บอร์ดสกสค. ตีกลับพิจารณาโทษวินัย'อดีต เลขาฯ สกสค. 'ให้ไปดูข้อกม.ให้ชัด ฟันย้อนหลังได้หรือไม่ 


เพิ่มเพื่อน    

17ส.ค.64-นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ในการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ที่ประชุมได้หารือถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มีมติชี้มูลความผิดที่สำนักงานสกสค.อนุมัตินำเงินกองทุนการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) จำนวน 500 ล้านบาท ไปซื้อตั๋วสัญญาจากบริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด  โดย ป.ป.ช.มีการชี้มูลความผิดตามมาตรา 4 มาตรา 8 มาตรา 11 พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 และตามมาตรา 123/1 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ.2561 ซึ่งเรื่องนี้มีผู้เกี่ยวข้องกว่า 10 ราย ตั้งแต่ระดับผู้บริหารสกสค.จนถึงเจ้าหน้าที่นั้น ที่ประชุมได้มอบให้สกสค.กลับไปพิจารณาความเห็นทางกฎหมายในเรื่องนี้ก่อนและนำกลับเข้ามาเสนอคณะกรรมการ สกสค.ใหม่อีกครั้ง รวมถึงให้สกสค.ชี้แจงกับป.ป.ช.ด้วยว่าเรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างขั้นตอนพิจารณาในขั้นตอนของกฎหมายจึงยังไม่มีการดำเนินการใดๆ  
           
ด้านนายธนพร สมศรี เลขาฯ สกค.กล่าวว่า สำหรับการลงโทษทางวินัยกับอดีตผู้บริหารสกสค.จำนวน 2 รายนั้น ที่ประชุมมีความกังวลในสถานะของอดีตผู้บริหาร สกสค.ว่า เมื่อพ้นจากตำแหน่งไปนานแล้วจะสามารถลงโทษทางวินัยได้หรือไม่ ตามขั้นตอนของระเบียบราชการ ดังนั้น ที่ประชุมจึงส่งเรื่องดังกล่าวกลับไปให้คณะกรรมการกฎหมายและอรรถคดีของสกสค.เป็นผู้วินิจฉัย จากนั้น เมื่อมีการวินิจฉัยทางคดีเสร็จสิ้นจะนำกลับเข้ามาพิจารณาในที่ประชุมสกสค.อีกครั้งก่อนพิจารณาลงโทษทางวินัยตามคำสั่งของ ป.ป.ช.ต่อไป โดยตนจะเร่งให้คณะกรรมการฝ่ายกฎหมายฯประชุมเร่งด่วนในวันที่ 20 สิงหาคมนี้ทันที ทั้งนี้จะต้องดูข้อวินิจฉัยทางกฎหมายว่าจะสามารถลงโทษทางวินัยได้หรือไม่ ซึ่งหากไม่สามารถลงโทษทางวินัยก็จะมีข้อกฎหมายรองรับว่าเพราะอะไร เช่น อดีตผู้บริหารสกสคค.พ้นสภาพไปนานแล้วจึงไม่มีอำนาจทางกฎหมายที่จะลงโทษ เป็นต้น แต่หากวินิจฉัยแล้วสามารถลงโทษทางวินัยได้ก็จะเป็นโทษไล่ออกย้อนหลังในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ สำหรับโทษทางวินัยโดยไล่ออกย้อนหลังนั้นจะมีผลกับการได้รับเงินบำเหน็จก็จะต้องคืน 
           
“นอกจากนี้ยังได้มีการรายงานให้ที่ประชุมรับทราบถึงการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูของสกสค. โดยได้ร่วมกับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูและธนาคารออมสิน เพื่อรวมหนี้ครูให้ได้เป็นก้อนเดียวกัน และง่ายต่อการวางแผนการชำระหนี้ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ ซึ่งมีการดำเนินการแก้ไขไปได้พอสมควร เพราะได้ใช้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูจังหวัดนครราชสีมาเป็นโมเดลในการแก้ไขหนี้สินครู โดยสถาบันการเงินในพื้นที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี”เลขาฯ สกสค. กล่าว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"