"นครบาล" สรุปเหตุปะทะกลุ่มคาร์ปาร์ก ตำรวจเจ็บ 17  นาย รถพัง 18 คัน ขอโทษชาวแฟลตดินแดงทำเดือดร้อน "แรมโบ้" แจ้งจับ "ณัฐวุฒิ" ปลุกม็อบป่วนเมือง ร้อง ปปง.สอบการเงิน "เต้น" ฟุ้งพลังไล่บิ๊กตู่เต็มถนน "ศูนย์ทนายฯ" เผย "เพนกวิน-ฟ้า" ติดโควิดในเรือนจำ  "ทะลุฟ้า" เปลี่ยนเป้าไม่ไปบ้านนายกฯ หันบุกทำเนียบฯ เจอตู้คอนเทนเนอร์ขวางพร้อมฉีดน้ำสลับยิงแก๊สน้ำตาใส่ ม็อบปาประทัดโต้ก่อนประกาศยุติชุมนุม 
    ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) วันที่ 16 ส.ค. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะโฆษก บช.น. แถลงสรุปการปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบกลุ่มคาร์ปาร์กที่เกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) บริเวณแยกดินแดงเมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนได้รับบาดเจ็บ 17 นาย จากสะเก็ดของพลุ ประทัดยักษ์ ระเบิดปิงปอง ลูกแก้ว ลูกหิน รักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตำรวจ 14 นาย  กลับบ้านได้แล้ว 3 นาย ส่วนทรัพย์สินของราชการที่ได้รับความเสียหาย ได้แก่ รถ 18 คัน และป้อมสัญญาณไฟจราจรเสียหาย 1 ป้อม
    พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า เดือน ก.ค.ที่ผ่านมา บช.น.ได้ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องการชุมนุมแล้วจำนวน 37 คดี มีผู้ต้องหาที่เข้าข่ายผิดกฎหมายจำนวน 296 ราย จับกุมดำเนินคดีแล้ว 139 ราย ส่วนการปฏิบัติหน้าที่บริเวณหน้าแฟลตดินแดงทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน บช.น.ต้องขอโทษและไม่ได้มีเจตนาเข้าไปสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน
    "ที่ระบุมีชาวบ้านแฟลตดินแดงถูกตำรวจควบคุมฝูงชนยิงกระสุนยางขึ้นมาที่หน้าห้องพักชั้น 3 ทั้งๆ ที่ไม่ได้ร่วมชุมนุมนั้น ยอมรับว่าปลอกกระสุนคือกระสุนยางจริง แต่หัวกระสุนที่นำมาโพสต์ในโซเชียลไม่ใช่อย่างแน่นอน เพราะหัวกระสุนยางจะมีลักษณะสีดำ และเจ้าหน้าที่ไม่มีความจำเป็นต้องยิงขึ้นไปหาผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง ส่วนคลิปที่มีการบันทึกว่ามีเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนพูดว่ายิงขึ้นไปเลย จะมีการตรวจสอบคลิปดังกล่าวอีกครั้ง แต่เบื้องต้นอาจจะเป็นการยิงขึ้นไปยังจุดอื่น เช่นสะพานลอย หรือจุดที่มีผู้ชุมนุมก่อความวุ่นวาย" พล.ต.ต.ปิยะกล่าว
    พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.มอบหมายให้ พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ นายแพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจ ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งยังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ รวมทั้งให้ดูแลด้านสวัสดิการต่างๆ ตามสิทธิ
    ขณะที่นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี  เดินทางไปที่กองปราบปราม​เพื่อแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ​ ​อดีตแกนนำ​ นปช.​ กรณี​ที่นายณัฐวุฒิ​โพสต์​เชิญชวนให้มวลชน​ร่วม​กิจกรรม​คาร์ปาร์ก และปลุกระดมผ่านเฟซบุ๊กให้ประชาชนออกมาเคลื่อนไหว​ ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการก่อความวุ่นวาย​ในบ้านเมือง​ จึงมาแจ้งความให้ดำเนินคดีนายณัฐวุฒิ​และพวกในข้อหากระทำความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ และ​มาตรา 116​  
'เพนกวิน-ฟ้า' ติดโควิด
    "หลังจากนี้จะเดินทางไปยื่นหนังสือที่สำนักงานป้องกันและปราบปราม​การฟอกเงิน​ (ปปง.) ​เพื่อขอให้ตรวจสอบเส้นทางธุรกรรมการเงิน​​ของนายณัฐวุฒิ​ตั้งแต่ปี 2553​ จนถึงปัจจุบัน​ เนื่องจากสงสัยที่มาของเงินสนับสนุน​ในการชุมนุมครั้งนี้ว่ามาจากไหน​ มาจากนายทุนคนเดิมหรือไม่" นายเสกสกลกล่าว 
