เหยื่อสปีดโบ๊ต อาการหนัก3


เพิ่มเพื่อน    

กัปตันเรือสปีดโบ๊ตคิงโพไซดอนเจอ 2 เด้ง ถูกไฟคลอกจากเหตุระเบิดนอนไอซียู ขณะที่ตำรวจเตรียมตั้งข้อหากระทำประมาท เผย 2 นักท่องเที่ยวชาวจีนก็ยังน่าห่วง ถูกไฟไหม้ร่างกาย 50 เปอร์เซ็นต์ ผู้ว่าฯ กระบี่เตรียมเรียกประชุมผู้ประกอบการหาทางล้อมคอก ด้าน รมว.การท่องเที่ยวฯ ลงพื้นที่ทันที

            เมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 15 มกราคมนี้ เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ประกอบด้วย ตำรวจ สภ.เกาะพีพี ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดกระบี่ เจ้าท่าภูมิภาคสาขากระบี่ ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจน้ำ และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ได้ลงเรือไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุเรือสปีดโบ๊ตคิงโพไซดอน 959 ของบริษัท แอปเปิ้ลทริป จำกัด ประสบเหตุเครื่องยนต์ระเบิดและเกิดไฟลุกไหม้ เป็นเหตุให้มีผู้โดยสารซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนและลูกเรือได้รับบาดเจ็บรวม 16 คน บาดเจ็บสาหัส 6 คน ที่บริเวณหน้าถ้ำไวกิ้ง เกาะพีพีเล หมู่ 7 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ เมื่อวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา จนเรือคิงโพไซดอนได้รับความเสียหายทั้งลำและจมลง

            เมื่อคณะเจ้าหน้าที่ไปถึง พบว่าเรือได้ลอยไปติดโขดหินบริเวณข้างถ้ำในสภาพเรือเหลือเพียงส่วนของตัวเรือที่ถูกไฟไหม้ และมีเครื่องยนต์ติดอยู่ที่ท้ายเรือ 3 เครื่อง เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ได้ลงไปดำน้ำบันทึกภาพของเรือ พบว่าเครื่องยังอยู่ที่ท้ายและมีร่องรอยไหม้ตลอดทั้งลำ จากนั้นได้ให้เรือมาลากซากเรือลำดังกล่าวไปตรวจที่ชายหาดเกาะพีพี แต่ก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากมีคลื่นแรงและเรือเสียหายอย่างหนัก

            มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บหลักฐานต่างๆ และเตรียมสอบปากคำลูกเรือว่า ก่อนออกเดินทางได้พบความผิดปกติของเรือ และมีนักท่องเที่ยวสูบบุหรี่ในเรือหรือไม่ เพื่อมาประกอบหาสาเหตุของการเกิดประกายไฟจนระเบิด

            ต่อมา พ.ต.ท.หม่อมหลวงกิติบดี ประวิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยนาวาตรีชัยศิริ ขุนดำ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 กระบี่ นายวัฒน เริงสมุทร นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ ตำรวจท่องเที่ยวกระบี่ เจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวกระบี่ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองกระบี่ ได้เดินทางไปเยี่ยมอาการบาดเจ็บของนักท่องเที่ยวที่พักรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู โรงพยาบาลกระบี่นครินทร์อินเตอร์เนชั่นแนล อ.เมือง จ.กระบี่ จำนวน 2 ราย ประกอบด้วย นายซู ซิน และนายวูซิอาน รวมทั้งนายเกรียงไกร บุญศรี อายุ 28 ปี กัปตันเรือ ที่นอนอยู่ในห้องไอซียูเช่นกัน พร้อมกันนี้ได้มอบกระเช้าเยี่ยมไข้ของนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม และนายวิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมเจ้าท่า ให้แก่ผู้บาดเจ็บทั้ง 3 คนด้วยโดยผ่านทางตัวแทน เนื่องจากทาง รพ.ไม่อนุญาตให้ใครเข้าเยี่ยมคนไข้   

            นพ.สุนทร ฟองฟุ้ง รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลกระบี่นครินทร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยถึงอาการบาดเจ็บของนักท่องเที่ยวชาวจีนว่า ขณะนี้นักท่องเที่ยวทั้ง 2 คนยังคงรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู และต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีบาดแผลถูกไฟลวกกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของร่างกาย แต่โดยภาพรวมอาการบาดเจ็บดีขึ้นตามลำดับ ผู้ป่วยรู้สึกตัวดี คาดว่าต้องพักรักษาตัวไม่ต่ำกว่า 20 วัน ขณะที่อาการบาดเจ็บของนายเกรียงไกรก็ยังน่าห่วงเช่นกัน ยังไม่สามารถให้การกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้

            ด้าน พล.ต.ต.บุญทวี โตรักษา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานทางคดี ในเบื้องต้นเตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับนายเกรียงไกร กัปตันเรือ ในข้อหากระทำการประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและบาดเจ็บสาหัส แต่ยังไม่สามารถสอบปากคำได้เนื่องจากนายเกรียงไกรยังคงมีอาการบาดเจ็บสาหัส และพักรักษาตัวอยู่ให้ห้องไอซียู รอให้อาการดีขึ้นจะได้สอบสวนข้อเท็จจริงและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป   

            ขณะที่ ผวจ.กระบี่กล่าวว่า หลังจากนี้จะเรียกประชุมผู้เกี่ยวข้องหาแนวทางรับมือใน 2 มาตรการ คือ 1.การเตรียมความพร้อมในการป้องกัน เช่น การตรวจตราเรือ เป็นต้น และ 2.การรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น การเข้าช่วยเหลือ

