ชำนาญ รวิวรรณพงษ์
17 ส.ค.64 - นายชำนาญ รวิวรรณพงษ์ อดีตประธานแผนกคดีล้มละลายในศาลฎีกา กล่าวถึงความคืบหน้า กรณีที่ได้ยื่นร้องเรียนการกระทำของเจ้าพนักงานของรัฐ ต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช. )ให้ตรวจสอบการกระทำของ นายอนุรักษ์ สง่าอารีย์กุล รองประธานแผนกคดียาเสพติดในศาลอุทธรณ์ กรณีถูกร้องเรียนว่าได้หาเสียงเลือกตั้งก.ต.บุคคลภายนอกในไลน์ “สภาตุลาการ” ทั้งที่มีหน้าที่เป็น ก.ต. ว่า จากการสอบถามไปครั้งล่าสุด ป.ป.ช. ยังไม่มีการตอบกลับถึงผลการตรวจสอบมาให้ตนทราบ ว่าผลการตรวจสอบออกมาในรูปแบบใด โดยได้ยื่นหนังสือทวงถามไปยังทาง ป.ป.ช.เเล้ว เมื่อวันที่ 15 ก.ค.ซึ่งตามขั้นตอน ทุกเรื่องที่เป็นเรื่องสำคัญก็ควรต้องพิจารณาโดยเร่งด่วน เพราะจะมีผลต่อการประชุม ก.ต. และ การลงมติ พิจารณาในตำแหน่งสำคัญในสำนักงานศาลยุติธรรม
"สำหรับเรื่องที่ตนได้ยื่นร้องเรียนประธานศาลฎีกา ให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของนายอนุรักษ์นั้นเป็นเรื่องการดำเนินการทางวินัย แต่การยื่นเรื่องที่ป.ป.ช. เป็นกรณีเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 แต่จริงๆแล้ว ป.ป.ช. มีอำนาจสอบทั้งคดีอาญาและคดีวินัยทั้งสองส่วน หากพบว่าเป็นความผิดทางคดีอาญา ก็ส่งให้อัยการดำเนินคดี ส่วนความผิดทางวินัยก็ส่งกลับมาให้สำนักงานศาลยุติธรรมดำเนินการต่อไป
ส่วนขั้นตอนการดำเนินการนั้น เวลาที่ได้ร้องเรียนไปนั้น ป.ป.ช. จะเชิญ นายอนุรักษ์ มาให้ข้อมูลตามที่ถูกร้องเรียนหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ เพราะ สิ่งที่ตนทวงถามความคืบหน้ากับ ป.ป.ช. เพียงแค่ต้องการทราบผลการดำเนินการ ส่วนเรื่องอื่นก็ปล่อยให้เป็นดุลยพินิจของ ป.ป.ช. เพราะ ป.ป.ช.คงทราบดี ในเรื่องของขั้นตอนการตรวจสอบ เพราะ ป.ป.ช. ก็เป็นผู้ให้คะแนนองค์กรอื่น ว่าโปร่งใส และการทำงานรวดเร็วแค่ไหน ป.ป.ช.ก็ต้องโปร่งใส และรวดเร็วเช่นเดียวกัน"
นายชำนาญ ยังกล่าวว่า ในการประชุม ก.ต. ครั้งหน้าที่จะมีการพิจารณาตำแหน่งสำคัญ เช่นประธานแผนกคดีทุจริตฯในศาลอุทธรณ์ ที่ต้องจับตาว่า จะมีการเสนอชื่อ นายอนุรักษ์ บุคคลที่ถูกร้องเรียนให้ดำรงตำแหน่งนี้ หรือไม่ เพราะหากลงมติไปแล้ว จะมีผลย้อนหลังตามมาแน่นอน และ การพิจารณาของ ก.ต. ครั้งนี้จะเป็นครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ ว่าถ้า ก.ต. ปฏิบัติหน้าที่อย่างไรจะมีผลถึงอนาคตข้างหน้าของโครงสร้าง ก.ต.อย่างแน่นอน
นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษก ป.ป.ช.กล่าวในเรื่องนี้ว่าอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงเเละรวบรวมหลักฐาน
เเหล่งข่าวจากกรรมการป.ป.ช.กล่าวเสริมว่า ทราบว่าเรื่องนี้อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน หากมีมูลก็จะเเต่งตั้งคณะกรรมการไต่สวน หากพบว่ามีมูลก็จะชี้มูลตามขั้นตอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมใหญ่ศาลฎีกา สนามหลวง นางเมทินี ชโลธร ประธานศาลฎีกา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการตุลาการครั้งที่ 21 /2564 โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบบัญชีโยกย้ายเเต่งตั้ง 2บัญชีจำนวน 110 รายชื่อ ยังเหลือบัญชีระนาบเดียวกัน อีก156 รายชื่อ ซึ่งคาดว่าจะมีการพิจารณาในการประชุมครั้งต่อไป
โดยในการประชุม ก.ต.ครั้งที่22/2564ต่อไป ในวันที่ 18 ส.ค.นี้ ซึ่งจะมีการพิจารณาตำแหน่งที่จับตา คือ ประธานแผนกคดีทุจริตในศาลอุทธรณ์ ที่ก่อนหน้านี้ในบัญชีรายชื่อ มีการเสนอชื่อนาย อนุรักษ์ สง่าอารีย์กุล รองประธานแผนกคดียาเสพติดในศาลอุทธรณ์ ให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว ซึ่งถูกร้องเรียนกรณีแชทไลน์หลุด โดยนายชำนาญ รวิวรรณพงษ์ อดีตประธานแผนกคดีล้มละลายในศาลฎีกา ยื่นค้านบัญชีดังกล่าว จากกรณีถูกร้องเรียนว่าได้หาเสียงเลือกตั้งก.ต.บุคคลภายนอกในไลน์”สภาตุลาการ” ทั้งที่มีหน้าที่เป็น ก.ต.เเละตำเเหน่งที่จะย้ายไปเป็นตำแหน่งสำคัญที่จะคุมคดีทุจริตในศาลอุทธรณ์
นอกจากนี้ยังมีประเด็นการพิจารณาเรื่องมีมติเห็นชอบให้ นายปรเมษฐ์ โตวิวัฒน์ อธิบดีศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 1 ซึ่งถูกตั้งกรรมการสอบสวนร้ายเเรง ถูกกล่าวหาว่าเเทรกเเซงคดีในศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบภาค1 ให้เป็นู้พิพากษาอาวุโส หรือไม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ ก.ต.มีมติให้ อนุกรรมการตุลาการไปพิจารณากลั่นกรองก่อนเสนอ ก.ต.เห็นชอบอีกครั้ง
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |