ส.ส.ก้าวไกล นำกลุ่มธุรกิจนวด-สปา ยื่นฟ้องศาลแพ่งเรียกค่าเสียหาย 200 ล้านเหตุรัฐสั่งปิดกิจการ


เพิ่มเพื่อน    

17 ส.ค.64 - ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล, นายสุเทพ อู่อ้น, นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และทีมทนาย ร่วมเป็นตัวกลางนำ นายพิทักษ์ โยธา นายกสมาคมจารวีเพื่ออนุรักษ์นวดแผนไทย และน.ส.อักษิกา จันทรวินิจ หรือ เพรียว ตัวแทนกลุ่มธุรกิจร้านนวด-สปา เดินทางเข้ายื่นฟ้องรัฐบาลร่วมกับกลุ่มผู้ประกอบการร้านนวด และสปาในกรุงเทพมหานคร และจังหวัดในเขตพื้นที่สีแดงเข้ม เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายให้ผู้ประกอบการที่ได้รับความเดือดร้อน จากการถูกสั่งปิดสถานประกอบการร้านนวดตามคำสั่งของรัฐบาลเกี่ยวกับมาตรการบริหารจัดการโควิด ซึ่งที่ผ่านมาได้เคยไปเรียกร้องมาหลายหน่วยงานแล้ว

โดยนายพิทักษ์ กล่าวว่า กลุ่มผู้ประกอบการร้านนวดได้รับผลกระทบจากนโยบายสั่งปิดกิจการร้านนวดตั้งแต่ปี 2563 และถูกสั่งปิดต่อเนื่องทุกครั้งของการล็อกดาวน์ ซึ่งร้านนวดไม่เคยเป็นสถานที่เสี่ยง และไม่เคยมีผู้ติดเชื้อเกิดขึ้น แต่รัฐก็ยังสั่งปิดร้านนวดทุกครั้ง จนผู้ประกอบการบางรายต้องปิดกิจการ จนถึงขณะนี้ยังไม่รับการเยียวยาจากภาครัฐเลยสักครั้ง และในวันนี้กลุ่มผู้ประกอบการได้เรียกร้องค่าเสียหายจากภาครัฐเป็นเงินจำนวน 200 ล้านบาท

ด้านน.ส.ศิริกัญญา ในฐานะเป็นตัวกลางยื่นฟ้องให้กลุ่มผู้ประกอบการ กล่าวว่า การฟ้องในครั้งนี้เป็นการฟ้องแพ่งแบบรวมกลุ่มหรือ Class Action ครั้งแรก ซึ่งอยากให้คดีนี้เป็นคดีแรก และเป็นคดีในประวัติศาสตร์ที่รัฐบาลจะตัองรับผิดชอบต่อชีวิตของประชาชน และความเสียหายที่เกิดขึ้นของผู้ประกอบการ ทั้ง ๆ ที่เป็นมาตรการที่รัฐบาลสั่ง แต่ไม่มีมาตรการที่จะมารองรับความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้ผ่านมากว่าหนึ่งปีแล้วที่ผู้ประกอบการร้านนวดเหล่านี้ยังไม่เคยได้รับการเยียวยาจากภาครัฐ แต่ถ้าหากจะมาเยียวยาตอนนี้ก็สายเกินไปแล้ว เพราะไม่ได้สัดส่วนของความเสียหายที่เกิดขึ้น เราคิดว่ามันสายเกินไปแล้ว ต้องมาพึ่งศาลว่าได้กระทำการละเมิดกับประชาชนในการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19 ที่ผิดพลาดขนาดนี้ ก็ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้กับประชาชน ซึ่งการฟ้องร้องในวันนี้เป็นคดีแรกของการฟ้องรวมกลุ่มของกลุ่มผู้ประกอบการร้านนวด และจะขยายไปยังกลุ่มผู้ประกอบการอื่น ๆ อีก เช่น ร้านอาหาร และผับ บาร์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคำฟ้อง ระบุว่านางอักษิกา จันทรวินิจ ตัวแทนผู้ประกอบการธุรกิจนวดเพื่อสุขภาพและสปาขนาดกลางและขนาดเล็ก เเละ น.ส.จารวี ติสันโต เจ้าของร้านจารวี นวดแผนไทย เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง กระทรวงการคลัง , กระทรวงสาธารณสุข,กระทรวงมหาดไทย,กรุงเทพมหานคร เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานละเมิดเรียกค่าเสียหาย 10,796,928 บาท

โดยจำเลยที่ 1-4 เป็นนิติบุคคลมีอำนาจหน้าที่แตกต่างกันไปตามแต่ละหน่วยงานและเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ มีอำนาจหน้าที่ร่วมรับผิดชดใช้ค่าสินใหม่ทดแทน ตามพรบ.ความรับผิดทางละเมิดพของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 วรรค 5

คำฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นผู้อำนวยการ ศบค. และประธานกรรมการวัคซีนมีอำนาจแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินฯ และได้ประกาศกฎหมายหลายฉบับ เเต่พล.อ.ประยุทธ์ เเละนายอนุทิน ชาญวีรกูร รมว.สาธารณสุข ดำเนินนโยบายผิดพลาดทำให้ประเทศไทยเข้าสู่วิกฤติสาธารณสุข และด้านเศรษฐกิจ มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจำนวนมาก เกิดจากการบริหารจัดการการแพทยระบาดไวรัสโควิดยังล้มเหลวโดยสิ้นเชิง และนายกรัฐมนตรียังได้สั่งปิดสถานที่ ซึ่งรวมถึงสถานบริการนวดเพื่อสุขภาพ การกระทำของนายกรัฐมนตรี,นายอนุทินชาญ, ผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆและผู้ว่าการกรุงเทพมหานคร ที่ประกาศปิดสถานที่ดังกล่าว ซึ่งมีสาเหตุมาจากความประมาทเลินเล่อ ดำเนินนโยบายผิดพลาดล้มเหลว จึงต้องรับผิดชอบความเสียหายต่อโจทก์ทั้งสอง

โดยจำเลยทั้งสี่ต้องร่วมกันชดใช้แก่โจทก์ที่ 1 เป็นเงิน 7,199,262 บาท ชดใช้โจทก์ที่ 2 เป็นเงิน 3,597,666 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 5

โดยโจทก์ทั้งสองยังได้ยื่นคำร้องขอฟ้องคดีเเบบกลุ่ม ได้บรรยายฟ้องโดยแสดงให้เห็นถึงลักษณะเฉพาะที่เหมือนกันกับลักษณะของสมาชิกกลุ่มที่ชัดเจน เพียงพอเพื่อให้รู้ได้ว่าโจทก์ทั้งสองและสมาชิกกลุ่มเป็นกลุ่มบุคคลที่ประกอบกิจการร้านนวดเพื่อสุขภาพที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำละเมิดของพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, ผู้ว่าราชการจังหวัดต่าง ๆ และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครนั้นมีสมาชิกกลุ่มจำนวนมากกว่า150 คนซึ่งถือว่าการฟ้องคดีนี้มีผู้เสียหายเข้ามาเป็นจำนวนมากซึ่งหากดำเนินคดีอย่างคดีสามัญแล้วจะทำให้เกิดความยุ่งยากและไม่สะดวกเพราะจะต้องสืบพยานบุคคลเป็นจำนวนมากหรืออาจต้องแยกฟ้องเป็นคดีใหม่อีกจำนวนหลายคดี เเละการดำเนินคดีแบบกลุ่มจะเป็นธรรมและมีประสิทธิภาพมากกว่าการดำเนินคดีอย่างคดีสามัญเนื่องจากคดีนี้เป็นการฟ้องร้องหน่วยงานของรัฐให้รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากการกระทำละเมิดของเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงอาจต้องออกคำสั่งเรียกพยานเอกสารที่อยู่ในความครอบครองของรัฐหรือต้องออกหมายเรียกพยานบุคคลที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือนักวิชาการมาเป็นพยานในคดีซึ่งหากให้ประชาชนแต่ละบุคคลแยกกันไปฟ้องร้องอาจไม่สามารถต่อสู้คดีกับหน่วยงานของรัฐได้ดีเท่ากับการรวมกลุ่มกัน

โจทก์ทั้งสองยังยื่นคำร้องว่า เนื่องด้วยในปัจจุบันอยู่ในสถานการณ์การระบาดรุนแรงของโรคโควิด 19 การเดินทางมาดำเนินกระบวนพิจารณาคดีที่ศาลอาจเสี่ยงให้เกิดการติดเชื้อของคู่ความและบุคลากรของศาลได้ด้วย จึงขอให้ศาลมีคำสั่งให้พิจารณาคดีนี้โดยไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีแบบกลุ่มและนัดชี้สองสถานหรือสืบพยานโจทก์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ทางเว็บไซต์ Google Meet เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด 19 ของคู่ความและบุคลากรของศาลขอศาลได้โปรดอนุญาตโดยศาลรับคำร้องขอดำเนินคดีเเบบกลุ่ม

บัดนี้ ศาลแพ่งในคดีหมายเลขดำที่ พ 3782/2564 ได้พิจารณาคำร้อง และคำฟ้องดังกล่าวแล้วมีคำสั่งให้นัดไต่สวนคำร้องขอให้ดำเนินคดีแบบกลุ่มวันที่ 21 ก.ย. 2564 เวลา 09.00 น. ตามวันและเวลาที่โจทก์ทั้งสองขอ โดยโจทก์ทั้งสองจะดำเนินกระบวนพิจารณาทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านโปรแกรม Google Meet จากสำนักงานของทนายโจทก์ทั้งสอง


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"