ดาหน้าโต้ไฟเซอร์วีไอพี คลังปลดล็อกซื้อ‘วัคซีน’


เพิ่มเพื่อน    

สธ.ยืนยันฉีดวัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดสต้องเป็นไปตามกลุ่มเป้าหมาย หากพบนอกกลุ่มให้ คกก.โรคติดต่อจังหวัดเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วส่งมาที่ สธ. “กรมบัญชีกลาง” ปลดล็อกยกเว้นการปฏิบัติตามระเบียบการจัดซื้อวัคซีนของหน่วยงานรัฐกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ หรือผู้ขายรายอื่น "ศรีสุวรรณ" จ่อร้อง ป.ป.ช.สอบกรมการแพทย์ทหารอากาศปมพิรุธวัคซีนเข็ม 3 ​ชาวสมุทรปราการนอนรอบัตรคิวฉีดไฟเซอร์ตั้งแต่ 4 ทุ่มถึงเช้าวันที่ 15 ส.ค.
    เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า ต้องเร่งฉีดวัคซีนในกลุ่มผู้สูงอายุ 7 กลุ่มโรคเรื้อรังและหญิงตั้งครรภ์ รวมถึงกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ระบาด ให้ครอบคลุมตามเป้าหมายของพื้นที่ภายใน 30 วัน หรืออย่างน้อย 1.9 แสนคนต่อวัน โดยฉีดเข็ม 1 ใน 29 จังหวัดควบคุมสูงสุด และเข้มงวดให้ได้ 70% ซึ่งขณะนี้มีเพียง กทม.ที่ฉีดกลุ่ม 60 ปีขึ้นไปได้ 90% และบางจังหวัด ได้แก่ ลพบุรี กาญจนบุรี นครราชสีมา ฉีดได้ต่ำ กว่า 20% สำหรับจังหวัดอื่นๆ ที่เหลือ ต้องฉีดให้ครอบคลุม 50%
    นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์กรณีมีการเผยแพร่ข้อมูลว่า หลังจาก สธ.มีการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ล็อต 1.5 ล้านโดสที่สหรัฐอเมริกาสนับสนุน ไปยังพื้นที่ต่างๆตามกลุ่มเป้าหมาย กลับพบว่าในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ มีการจัดสรรวัคซีนให้นอกกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเป็นสายงาน Back office ทำหน้าที่ด้านเอกสารได้รับวัคซีนก่อนบุคลากรด่านหน้าที่ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 โดยตรงว่า กรมควบคุมโรคมีการจัดสรรวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไฟเซอร์ เป็นไปตามจำนวนที่มีการสำรวจ และจัดสรรให้กับกลุ่มเป้าหมายตามที่เคยระบุไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งเมื่อจัดส่งให้กับพื้นที่ต่างๆ ต้องดำเนินการตามนโยบายในการให้บริการวัคซีนไฟเซอร์กับกลุ่มเป้าหมายก่อน ดังนั้นเมื่อมีข้อร้องเรียนว่าพบการจัดสรรวัคซีนให้กับกลุ่มนอกเป้าหมายที่ไม่ได้กำหนดไว้ ขอให้ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ไม่ว่าจังหวัดใดก็ตาม หากมีเรื่องลักษณะนี้ให้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว 
     “เมื่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดตรวจสอบแล้ว ขอให้รวบรวมข้อมูลส่งเรื่องเข้ามาที่ สธ. ซึ่งมีคณะทำงานด้านบริหารจัดการการให้บริการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 กรณีวัคซีนโควิด-19 ไฟเซอร์  จะพิจารณาเรื่องนี้ต่อไป เนื่องจากตามนโยบายการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ล็อตนี้ต้องเป็นไปตามกลุ่มเป้าหมายที่กำหนด  โดยต้องเน้นกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานดูแลผู้ป่วยโควิดก่อน และกลุ่มเสี่ยง” นายแพทย์โอภาส กล่าว
    นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค แถลงว่า การฉีดวัคซีนในไทยเพิ่มจากเมื่อวานจำนวน 2.8 แสนคน สะสมแล้วกว่า 23.4 ล้านโดส แบ่งเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 17.8 ล้านคน คิดเป็น 24% และในเข็มที่ 2 จำนวน 5.07 ล้านคน คิดเป็น 7% โดยแยกตามยี่ห้อซิโนแวคฉีดไปจำนวน 11 ล้านคน, แอสตร้าเซนเนก้า 10 ล้านคน, ซิโนฟาร์ม 1.8 ล้านคน และไฟเซอร์ 3.6 แสนคน โดยความครอบคลุม ในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับเข็มที่ 1 แล้วจำนวน 8.5 แสนคน,  เจ้าหน้าที่ด่านหน้าอื่นๆ จำนวน  9.7 แสนคน, อสม.จำนวน 5.6 แสนคน, 7 กลุ่มโรคเรื้อรังจำนวน 1.9 ล้านคน 
    ส่วนกรณีข่าวการฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) นพ.เฉวตสรรกล่าวว่า การฉีดที่ รพ.สต. เป็นการจัดบริการให้ใกล้บ้าน และสามารถเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งในรายละเอียดคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดก็จะมีการประกาศข้อกำหนดและข้อแนะนำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบว่าจะเข้าถึงได้อย่างไร นอกจากนี้ยังมีแนวทางในการฉีดนอกสถานพยาบาลที่จะทีมบุคลากรทางการแพทย์ไปฉีด ณ จุดให้บริการ เช่น วัด โรงเรียน หรืออาคารที่คนสามารถเข้าถึงได้ง่ายหรือการฉีดตามบ้าน รถโมบาย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพร้อมและบริบทของพื้นที่ เพราะต้องมีการจัดบริการที่มีมาตรฐานและครอบคลุม ทั้งอุปกรณ์การฉีดและอุปกรณ์กู้ชีพ 
    "การจัดส่งวัคซีนไฟเซอร์ในส่วนของการบริจาคจำนวน 1.5 ล้านโดส มีการกำหนดปริมาณการจัดสรรตามกลุ่มเป้าหมายชัดเจน สามารถติดตามได้ ไม่มีวัคซีนส่วนไหนจะสูญหาย และไม่มีการฉีดวีไอพี หากประชาชนพบเหตุการณ์ที่น่าสงสัยสามารถรายงานมาได้ที่ สธ. เพื่อทำการตรวจสอบ" นพ.เฉวตสรรกล่าวย้ำ  
    นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ (คณะกรรมการวินิจฉัย) พิจารณาแล้วเห็นว่าเพื่อให้หน่วยงานของรัฐสามารถดำเนินการจัดซื้อวัคซีนจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ที่มีเงื่อนไขต้องจัดสรรวัคซีนบางส่วน หรือมีการแบ่งสัดส่วนเพื่อบริจาควัคซีนตามที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์กำหนด หรือจากผู้ขายรายอื่นที่กำหนดเงื่อนไขในลักษณะเดียวกันได้ จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา  29 วรรคหนึ่ง (4) แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 อนุมัติยกเว้นการปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ข้อ 203 ข้อ 204 ข้อ 205 และข้อ 215 วรรคหนึ่ง (3) สำหรับการจัดซื้อวัคซีนจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ หรือผู้ขายรายอื่นที่กำหนดเงื่อนไขในลักษณะดังกล่าว
