รูป Peace News

14 มิ.ย.61-นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานที่ปรึกษาแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เปิดเผยผ่าน  Peace News ว่า ได้เดินทางพร้อมแกนนำ นปช.และประชาชน ไปเยี่ยมนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา

นางธิดา กล่าวว่า ไม่ได้พูดอะไรกับนายจตุพรมาก เนื่องจากสถานการณ์ไม่มีอะไรน่าสนใจ ก็ได้แต่พูดเล่น ๆ กัน ว่า เดี๋ยวเดียวนะ เป็นเชิงเหมือนนายจตุพรให้กำลังใจเรา ว่าอีกไม่นานจะได้ออกมาพบกัน

“ได้แซวว่า ถ้าคุณจตุพรออกมา ก็คงไม่ต้องไปรายการลมหายใจพีซทีวีในวันอาทิตย์แล้ว แค่คุณจตุพร คนเดียวก็พอ แต่คุณจตุพรก็บอก ไม่ได้ ๆ”

นางธิดา กล่าวว่า การอยู่ในเรือนจำฯเที่ยวนี้ของนายจตุพร ได้อะไรเป็นแง่คิดมากกว่ารอบก่อนมาก เนื่องจากได้อยู่นานพอสมควร ได้พบปะคนจากหลายภาคส่วน ทุกฝ่าย ทั้งฆราวาส ทั้งอดีตสงฆ์ ประสบการณ์ในชีวิต แง่มุมของคนที่เข้ามาในเรือนจำเหล่านั้น ก็น่าจะถ่ายทอดให้นายจตุพร มากพอควร

รวมทั้ง กล่าวว่า ตนฟังจากคำพูดของนายจตุพร ดูแล้วเข้าใจชีวิตมากขึ้น เช่นที่เคยบอกว่า ให้อยู่กับปัจจุบัน อย่าไปโหยหาคิดถึงอดีต และคิดไปถึงอนาคต เพราะฉะนั้นให้อยู่กับปัจจุบันทุกวัน จากที่ตนฟังก็พอสรุปได้ว่านายจตุพรเข้าใจธรรมะพอสมควร สามารถอยู่ในสถานที่ที่คนมองว่าทุกข์ที่สุดของมนุษย์ ก็อยู่ได้อย่างมีความสุขตามอัตภาพ

“การถูกคุมขังกระทบกระเทือนเพียงร่างกายเท่านั้น ไม่ได้กระทบจิตใจ สติปัญญาเลย เมื่อออกมาเที่ยวนี้ คิดว่า น่าจะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิต การดำเนินองค์กร เข้าใจคน เข้าใจความทุกข์ของคน จะเป็นคุณในด้านการดำเนินงานการต่อสู้ทางการเมืองอีกด้วย”

นางธิดา กล่าวถึงกรณีมีการจับกุมคนที่แชร์ข่าวในเพจ คนไทยยูเค ว่า ในส่วนตัวตนคิดว่า ในประเด็นเรื่องข่าวการซื้อดาวเทียม ยังเป็นข่าวที่ยังไม่ชัดเจน ดังนั้น ก็เป็นไปได้ที่คนจะเชื่อว่าจะซื้อจริง ตนเชื่อว่าคนที่ลงข่าวนี้ ไม่ได้ตั้งใจจะหลอกลวงประชาชน แต่เขาเชื่อจากข่าวอย่างนั้นจริง ดังนั้น เขาไม่สมควรได้รับโทษหนัก มาตรา 116 ในกรณีแบบนี้หรือแม้แต่คนลงข่าวคนแรก ก็ว่าไม่สมควร แรงเกินไป

“ปัญหาคือ กลาโหม รัฐบาล กองทัพ ไม่ได้สร้างความโปร่งใสในการซื้ออาวุธยุทธโธปกรณ์ ทำให้คนตั้งข้อสังเกตที่มีความเชื่อโดยสุจริต ไม่น่าเป็นเรื่องที่ผิด ไม่ได้มีเจตนามุ่งให้ร้ายป้ายสี น่าจะเป็นลูกน้องของ คสช.ทั้งหลาย กระตือรือร้นเกินไปหรือไม่ ในการชี้เอาว่า เขาพูดเท็จ หลอกลวงประชาชน”

นางธิดา กล่าวว่า เรื่องของเรื่องคือ ถ้าชัดเจนว่าไม่ได้ซื้อ ไม่มีใครอยากทำลายเครดิตตัวเอง โดยการบอกว่าซื้อ แต่เขาเชื่อโดยสุจริต การเชื่อโดยสุจริต กับการตั้งใจในการสร้างความปั่นป่วนให้เกิดปัญหาความมั่นคง มันคนละเรื่องกัน เพราะฉะนั้นตนจึงคิดว่า เรื่องนี้มันมากเกินไป

ถ้าทำอย่างนั้น คนมีความเชื่อตั้งหลายอย่างในประเทศนี้ อย่างนี้ก็เจอ มาตรา 116 หมดสิ มันเป็นหน้าที่ของกองทัพ กลาโหม คสช.ที่ต้องทำให้ประชาชนรู้ชัดเจนว่า จะซื้ออุปกรณ์อะไรเพื่ออะไร แต่ว่าในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา อยู่ในสภาพที่คลุมเครือ คนไม่รู้ เพราะฉะนั้นช่วยไม่ได้ ที่คนก็จะมีการคาดการณ์ ควรจะมองในแง่ดีว่า ประชาชนช่วยกันจับตา รักษาผลประโยชน์ของประเทศ.