เป้าหมายแห่งความสำเร็จของ “เบนซ์ไพรม์มัส” ไม่ใช่ตัวเลข “ยอดขาย” หากเป็นเรื่องความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า “Top of Mind” ที่จะนำพาธุรกิจสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน 
    

ทีโอเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง กับก้าวสำคัญในการสร้างอาณาจักรด้านยานยนต์ ด้วยการเป็นผู้จำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อ “SUZUKI” และ “MG” ล่าสุด ได้ก้าวสู่การเป็นผู้จำหน่ายรถยนต์ระดับลักชัวรีอันดับ 1 นั่นคือ Mercedes-Benz และ Mercedes-AMG ในนาม “ไพรม์มัส ออโต้เฮาส์” โดยมีหัวเรือใหญ่ “ณัฏฐวุฒิ ตั้งคารวคุณ” นั่งกุมบังเหียนในตำแหน่งประธาน พร้อมแม่ทัพคนสำคัญ “จิระพล รุจิวิพัฒน์” ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ที่จะผนึกพลังร่วมผลักดัน “เบนซ์ไพรม์มัส” ให้ผงาดเป็นดาวจรัญแสงในวงการยานยนต์ไทย
    
และวันนี้ อาทิตย์เอกเขนกมีโอกาสพูดคุยกับ “ณัฏฐวุฒิ ตั้งคารวคุณ” ถึงแนวคิดและทิศทางการบริหาร ที่จะก้าวสู่ความสำเร็จกับการเผชิญต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างรุนแรงในขณะนี้ ซึ่ง ณัฏฐวุฒิ  เล่าว่า ในช่วงที่เกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้นต้องเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาด ตั้งแต่เริ่มเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการ “เบนซ์ไพรม์มัส” ได้แค่เพียง 3 เดือนกว่าๆ เท่านั้น "บอกได้เลยว่าส่งผลกระทบต่อการทำธุรกิจของเราอย่างแน่นอน แต่ด้วยการบริหารงานด้วยบุคลากรมืออาชีพ ที่มีนโยบายมุ่งเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) และการปรับแผนธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ดังกล่าว ประกอบกับการสร้างขวัญและกำลังใจให้บุคลากรในทุกระดับชั้น ทำให้วันนี้เรามั่นใจว่าจะสามารถก้าวผ่านวิกฤติดังกล่าวได้อย่างแน่นอน 
    
และยังทำให้ พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนหันมาให้ ความสำคัญกับสื่อออนไลน์มากขึ้น จากปกติผู้บริโภคที่ต้องการซื้อรถยนต์ จะหาข้อมูลรถยนต์จากหลายช่องทาง แต่เมื่อเกิดสถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาด ส่งผลทำให้ผู้บริโภคหันมาใช้สื่อออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการสั่งจองรถใหม่ การจองคิวรถทดลองขับ หรือการนัดหมายนำรถเข้าซ่อม เป็นต้น 
  

 
ณัฏฐวุฒิ  เล่าต่อว่า ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องพัฒนาและสร้างมาตรฐานการบริการรูปแบบใหม่ เพื่อรองรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีการปรับเปลี่ยน อาทิ การเปิดจองรถยนต์และการชำระเงินผ่านระบบออนไลน์, บริการนำรถให้ลูกค้าทดสอบขับที่บ้าน/ที่ทำงาน, บริการรับ-ส่งรถเข้าศูนย์บริการ รวมถึงบริการฉีดฆ่าเชื้อไวรัสให้กับรถที่เข้าศูนย์บริการทุกคัน เป็นต้น พร้อมทั้งมุ่งทำตลาดผ่านสื่อออนไลน์มากขึ้นด้วยการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์องค์กร ผลิตภัณฑ์ และกิจกรรมการตลาด ผ่านดิจิทัลมีเดีย  
    
พร้อมทั้งปรับแผนธุรกิจแบบองค์รวม ที่เน้นความรวดเร็วและสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน นิวนอร์มอล หรือชีวิตวิถีใหม่ เพื่อมุ่งสู่การสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า ทั้งด้านการขายและบริการหลังการ ทำให้ตัวเลขยอดขายในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้เป็นที่น่าพอใจ 

    
ณัฏฐวุฒิ  บอกว่า จากรูปแบบการดำเนินที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นการบริหารงานของเบนซ์ไพรม์มัสยึดแนวนโยบาย 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ การบริหารงานแบบมืออาชีพ การดำเนินธุรกิจแบบครบวงจร และที่สำคัญคือ การสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า โดยดำเนินนโยบายตามแนวคิดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง Customer Centric เน้นประสิทธิภาพการให้บริการทั้งด้านการขายและบริการหลังการขาย 
    
นอกจากนี้ยังเน้นการเรียนรู้จากประสบการณ์ในการทำงาน ทำให้ได้รับรู้ถึงปัญหาและความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง และสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด รวดเร็ว และครอบคลุมในทุกมิติ ส่งผลทำให้ทุกการบริหารของเรา สร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าได้เป็นอย่างดี 
    
ดังนั้นจึงเน้นทำธุรกิจให้มีความแข็งแกร่งและการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า ดังนั้น “ยอดขาย” ไม่ใช่เป้าหมายสูงสุดในการทำธุรกิจ แต่เป้าหมายที่แท้จริงคือ Top of Mind เราความต้องการให้ลูกค้ามีความสุขที่เข้ามาใช้บริการใน “เบนซ์ไพรม์มัส” และด้วยความเชื่อที่ว่า เมื่อลูกค้ามีความสุขและความพึงพอใจกับบริการของเรา ลูกค้าจะกลับมาซื้อรถยนต์หรือนำรถยนต์เข้ามารับบริการซ่อมบำรุง ทั้งยังช่วยเป็นกระบอกเสียงที่จะแนะนำลูกค้าใหม่ๆ ให้มาใช้กับบริการของเรา ซึ่งถือเป็นผลที่ตามมาทางด้านธุรกิจ 
  

 
“เบนซ์ไพรม์มัส” กับการบุกเบิกเส้นทางใหม่ในการดำเนินธุรกิจยุค New Normal ที่มุ่งสู่เป้าหมายการสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า..ถือเป็นอาวุธที่สำคัญในการสร้างรากฐานแห่งธุรกิจสู่ความแข็งแกร่งและยั่งยืน" ณัฏฐวุฒิกล่าวทิ้งท้าย.