำใจของสมาชิกไม่คุ้ม  ใครคิดการเมืองแบบนี้ตนคิดว่าไม่คุ้ม แล้วยิ่งถ้าไปร่วมรัฐบาลกับคนที่สังคมไม่ยอมรับก็เท่ากับไปฆ่าตัวตาย โอกาสพรรคเพื่อไทยยังมีอีกเยอะ เรื่องอะไรจะไปเสียโอกาสกับเรื่องแค่นี้ ลงเลือกตั้งใหม่เขาก็ยังมีโอกาส และความหวัง
    ขณะที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล จะทำงานร่วมกันในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้านต่อไปได้หรือไม่ว่า ยังทำงานร่วมกันได้  ขณะนี้ภารกิจข้างหน้ายังมีอีกหลายอย่าง โดยเฉพาะการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล อยากให้แต่ละฝ่ายทำหน้าที่ของตัวเองในการเตรียมข้อมูลอภิปราย เพราะฝ่ายค้านต่างก็มีเป้าหมายเดียวกัน คือไม่ต้องการให้  พล.อ.ประยุทธ์บริหารประเทศต่อไป ส่วนความเห็นต่างที่มีในช่วงนี้คงต้องทำความเข้าใจร่วมกันในอนาคต เชื่อว่าไม่มีปัญหาบานปลาย
    เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ทั้งสองพรรคก็มีความเห็นไม่ตรงกัน เช่นประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายประเสริฐตอบว่า เป็นเรื่องปกติที่แต่ละฝ่ายมองต่างกันได้ เพราะทุกพรรคหวังให้พรรคตัวเองได้รับการเลือกตั้ง ส.ส.มากที่สุด การที่พรรคเพื่อไทยยึดหลักการบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ  เขต 400 บัญชีรายชื่อ100 ก็มาจากรัฐธรรมนูญปี 40 ที่ร่างมาจากประชาชน แต่ไม่ว่าจะเห็นต่างอย่างไรก็เชื่อว่าเราจะทำงานร่วมกันต่อไปได้
     ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน แสดงความไม่พอใจนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล โดยทวีตข้อความว่า  “เลขาฯ ก้าวไกลต้องเป็นผู้ใหญ่กว่านี้..อย่าใช้วิธีเล่าที่คลาดเคลื่อนข้อเท็จจริงฝ่ายเดียว..ไม่งั้นคงทำงานกันยาก วานนี้เราคุยด้วยความลำบาก  คุณโยนให้เราคุยกับคนอื่นและยืนยันเอาตามมติพรรคร่วมฯ การพูดนอกห้องประชุมถือว่าไม่เป็นสุภาพบุรุษ อย่าใช้วิธีนี้กับมิตร เมื่อเช้าหารือ คุณก็หลบ ถ้าทำงานการเมืองแบบเสนอความเห็นแล้วแพ้ในที่ประชุม ก็ออกมาแสดงความเห็นกับแฟนคลับ พูดเอาดีใส่ตน ทำลายคนอื่น อย่างนี้ทำงานร่วมกันยากครับ ไม่เข้าใจเลขาฯ พรรคก้าวไกล สถานการณ์วันนี้ทุกคนกำลังจะตรวจสอบอภิปรายความล้มเหลวรัฐบาล ทำไมเปลี่ยนประเด็นมาด้อยค่าพรรคเพื่อไทย คิดอะไรอยู่ครับ!!!”
'บิ๊กตู่' บ่นข้อหารุนแรงไป
    "ใครพูดตรงกับความจริงที่สุด หัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรค ยืนยันได้ครับ ผมถามในที่ประชุม แต่อ้ำอึ้งมาตลอด เพิ่งเมื่อวานที่ประชุมถามเหตุผลก็ตอบอ้อมแอ้ม ต้องเอาข้อเท็จจริงมาพูดครับ ตรงไปตรงมา จัดเวทีให้เลขาฯ ก้าวไกลคุยกับผมต่อหน้าสื่อสิครับ เพราะเมื่อวานผมเป็นคนคุยกับหัวหน้าและเลขาฯ ก้าวไกล" นายภูมิธรรมระบุ
    ล่าสุด นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ทวีตตอบกลับไปว่า "ทางผมได้ประสานกับทาง @VoiceTVOfficial แล้ว ซึ่งทางช่องก็ตอบรับเป็นอย่างดี รอแต่เพียงคุณ @phumtham  พร้อมเมื่อไร ผมยินดีที่จะไปคุยกับพี่อ้วนต่อหน้าสื่อตั้งแต่วันนี้เลยครับ  เราจะได้เข้าใจตรงกันแล้วเดินหน้าทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลกันต่อไปครับ" 
    ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามสื่อมวลชนที่ส่งถึงนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับความพร้อมในการรับมือศึกซักฟอกที่จะมีขึ้นเร็วๆ นี้ว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวเสมอให้คณะรัฐมนตรีที่อยู่ในรายชื่อจะถูกอภิปรายได้เตรียมความพร้อม  และนายกรัฐมนตรีระบุว่าถือเป็นโอกาสดีที่จะชี้แจงให้ประชาชนได้ทราบมุมต่างๆ ในการทำงานของรัฐบาล ว่าสิ่งที่ผ่านมาอาจเกิดความเข้าใจผิดจากการไม่ได้ชี้แจงให้ครบถ้วน ดังนั้นจังหวะที่จะใช้เวทีของสภาผู้แทนราษฎรในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะสื่อสารให้ประชาชน โดยเฉพาะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้รับทราบถึงการทำงานที่ผ่านมาด้วย
    มีรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ในที่ประชุม ครม.ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ในช่วงท้ายการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวถึงญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ขอให้ทุกคนเตรียมความพร้อมชี้แจงข้อเท็จจริง สู้ด้วยข้อเท็จจริง เราตั้งใจทำงานด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องกังวล และฝาก ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลต้องทำความเข้าใจข้อมูล โดยขอให้หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลไปทำความเข้าใจกับ ส.ส.ด้วย 
    อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ได้พูดถึงข้อกล่าวหาที่อยู่ในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจตนเอง ที่มีเนื้อหารุนแรงว่า “ผมว่าแรงไปมั้ยในหัวข้ออภิปราย มีใครเคยมีมั้ยแบบนี้”
    นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ​ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งทั้งสองคนเป็น ส.ส.พรรค พปชร.ว่า นายสุชาติและชัยวุฒิมั่นใจว่าจะสามารถตอบข้อกล่าวว่าหาได้ และเป็นโอกาสดีที่จะได้ชี้แจง ซึ่งทั้งสองคนไม่ห่วงและเท่าที่ดูก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง
    ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า เป็นสิทธิที่ฝ่ายค้านสามารถทำได้ แต่อยากให้เนื้อหาการอภิปรายเป็นแบบเนื้อๆ ไม่ใช่ใช้ข้อมูลที่เสนอตามสื่อสารมวลชนมาตัดแปะ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นจะเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ เมื่ออภิปรายกล่าวหาก็ควรนำหลักฐานที่เป็นรูปธรรมมาแสดงด้วย อย่างไรก็ตามยืนยันว่าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคพร้อมชี้แจง และมั่นใจว่าจะชี้แจงให้ประชาชนที่กำลังสับสนจากการบิดเบือนข้อมูลต่างๆ ของคนบางกลุ่มได้เข้าใจข้อเท็จจริงมากขึ้นด้วย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"