    นายศรีสุวรรณ​ จรรยา​ เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย​ เปิดเผยว่า ตามที่มีพยาบาลด่านหน้ารายหนึ่งได้โพสต์ระบายว่าชื่อตกหล่น ไม่สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็ม 3 ได้ พร้อมกับปรากฏบัญชีรายชื่อบุคคลต่างๆ ที่มีรายชื่อซ้ำซ้อนกันเป็นจำนวนมาก แต่ทว่าโฆษกกองทัพอากาศออกมาแถลงว่าเจ้ากรมแพทย์ทหารอากาศ ยืนยันว่าไม่มีการสวมสิทธิ์หรือแย่งฉีดวัคซีนเข็ม 3 ของบุคลากรทางการ แพทย์ในโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดชแต่อย่างใด เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนนั้น​ กรณีดังกล่าวมีข่าวแพร่งพรายออกมาว่ามีการเร่งสอบสวนคนปล่อยรายชื่อหลุด และมีการเรียกผู้ที่โพสต์ระบายดังกล่าวไปพบเจ้ากรมการแพทย์ฯ ซึ่งอาจจะถูกเตือน/ภาคทัณฑ์ หรือใดๆ ทั้งๆ ที่ควรตรวจสอบว่าใครทำให้มีชื่อซ้ำซ้อน ด่านหน้าคนไหนชื่อตกหล่นและยังไม่ได้วัคซีน อันควรต้องเร่งจัดหามาให้เป็นการเร่งด่วน ซึ่ง ผบ.ทอ.ควรจะตั้งกรรมการสอบเจ้ากรมการแพทย์ฯ มากกว่า
     นอกจากนี้​ ยังมีข้อพิรุธของการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ของโรงพยาบาลแห่งนี้หลายอย่าง ทั้งที่ได้รับการจัดสรรมากว่า 1,860 โดส ซึ่งมากกว่าจำนวนบุคลากรทางการแพทย์ที่มีอยู่ 700-800 คน แต่ก็ยังมีบุคลากรที่เป็นแพทย์และพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 โดยตรงประมาณ 100-200 คน ไม่ได้รับการจัดสรรวัคซีนในครั้งนี้ แต่กลับมีการแถลงข่าวว่าจะขอรับการสนับสนุนวัคซีนเพิ่มเติมในสัปดาห์หน้าอีก 400 โดส จึงน่าจะเป็นเรื่องที่ผิดปกติ ที่มิอาจปล่อยผ่านไปได้​ ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยจึงจะนำความดังกล่าวไปร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. ในวันจันทร์ที่ 16 ส.ค.64 เวลา 10.00 น.ที่สำนักงาน ป.ป.ช.นนทบุรี เพื่อขอให้ไต่สวนและเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อกระชากหน้ากาก VVIP หน้าด้านทั้งหลายออกมาให้ประชาชนได้รับรู้ต่อไป 
     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่โรงพยาบาลสมุทรปราการได้ประชาสัมพันธ์ให้ชาวสมุทรปราการ ที่มีชื่อบัตรประจำตัวประชาชนอยู่ใน จ.สมุทรปราการ และเป็นผู้ที่อยู่ใน 4 กลุ่ม เปิดให้มารับบัตรคิวเพื่อฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ที่ลานจอดหน้าห้างโลตัส สาขาสายลวด ต.ปากน้ำ ทำให้ชาวบ้านจำนวนมากต่างแห่กันมานอนรอรับบัตรคิวกันตั้งแต่ช่วง 22.00 น. ของเมื่อวานนี้ที่ 14 สิงหาคม 2564 ต่อเนื่องมาถึงเช้ามืดของวันที่ 15 ส.ค. ส่งผลให้ลานจอดรถหน้าห้างล้นทะลักไปด้วยผู้คน และยังทำให้การจราจรบริเวณถนนสายลวดทั้งสองฝั่งติดขัดยาวหลายกิโลเมตร 
     จนกระทั่งเวลา 07.00 น. ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ประกาศให้ผู้ที่มาต่อคิวทยอยเดินเข้ามารับบัตรคิวฉีดวัคซีน หลังและรับวัคซีนรวมถึงจำนวนบัตรที่สามารถแจกได้ทั้งหมดในวันนี้เพียง 4,500 คนเท่านั้น เวลาผ่านไปไม่ถึง 2 ชั่วโมงบัตรคิวได้หมดไปอย่างรวดเร็ว โดยวันนี้สามารถฉีดวัคซีนได้ 2,000 คน และในวันที่ 16 ส.ค. อีก 2,500 คน ขณะที่ชาวบ้านรายหนึ่งกล่าวว่า เดินทางมารอต่อคิวตั้งแต่เช้ามืด เนื่องจากตนเองจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยง และ ไม่คิดว่าจะมีคนมามากขนาดนี้ หลังจากได้บัตรแล้วก็รู้สึกดีใจที่จะได้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์. 
    


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"