            สำหรับผู้บาดเจ็บที่ยังนอนรักษาตัวขณะนี้ นอกจาก 3 คนที่ รพ.กระบี่นครินทร์ อินเตอร์เนชั่นแนล แล้ว ที่เหลือประกอบด้วยนักท่องเที่ยวชาวจีน 2 คนที่โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต, นักท่องเที่ยวจีน 1 คนที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และนายประวัติ แสงวิมาน อายุ 45 ปี อยู่โรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต ซึ่งอุบัติเหตุดังกล่าวไม่มีผู้เสียชีวิตดังที่มีข่าวในช่วงแรก

            พญ.ลลิตา กองสีหา รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต ประกาศแจ้งความคืบหน้าผลการรักษาผู้ป่วยหนักจำนวน 2 ราย ยังคงพักรักษาตัวในหออภิบาลผู้ป่วยหนัก (I.C.U.) อาการโดยทั่วไปดีขึ้น รู้สึกตัวดี ส่วนผู้ป่วยที่พักรักษาตัวในหอพักผู้ป่วยเพื่อสังเกตอาการ มีจำนวน 6 ราย ผลการรักษาดี อาการทั่วไปดีขึ้น แพทย์อนุญาตให้กลับได้แล้ว 1 ราย ที่เหลือ 5 ราย แม้อาการดีขึ้น แต่ยังต้องเฝ้าระวังการติดเชื้อและภาวะแทรกซ้อน

            มีรายงานด้วยว่า หลังเกิดเหตุ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ลงพื้นที่และเยี่ยมอาการบาดเจ็บของผู้ประสบเหตุที่โรงพยาบาลกระบี่ และโรงพยาบาลกระบี่นครินทร์ อินเตอร์เนชั่นแนล

            นายวีระศักดิ์กล่าวว่า อาการเบื้องต้นของนักท่องเที่ยวที่โรงพยาบาลกระบี่นครินทร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้รับบาดเจ็บอยู่ในระดับ 2 มีแผลถูกไฟลวกตามผิวหนังประมาณ 30-50% ต้องอยู่ในห้องปลอดเชื้อและอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ส่วนกัปตันเรือยังสาหัส ถูกไฟลวกใบหน้าและลำตัว แพทย์โรงพยาบาลกระบี่ใส่สายออกซิเจนทางลำคอเพื่อช่วยการหายใจ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมให้การช่วยเหลือผู้ประสบเหตุอย่างเต็มที่

            พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า อุบัติเหตุเรือระเบิดจนนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บหลายราย เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาไปแล้ว 1 ราย คือเจ้าหน้าที่ประจำเรือ แต่ในข้อเท็จจริงจะต้องมีการแจ้งข้อหาผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมากกว่านี้ พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เนื่องจากข้อหาที่แจ้งไปคือกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายสาหัส ส่วนใครจะเกี่ยวข้องอีกต้องดูก่อน เพราะสาเหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากเครื่องยนต์ อย่างเช่น กัปตันหรือผู้ควบคุมเรือ ได้ใช้ความสามารถของตนเองถึงที่สุดหรือไม่ อย่างไร เป็นคนประมาทหรือไม่ ต้องดูในภาพรวมทั้งหมด ถ้าหลักฐานถึงใครต้องมีการแจ้งข้อหา

            รองโฆษก ตร.กล่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับไปยังกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (บช.ทท.) ให้เร่งประสานไปยังบริษัททัวร์ที่นำลูกทัวร์ชาวจีนมา ให้ดูเรื่องสวัสดิการของนักท่องเที่ยวทราบว่ามีการทำประกันภัย เพื่อดำเนินการควบคู่กับกระทรวงการท่องเที่ยวฯ แต่เท่าที่ทราบยังไม่มีประเด็นอะไรที่เกี่ยวข้องกับการเดินเรือหรือใบอนุญาตการเดินเรือ แต่เกี่ยวข้องกับความประมาทของผู้ควบคุมการเดินเรือหรือไม่

            วันเดียวกัน นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมคณะ ได้เดินทางไปยังท่าเรือไทยมอร์นิ่งซัน ต.รัษฎา อ.เมือง เพื่อติดตามการเดินทางของนักท่องเที่ยวทางเรือ โดยมีเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาภูเก็ต ดูแลเรือเข้า-ออกตลอด พร้อมกันนี้ผู้ว่าฯ ยังกำชับให้จัดเก็บรายชื่อนักท่องเที่ยวไว้ในระบบให้ถูกต้องก่อนปล่อยเรือออกแต่ละลำ เพราะรายชื่อเหล่านี้ทั้งในส่วนของภาคเอกชนและหน่วยงานราชการจะทราบเหมือนกัน สามารถส่งรายชื่อจากต้นทางไปให้ปลายทางได้ทันทีว่านักท่องเที่ยวเดินทางไปจำนวนเท่าใด หากเกิดเหตุจะทราบข้อมูลได้ทันที

            นายนรภัทรกล่าวด้วยว่า การตรวจสภาพเรือนั้น เดิมมีการตรวจปีละครั้ง แต่จังหวัดภูเก็ตไม่เหมือนกันจังหวัดอื่น ความถี่ในการใช้เรือมาก แต่ละวันมีนักท่องเที่ยวใช้บริการเรือเพื่อเดินทางไปท่องเที่ยวตามเกาะแก่งหลายพันคน ดังนั้นการตรวจเรือจึงจะต้องเพิ่มความถี่ขึ้น ซึ่งได้ให้เจ้าท่ากำหนดระยะเวลาในการตรวจเรือจากปีละครั้งมาเป็น 6 เดือนต่อครั้ง.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"