ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ยกฟ้องกรณี 'ปรเมษฐ์ โตวิวัฒน์' ยื่นฟ้องปธ.ศาลฎีกา ประพฤติมิชอบ


เพิ่มเพื่อน    

ปรเมษฐ์ โตวิวัฒน์

14 ส.ค.64 - ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลยุติธรรม ว่า เมื่อวันที่ 6 ส.ค. ที่ผ่านมา ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาในคดีแดงที่ 90/2564 ในคดีที่ นายปรเมษฐ์ โตวิวัฒน์ อดีตอธิบดีศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ปัจจุบันเป็นผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ภาค 1 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนางเมทินี ชโลธร ประธานศาลฎีกาและประธานคณะกรรมการตุลาการเป็นจำเลย ฐานเป็นเจ้าพนักงานประพฤติหน้าที่โดยมิชอบ ตามป.อาญามาตรา 157

กรณีเมื่อครั้งที่โจทก์ เป็นอธิบดีศาลอาญาคดีทุจริตภาค 1 จำเลยซึ่งเป็นประธานศาลฎีกาได้ออกคำสั่งที่ 333/2564 ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ให้สอบสวนเรื่องที่โจทก์ถูกร้องเรียนว่าเข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงการพิจารณาคดีอาญาเรื่องหนึ่งของศาลอาญาคดีทุจริตภาค1 ระหว่างนั้นประธานศาลฎีกามีคำสั่งให้โจทก์ไปเป็นผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ภาค 1 ต่อมาก็ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงตามมา  ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า ตามประกาศคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมเรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการสอบสวนข้อเท็จจริงในชั้นต้นกรณีข้าราชการตุลาการถูกกล่าวหาหรือเป็นที่สงสัยว่ากระทำผิดวินัย พ.ศ.2544 ข้อ 11 วรรคหนึ่ง ที่บัญญัติว่าเมื่อได้รับรายงานผลการสอบสวนในชั้นต้นแล้ว หากประธานศาลฎีกาเห็นว่าพฤติการณ์เป็นความผิดวินัยให้ประธานศาลฎีกามีคำสั่งแต่งตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยหรือดำเนินการเพื่อให้มีคำสั่งลงโทษทางวินัย ดังนั้นเมื่อมีรายงานผลการสอบสวนของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงในชั้นต้นยืนยันว่า การกระทำของโจทก์มีพฤติการณ์เข้าไปก้าวก่ายหรือแทรกแซงการพิจารณาพิพากษาคดีของข้าราชการตุลาการอื่นหรือกระทำการใด ๆ อันเป็นเหตุให้การพิจารณาพิพากษาคดีของข้าราชการตุลาการอื่นซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาขาดความเป็นอิสระ เพื่อให้โจทก์ได้เปรียบในผลแห่งคดีอันมีลักษณะเป็นการกระทำเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับโจทก์ ซึ่งถือเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการและเป็นการไม่ปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนและประเพณีปฏิบัติของทางราชการอันมีลักษณะต้องห้ามตาม พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ.2543 ถือเป็นการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง จำเลยจึงมีอำนาจที่จะออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนโจทก์ได้ สำนักงานศาลยุติธรรมยังยืนยันว่าการสอบสวนข้อเท็จจริงในชั้นต้นของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเป็นการดำเนินการโดยชอบตามกฎหมาย ดังนี้การแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนโจทก์จึงไม่ใช่การใช้อำนาจโดยมิชอบตามที่โจทก์กล่าวอ้าง เมื่อการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนโจทก์กรณีถูกกล่าวหากระทำผิดวินัยร้ายแรงของจำเลยตามคำสั่งสำนักงานศาลยุติธรรมที่ 415/2564 ตลอดจนการที่จำเลยมีคำสั่งสำนักงานศาลยุติธรรมที่ 371/2564 ให้โจทก์ไปช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ภาค 1 เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยชอบดำเนินการตามขั้นตอนหลักเกณฑ์ตลอดจนวิธีการสอบสวนตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย คดีรับฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์จึงไม่เป็นความผิดตามฟ้อง

พิพากษายกฟ้อง


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"