17 ส.ค.64- นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค หัวข้อ “ความพยายามในการจัดระเบียบโลกอันล้มเหลวของอเมริกา” ว่าผมเชื่อว่า การที่อเมริกาถอนทัพนั้นคืออเมริกาพ่ายแพ้ หรือยอมแพ้ ต่อความพยายามของอเมริกาที่จะจัดระเบียบโลก เป็นความพยายามที่ไม่มีวันสำเร็จและสูญเปล่า
ในขณะเดียวกัน ความเห็นจากแฟนเพจ #เพื่อนอัษฎางค์ ผู้ที่เป็นคนไทยสัญชาตญาณอเมริกัน นั้นผมเห็นด้วยอย่างยิ่งว่า…
มันคือบทเรียนสำคัญ สำหรับผู้ที่นิยมอเมริกา และพร้อมจะเปิดประตูให้ต่างชาติ(โดยเฉพาะอเมริกา) เข้ามาครอบงำ ครอบครอง จัดระเบียบ จัดแจง กิจการภายในประเทศ โดยไม่เคยคิดพึ่งตนเอง
ระบบการปกครองใดๆ ในโลกล้วนมีความเหมาะสมกับวัฒนธรรม พฤติกรรมของชนชาตินั้นๆ
แม้แต่ประชาธิปไตย ก็ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ต่างกันไป และมีความเหมาะกับแต่ละประเทศต่างกันไป
ยกตัวอย่าง ประชาธิปไตยครึ่งใบอย่างสิงคโปร์ก็เหมาะกับสิงคโปร์ และทำให้สิงคโปร์เจริญก้าวหน้าอย่างมาก
ประชาธิปไตยอย่างไทย คือประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เป็นศูนย์รวมจิตใจ ก็เหมาะกับคนไทยและเมืองไทย
เพราะอะไร
เพราะการเมืองของไทย เป็นการเมืองแบบอุปถัมภ์ ตามลักษณะนิสัยและพฤติกรรมของไทยที่ถูกฝังรากลึกมายาวนาน ตลอดความเป็นชาติ
ลองสังเกตดูดีๆ เราชาวบ้านต่างออกมาต่อต้านนักการเมืองและข้าราชการที่ทำราชการด้วยระบบอุปถัมภ์ เพื่อเอื้อประโยชน์ใส่ตนเองและพวกพ้อง
แต่ในขณะเดียวกัน ตัวเราชาวบ้านเองก็พึ่งพาระบบอุปถัมภ์เพื่อกิจกรรม กิจการของตนเองและพวกพ้อง
ยกตัวอย่างง่ายๆ เวลาเราเห็นคนอื่นฝากลูกเข้าเรียน ฝากหลานเข้าทำงานหนัก ฝากเพื่อนแซงคิว ฝากญาติแทรกไปฉีดวัคซีน เราไม่พอใจ เราต่อว่า
แต่สุดท้ายเราก็เป็นอีกคนที่เคยทำเรื่องเหล่านั้น หรือแม้กระทั่งไม่ได้เป็นคนทำ แต่มีญาติมีเพื่อนจัดการให้
หรือตัวอย่างเช่น เวลาถูกตำรวจจับเมื่อทำผิดกฎจราจร เราก็พร้อมจะจ่ายให้ตำรวจ ทั้งที่เรารู้ว่าไม่ถูกต้องและบอกกับตัวเองว่าไม่เห็นด้วยกับระบบอุปถัมภ์และคอรัปชั่น แต่เมื่อถึงคราวเราเองก็ทำ
ซึ่งมันแปลว่า ปากและใจของเราไม่ยอมรับระบบอุปถัมภ์ แต่เราเคยเกี่ยวข้องกับระบบอุปถัมภ์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ระบบอุปถัมภ์นั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย
อย่างไรก็ตาม ถึงระบบอุปถัมภ์จะมีข้อเสียมากมาย แต่มันฝั่งรากลึกอยู่ในสังคมไทยจนยากจะรื้อถอนออกไป จึงทำให้เราต้องยอมรับที่จะอยู่กับมัน
ระบบอุปถัมภ์นี่เองที่กัดกินความเจริญรุ่งเรืองของชาติ
และระบบอุปถัมภ์นี่เองที่เป็นปัญหาระดับชาติ เมื่อนักการเมืองบริหารราชการแผ่นดินด้วยระบบอุปถัมภ์ที่เอื้อประโยชน์ต่อตนเองและพวกพ้อง
