แจ้ง 3 ข้อหา "ปวีณา" แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตำรวจเค้นสอบกว่า 12 ชั่วโมง เผยให้การเป็นประโยชน์ ด้านณิชาก็ถูกสอบหนักตั้งแต่บ่ายสามโมงถึงตีสาม ปมเงิน 6 ล้านในบัญชี การทำบัตรประชาชนใหม่หลายครั้งและการสนทนากับผู้ต้องหา นัดแถลง 16 ม.ค.นี้

            ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันที่ 15 มกราคมนี้ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณี น.ส.ณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์นำบัตรประชาชนไปเปิดบัญชีธนาคารจนตกเป็นผู้ต้องหา และเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุม น.ส.ปวีณา สิงหวิบูลย์ หนึ่งในขบวนนำบัตรประชาชนไปเปิดบัญชีได้เมื่อวันที่ 14 ม.ค.ว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา น.ส.ปวีณา 3 ข้อหาคือ ลักทรัพย์, นำบัตรของผู้อื่นไปใช้เพื่อให้เข้าใจว่าเป็นตนเอง, ปลอมและใช้เอกสารปลอม, มีความผิดหลายท้องที่ต่างกรรมต่างวาระ ส่วน น.ส.ณิชา การสืบสวนขยายผลยังต้องดำเนินการต่อไป เพราะมีส่วนเกี่ยวข้อง 3 แล้วคดี คดีแรกที่ สภ.บ้านตาก ที่ น.ส.ณิชาตกเป็นผู้ต้องหาเปิดบัญชี คดีที่ 2 ที่ สน.หลักสอง น.ส.ณิชาแจ้งความบัตรประชาชนหายในฐานะผู้เสียหาย ส่วนคดีที่ 3 ที่ สน.ห้วยขวาง ที่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุม น.ส.ปวีณาได้ และ น.ส.ณิชาต้องเข้าให้ปากคำในฐานะผู้เสียหาย โดยมีกองบังคับการปราบปรามทำการสืบสวนคู่ขนานกันไปกับท้องที่อื่น เพื่อให้เกิดความรอบคอบและยุติธรรม

            "เบื้องต้นสามารถแจ้งข้อหา น.ส.ปวีณาได้เพียงคนเดียว ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องคนอื่น เราสามารถตีวงแคบอยู่ในขบวนการซักถาม โดยเฉพาะนายไซมอน เป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ต้องสงสัย จึงควบคุมตัวไว้ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ถ้าพยานหลักฐานถึงก็ต้องแจ้งความอยู่แล้ว เมื่อวาน (14 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบสวนนานกว่า 12 ชั่วโมง น.ส.ปวีณาให้การที่เป็นประโยชน์ ยอมรับว่าเป็นส่วนหนึ่งในขบวนการ แต่ไม่ทราบว่ามีใครบ้าง หน้าที่เขาเป็นคนนำบัตรประชาชนไปเปิดบัญชี ได้รับค่าตอบแทน การทำงานของเจ้าหน้าที่ต้องเร่งดำเนินการตัดวงจรกลุ่มคนรับจ้างเปิดบัญชีไปได้ จะช่วยลดทอนความเสียหายได้มาก ส่วนข้อสงสัย น.ส.ณิชาต่างๆ เขาจะให้การอย่างไร การสืบสวนขยายผลเป็นหน้าที่ของตำรวจ" พ.ต.อ.กฤษณะกล่าว

            ที่ สน.ห้วยขวาง มีรายงานว่า ตำรวจได้เรียก น.ส.ณิชาเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมตั้งแต่เวลาประมาณ 15.00 น. วันที่ 14 ม.ค. จนถึง 03.00 น.เศษ วันที่ 15 ม.ค. รวมเวลากว่า 12 ชั่วโมง 

            พ.ต.อ.กัมพล รัตนประทีป ผกก.สน.ห้วยขวาง กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้สอบสวนเรื่องเงิน 6 ล้านบาทที่ปรากฏในบัญชีของ น.ส.ณิชา รวมทั้งการทำบัตรประชาชนใหม่หลายครั้ง ตลอดจนกระแสข่าวการสนทนาพูดคุยกันระหว่าง น.ส.ณิชากับ น.ส.ปวีณาที่ถูกจับกุม และอีกหลายประเด็น โดย น.ส.ณิชาได้ตอบคำถามในประเด็นดังกล่าวจนเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี แต่รายละเอียดของคำให้การยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดอยู่ ซึ่งอาจมีผลต่อรูปคดีได้ เบื้องต้นได้สั่งการให้ชุดสืบสวนในคดีนี้ลงไปสืบหาข้อเท็จจริงตามคำให้การของ น.ส.ณิชาแล้ว

            รายงานข่าวแจ้งว่า หลังการจับกุม น.ส.ปวีณาและแจ้งข้อหา ตำรวจได้นำตัวไปขยายผลต่อ โดยวันจันทร์มีการเดินทางไปสอบปากคำ น.ส.เจรติ หรือแอน สายสิญจน์ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องนำบัตรประชาชน น.ส.ณิชาไปให้ น.ส.ปวีณาเปิดบัญชี ปัจจุบันถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำโพธิ์แก้ว จ.นครปฐม ในข้อหาฉ้อโกง ก่อนจะรวบรวมพยานหลักฐานนำไปแถลงข่าวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติในวันที่ 16 ม.ค.นี้ และยังได้สอบปากคำน้องชายของ น.ส.ณิชาเพื่อให้ครบถ้วนในทุกประเด็นที่เจ้าหน้าที่สงสัย.