    อย่างไรก็ตาม นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดง ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กว่า คาร์ปาร์ค 15 สิงหาคม เราได้เห็นทุกอย่างที่เชื่อว่าจะได้เห็นขบวนขับไล่ประยุทธ์ล้นหลามทรงพลังทั่วประเทศ 3 เส้นทางในกรุงเทพฯ เต็มไปด้วยรถนานาชนิด สองข้างทางมีพี่น้องชูป้ายชูมือแสดงสัญลักษณ์ ผู้คนหลากหลายสถานะแสดงออกชัดเจนไม่ยอมรับอำนาจบริหารนี้อีกต่อไป สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ต้องรู้คือ ถ้าไม่ใช่สถานการณ์โรคระบาด จะเห็นคนหลายแสนคนไหลบ่ามารวมกันในกรุงเทพฯ เดินขบวนขับไล่
    ส่วนศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน/TLHR เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ว่า นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน และนายพรหมศร วีระธรรมจารี หรือฟ้า ติดเชื้อโควิด-19 ระหว่างถูกคุมขังในเรือนจำชั่วคราวรังสิต หลังไม่ได้รับการประกันตัวในคดีม็อบ 2 สิงหา โดยเรือนจำเตรียมย้ายทั้งสองไปรักษาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ก่อนหน้านี้ทั้ง 2 คนได้รับการตรวจโควิดก่อนเข้าเรือนจำไม่พบว่ามีเชื้อแต่อย่างใด
    วันเดียวกัน เวลา 15.00 น. ขบวนกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มทะลุฟ้า ม็อบ  19 สิงหาไล่ล่าทรราช นัดรวมตัวที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ฝั่งพญาไท เพื่อเคลื่อนขบวนไปยังบ้านพักของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ร.1 ทม.รอ.) เรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่ง โดยใช้เส้นทางถนนพหลโยธิน และเข้าทางซอยพหลโยธินซอย 2 หลีกเลี่ยงเส้นทางแยกสามเหลี่ยมดินแดง พร้อมประกาศชุมนุมโดยสันติวิธี หากถูกเจ้าหน้าที่ขัดขวางก็จะไม่ใช้ความรุนแรง
    ทั้งนี้ ก่อนเคลื่อนขบวนกลุ่มได้ทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ โดยการนำหุ่นผ้าจำลองเป็นศพผู้ป่วยโควิด-19 เปื้อนเลือดนั่งบนรถเข็น มาวางรวมกับกองหุ่นศพอีกจำนวนมาก พร้อมปราศรัยโจมตีการบริหารจัดการวัคซีนที่ล้มเหลวของรัฐบาล 
ม็อบทะลุฟ้าบุกทำเนียบฯ
    กระทั่งเวลา 16.20 น. แกนนำประกาศไปที่ทำเนียบรัฐบาล โดยเคลื่อนขบวนเดินเท้าผ่านเส้นทางถนนพญาไท เลี้ยวขวามุ่งหน้าสะพานชมัยมรุเชฐ เพื่อมุ่งหน้าไปทำเนียบรัฐบาล เนื่องจากห่วงสถานการณ์ที่รุนแรงที่แยกดินแดง ไม่ไปบ้านพักนายกฯ ตามที่เคยวางแผนกันไว้
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้ม็อบทะลุฟ้าจะเปลี่ยนเส้นทางจากแยกดินแดง เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังนำตู้คอนเทนเนอร์มาตั้งขวางทางปิดกั้นเส้นทางถนนพหลโยธินซอย 2 เส้นที่มาจากถนนพหลโยธินไปยังถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นเส้นทางที่กลุ่มผู้ชุมนุมทะลุฟ้าประกาศนัดหมายทำกิจกรรมเคลื่อนขบวนเพื่อไปยังบ้านพักของ พล.อ.ประยุทธ์ก่อนหน้านี้  
    ส่วนที่สะพานชมัยมรุเชฐ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้นำตู้คอนเทนเนอร์ รั้วลวดหนาม แผงเหล็กมาขวางไว้เช่นกัน โดยมีกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนที่ขับขี่รถจักรยานยนตร์ได้ทยอยเข้าพื้นที่บริเวณแยก นางเลิ้งในชุดล่วงหน้า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) ได้ตั้งแนวกั้นที่แยกพาณิชยการ พร้อมประกาศให้ผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ เนื่องจาก กทม.เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดตามการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน   
    ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เสร็จสิ้น ได้มีการรายงานให้นายกฯ รับทราบว่ากลุ่มผู้ชุมนุมม็อบทะลุฟ้าได้นัดหมายเปลี่ยนเส้นทาง จากแต่แรกที่จะเดินทางไปบ้านพักของนายกรัฐมนตรีมายังทำเนียบรัฐบาลแทน  ทำให้นายกฯ และคณะทำงานต้องรีบเดินทางออกจากทำเนียบฯ ในเวลา  16.10 น. 
    โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งวางกำลังรักษาความปลอดภัยและดูแลความเรียบร้อยทั้งภายในและภายนอกทำเนียบรัฐบาล พร้อมจัดกำลังตำรวจกองบังคับการตำรวจสันติบาล 3 และตำรวจควบคุมฝูงชนดูแลภายในทำเนียบรัฐบาลจำนวน 2 กองร้อย ส่วนบริเวณรอบนอกของทำเนียบรัฐบาล ตำรวจสันติบาลคอยดูแลรอบพื้นที่ และมีรายงานว่าได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) เข้ามาเสริมในทำเนียบฯ อีก 1  กองร้อยด้วย 
    เวลา 17.15 น. ม็อบทะลุฟ้าเคลื่อนขบวนถึงแนวเครื่องกีดขวางแนวแรก บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร โดยแกนนำประกาศให้ผู้ชุมนุมนั่งลง ไม่ให้มีการรื้อแนวกั้นเป็นอันขาด จนกว่าเจ้าหน้าที่จะใช้ความรุนแรงก่อนจึงจะใช้สีปาตอบโต้ แกนนำยังได้ปราศรัยตำหนิเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) ที่ทำเกินกว่าเหตุในการปฏิบัติการที่สามเหลี่ยมดินแดง มีการใช้กระสุนยางและแก๊สน้ำตายิงใส่ที่ตัวผู้ชุมนุม รวมถึงโจมตีการบริหารที่ผิดพลาดล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาโควิด-19 จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 7 พันราย 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำได้ประกาศห้ามใช้ความรุนแรงก่อน  โดยเฉพาะขอให้นักศึกษาอาชีวะอยู่ตรงเครื่องกีดขวาง หากเจ้าหน้าที่เริ่มก่อนให้มารับสีปาเข้าไปเพื่อเป็นการตอบโต้ พร้อมยื่นคำขาดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเลือกข้างประชาชน จากนั้นยังโจมตีการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการเข้าค้นบ้านพักสำนักงานของวีโว่ และบ้านพักของกลุ่มทะลุฟ้าซึ่งอยู่บนถนนสามเสน 
    เวลาประมาณ 17.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศให้ผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่และเริ่มฉีดน้ำ พร้อมยิงแก๊สน้ำตา ทำให้แกนนำสั่งให้ผู้ชุมนุมล่าถอยและออกจากพื้นที่พร้อมประกาศยุติการชุมนุม เหลือเพียงกลุ่มผู้ชุมนุมและนักศึกษาอาชีวะบางคนที่ยังปาประทัดประปรายเข้าใส่แนวเจ้าหน้าที่ คฝ. แต่ในที่สุดต่างทยอยออกจากพื้นที่ และคาดว่าน่าจะไปรวมตัวกันที่สามเหลี่ยมดินแดงต่อ จากนั้นเจ้าหน้าที่ คฝ.ได้ตั้งแถวหน้ากระดานเพื่อเคลียร์พื้นที่ตลอดแนวถนนพิษณุโลก.