การที่ทักษิณถูกจับได้ว่าโกงชาติจนถูกรัฐประหาร และหนีไปอยู่ต่างประเทศและพยายามทุกวิถีทางเพื่อจะกลับมา ด้วยการทำลายล้าง ทั้งชาติ ประชาชนและสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยการแอบร่วมมือกับเครือข่ายชาติมหาอำนาจสนับสนุนพรรคการเมือง นักเคลื่อนไหวทางการเมืองและม็อบ
โดยสร้างสถานการณ์ว่า สถาบันพระมหากษัตริย์คือตัวปัญหา และระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆ นั้นมีปัญหา
ทั้งๆ ที่ตัวปัญหาที่แท้จริงคือ ตัวนักการเมืองเอง
ตัวอย่างเช่น ตัวทักษิณเอง หรือตัวนักการเมืองทั้งฝั่งรัฐบาลและฝ่ายค้านเอง ทั้งในพรรคพลังประชารัฐ เพื่อไทย ก้าวหน้าและก้าวไกล ล้วนเป็นต้นตอของปัญหา ด้วยการไม่ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ ไม่ซื่อสัตย์ต่อชาติและประชาชน และการคอรัปชั่นจากระบบอุปถัมภ์ด้วยกันทั้งสิ้น
สถาบันพระมหากษัตริย์คือตัวกลางระหว่างประชาชนและนักการเมือง
สถาบันพระมหากษัตริย์คือทางออกของนักการเมืองและประชาชน
สถาบันพระมหากษัตริย์นี่เอง ที่ช่วยนักการเมืองทำราชการ และช่วยนักการเมืองพัฒนาชาติ
สถาบันพระมหากษัตริย์นี่เองที่ช่วยประชาชนให้เข้าถึงการได้รับบริการและความช่วยเหลือจากรัฐอย่างทันท่วงทีและทั่วถึง
สถาบันพระมหากษัตริย์นี่เอง ที่ช่วยให้ประชาชนตาดำๆ ตั้งแต่ชนชั้นสูงยันรากหญ้า ทึ่ถูกระบบอุปถัมภ์กีดกัน ได้เข้าถึงความช่วยเหลือหรือเข้าถึงระบบราชการ
แต่ผู้ที่ไม่เข้าใจและไม่ยอมรับความจริง หลงผิดและหลงเชื่อคำยุยงจากคนไทย นักการเมืองไทยและนักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ร่วมมือกับเครือข่ายชาติมหาอำนาจที่ต้องการจะจัดระเบียบโลกด้วยการแทรกแซงกิจกรรมภายใน สร้างความวุ่นวายด้วยการโยนความผิดของนักการเมือง ไปให้สถาบันพระมหากษัตริย์และระบบการปกครองของไทย ว่าเป็นตัวปัญหา
ทั้งที่ตัวปัญหาที่แท้จริงคือตัวนักการเมืองและชาติมหาอำนาจที่ต้องการจะเข้ามายุงเกี่ยวกับกิจการภายใน
ถ้านักการเมือง นักเคลื่อนไหวทางการเมืองและเครือข่ายของชาติมหาอำนาจทำสำเร็จ ในการเข้ามาจัดการกิจการภายในได้เมื่อไหร่ เราจะมีจุดจบเหมือนหลายๆชาติ
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดในเวลานี้คือ อัฟกานิสถาน
อัฟกานิสถานคือความพยายามของเครือข่ายชาติมหาอำนาจ ที่นำโดยสหรัฐอเมริกา เป็นความพยายามที่จะจัดระเบียบโลก ด้วยการเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในประเทศ
แต่เหมือนที่ผมกล่าวไว้ตอนต้นว่า
แต่ละประเทศ แต่ละชนชาติมีพฤติกรรมและลักษณะนิสัยต่างกัน และมีความเหมาะกับการปกครองในแบบของตน ซึ่งชาติมหาอำนาจตะวันตกไม่เคยเข้าใจได้ลึกซึ้งเท่าคนในชาติของเราเอง
หยุดความพยายามในการจัดระเบียบโลก
หยุดเรียกร้องในต่างชาติเข้ามาครอบงำ
และหยุดชักศึกเข้าบ้าน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |