15 ส.ค.64 - ความคืบหน้ากรณีที่คนร้ายบุกเข้าไปขโมยพระพุทธรูปไม้โบราณปางมารวิชัย ขนาดหน้าตัก 5 นิ้ว สูง 30 เซนติเมตร จำนวน 2 องค์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูไม้โบราณ อายุกว่า 200 ปี คู่วัดใหม่เรไรทอง ต.ถนนหัก อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ หายไปเมื่อวันที่ 13 ส.ค.2564 ที่ผ่านมา โดยคนร้ายอาศัยช่วงที่วัดเปิดเป็นศูนย์กักตัวกลุ่มเสี่ยงโควิด-19 เจ้าหน้าที่จึงไม่ได้สังเกตว่าใครเข้า-ออกวัดบ้าง
แต่มีคนเห็นชายต้องสงสัยคนหนึ่ง ผิวดำ-แดง อายุประมาณ 40 ปี สวมกางเกงขาสั้น เสื้อยืดสีครีม สวมหมวกแก๊ป และแมส ขับรถจักรยานยนต์ สีแดง เดินป้วนเปี้ยนอยู่แถวกุฏิเจ้าอาวาสอยู่หลายรอบก่อนพระพุทธรูปจะหายไป ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.นางรอง ก็ได้สืบสวนหาข้อมูลเบาะแส และแกะรอยภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางต่างๆ กระทั่งพบชายต้องสงสัยลักษณะคล้ายกับที่ชาวบ้านให้ข้อมูล
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นางรอง นำโดย พ.ต.ท.รังสิวัฒน์ กังศรานนท์ สารวัตรสืบสวน สภ.นางรอง สามารถติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุลักขโมยพระพุทธรูปไม้โบราณของวัดใหม่เรไรทองได้แล้ว คือ นายปรีชา แก้วประสงค์ หรือกบ อายุ 50 ปี โดยสามารถจับกุมได้ที่บ้านส้มป่อย ต.เมืองยาง อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ พร้อมของกลางพระพุทธรูปไม้โบราณ 2 องค์ ที่ขโมยไป และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อเวฟ 100 สีแดง ที่ขับไปในวันก่อเหตุ
จากการสอบถาม นายปรีชา ระบุว่า สาเหตุที่เข้ามาขโมยพระพุทธรูปไม้โบราณที่วัดใหม่เรไรทอง เพราะเคยมาบวชที่วัดแห่งนี้จึงมีความสนิทสนมคุ้นเคยกับพระลูกวัด ทั้งอ้างว่าตนเองจำได้ว่าพระพุทธรูปไม้โบราณที่อยู่ในกุฏิของเจ้าอาวาส เป็นพระพุทธรูปประจำต้นตระกูลของตนเอง โดยจะมีตัวหนังสือเขียนคำว่า "ปาน" ด้านหลังพระพุทธรูปแต่มองด้วยตาอาจจะไม่เห็นต้องใช้กล้องส่องพระดูถึงจะเห็น ตนเองจึงมาเอาพระพุทธรูปของตระกูลกลับบ้านก็มาหยิบไปเฉยไม่ได้ขโมย พระลูกวัด และคนที่มากักตัวที่วัดก็เห็น จากนั้นก็ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป โดยขับออกมาทางถนนหมายเลข 24 สายโชคชัย-เดชอุดม และเลี้ยวซ้ายกลับมาทางอำเภอชำนิ โดยอ้างว่าได้นำพระพุทธรูปไม้โบราณทั้ง 2 องค์ ไปไว้ที่วัดแห่งหนึ่งในอำเภอชำนิ
ด้านนายไชยา ศรีผดุง ประธานชุมชนวัดใหม่เรไรทอง กล่าวว่า ตนเองรู้สึกดีใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานกันอย่างรวดเร็ว และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่สามารถติดตามพระพุทธรูปได้คืนเพราะเป็นพระคู่วัดมานานกวา 200 ปี ส่วนที่คนร้ายอ้างว่าเป็นพระพุทธรูปประจำต้นตระกูลนั้น ยืนยันว่าไม่ใช่อย่างแน่นอน เพราะพระพุทธรูปไม้โบราณดังกล่าวประดิษฐานที่วัดมานานแล้ว และกรมศิลปากรก็ขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติของชาติ เป็นไปไม่ได้ที่จะอ้างว่าเป็นของต้นตระกูลหรือบุคคลใด
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ปักใจเชื่อคำให้การของนายปรีชา เชื่อว่าน่าจะตั้งใจเข้ามาขโมยพระพุทธรูปดังกล่าวเพื่อไปหาประโยชน์ส่วนตัวมากกว่า ซึ่งก็จะได้สอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายข้อหาลักทรัพย์ต่อไป.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |