โค้งสุดท้ายการแต่งตั้ง นายพลสีกากี ตำแหน่ง รอง ผบ.ตร.-ผบก. วาระประจำปี 2564 ที่ตามเดดไลน์ต้องเสร็จสิ้นภายในวันที่ 31  ส.ค. ฝุ่นยังคงฟุ้งกระจาย เก้าอี้ระดับ "เกรดเอ" พลิกไปพลิกมา แม่ทัพนครบาล ที่จะมาแทน บิ๊กอู๊ด-พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ที่จะเกษียณอายุราชการวันที่ 30 ก.ย.64 เดิมมีชื่อ บิ๊กอุ้ย-พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร จเรตำรวจ (สบ 8)  จองไว้ตั้งแต่ไก่โห่ แต่ตอนนี้ชื่อ บิ๊กราญ-พล.ต.ต.สำราญ นวลมา รอง ผบช.น.มาแรงและทำท่าจะแซงทางโค้งเข้าวิน เช่นเดียวกับเก้าอี้ ผบช.ภ.2 เดิมมีชื่อ บิ๊กอ้อ-พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผบช.ประจำ  สง.ผบ.ตร. (ทนท.ประสานงานนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทย)  นรต.41 และ ตท.25 เพื่อนร่วมรุ่น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ไปเบียดแซง บิ๊กจ้าว-พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ประจำสำนักงาน ผบ.ตร. (ทำหน้าที่นายตำรวจผู้ประสานงานรัฐสภา)  นรต.40 คุมชายทะเล แต่ตอนนี้มีข่าว "บิ๊กอ้อ" เบี่ยงไปนั่ง ผบช.ภ.6  ปล่อย บิ๊กจ้าว ผงาด ผบช.ภ.2 ตามโผที่ถูกปล่อยมา อย่างไรก็ดีเก้าอี้  "ผบช.ภ.2" ตัวนี้ ก็ยังไม่มีอะไรชัวร์ เท่าที่สายสืบแอบกระซิบ ตาอยู่ รอสัญญาณคว้าพุงปลาไปกิน ๐

            ไม่เสียชื่อ นักสืบ แถวหน้า กรมปทุมวัน สำหรับ ผบ.ปั๊ด-พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข แม่ทัพใหญ่สีกากี หลังจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยเอกสารประกอบและบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีดำรงตำแหน่งครบ 3 ปี เมื่อวันที่ 30 เม.ย.64 ของ ผบ.ปั๊ด ภรรยาและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 104,166,808 บาท ไม่มีหนี้สิน  แต่ที่เห็นแล้วต้องร้องโอ้โห คืออาวุธปืนที่มีถึง 20 กระบอก อาทิ อาวุธปืนขนาด 9 มม. อาวุธปืนขนาด .45 ยี่ห้อเอสทีไอ อาวุธปืนขนาด 9 มม.  ยี่ห้อซิกซาวเออร์ อาวุธปืนขนาด .357 ยี่ห้อสมิธแอนด์เวสสัน ปืนลูกซองยาว (เดี่ยวลูกซอง) อาวุธปืนขนาด .380 ยี่ห้อรูเกอร์ อาวุธปืนขนาด 9  มม. ยี่ห้อกล็อก อาวุธปืนขนาด .45 มม. ยี่ห้อโคลท์ ปืนลูกซองยาว (ลูกซอง 12/5นัด) ปืนยาวไรเฟิล ขนาด .308 ปืนยาวขนาด .22 ปืนยาวไรเฟิล ขนาด 5.56 นาโต อาวุธปืนขนาด .45 เรียกว่า มือปราบ ขนานแท้ ๐

            ยกมือสนับสนุน บิ๊กหิน-พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ต้องเอาจริงกับพวก "ทำนาบนหลังลูกน้อง" กรณีตำรวจ สภ.เขาชัยสน จ.พัทลุง เขียนหนังสือร้องเรียนเรื่องเงินเบี้ยเลี้ยงโควิดที่ทุกสถานีตำรวจได้รับจัดสรรจาก ภ.จว.พัทลุง จำนวนประมาณ  1.5 ล้านบาท แต่ ผกก.ได้สั่งให้ตำรวจทุกนายนำเงินสดที่ได้รับมาส่งคืนให้เจ้าหน้าที่การเงินแล้วจะจัดสรรให้ใหม่ โดยสั่งกำชับห้ามโอนโดยเด็ดขาด ซึ่ง "บิ๊กหิน" ได้สั่งให้ พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะเรื่องนี้ร้ายแรง ทำลายขวัญกำลังใจตำรวจ ที่สำคัญ ผบ.ปั๊ด เน้นย้ำเสมอถ้าตรวจสอบแล้วมีมูลให้รีบลงโทษ  เพราะเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ นอกจากนี้ยังให้ผู้การพัทลุงกำชับทุก สภ.ให้ดำเนินการอย่างถูกต้องตามระเบียบ โดยเคร่งครัด ๐

            เป็นเรื่องเศร้าในแวดวง สีกากี อีกครั้ง ส.ต.อ.ธีรพันธ์ นิธิสรรพศิริ ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.สองพี่น้อง อายุ 32 ปี ตัดสินใจกระทำอัตวินิบาตกรรมด้วยอาวุธขนาด 9 มม.ภายในแฟลตที่พัก โดย พ.ต.ต.ชัยยันต์ ทิวาวงค์ สว.(สอบสวน) สภ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี บอกว่า  ส.ต.อ.ธีรพันธ์ทำงานได้ดี โดยเฉพาะเรื่องระบบไอทีจะเก่งมาก เช่นตามไล่ดูกล้องวงจรปิดต่างๆ เป็นที่รักใคร่ของเพื่อนๆ ผู้บังคับบัญชา และเป็นนักกีฬาฟุตบอลโรงพัก ดังนั้นสาเหตุที่ทำให้คิดสั้นที่แท้จริงนั้นอยู่ระหว่างสอบสวน ในเบื้องต้นได้ให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาทำการตรวจเขม่าดินปืนที่มือผู้ตายไว้เป็นหลักฐานแล้ว พร้อมส่งศพไปชันสูตรอย่างละเอียดที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ถือเป็นการสูญเสียบุคลากรของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกคนหนึ่ง ๐

            ประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพเมื่อวันที่ 11 ส.ค.64 ช่วงบ่าย ที่ห้องศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ บิ๊กแก้ว-พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด นั่งเป็นประธานการประชุม โดยมี พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และ พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เสนาธิการทหาร  เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง มี ผบ.ตร.เป็นแม่งานเจ้าของสถานที่ และช่วงนี้ต้องรับบทหนักในช่วง “ม็อบกำลังฟู” และก่อนจะเข้าสู่การประชุมระบบวีทีซีให้ ศปก.แต่ละเหล่าทัพสรุปผลการปฏิบัติงานเข้ามา วงประชุมระดับผู้บัญชาการทางทหาร พูดคุยกันแบบเห็นตาแต่ไม่เห็นหน้า เพราะทุกคนใส่แมสก์ตามมาตรการป้องกันโควิด คาดว่าน่าจะเป็นรายงานความพร้อมในการทำ โผทหาร ที่ส่วนเหล่าทัพน่าจะเสร็จสมบูรณ์ได้เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ในวันจันทร์ที่ 16 ส.ค.นี้ สแตนด์บาย รอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม  ในฐานะประธานคณะกรรมการปรับย้ายนายทหารชั้นนายพลเรียกประชุมเพื่อ ปิดจ๊อบ ลงนามเห็นชอบกันในนามคณะกรรมการ ก่อนเสนอไปตามขั้นตอน๐

            โดยหนึ่งในวงประชุมมี เสธ.ไก่-พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เสนาธิการทหาร ที่มีข่าวถูกเสนอชื่อให้ไปนั่งเก้าอี้เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) แทน พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ที่จะเกษียณอายุราชการในปลายเดือนกันยายนนี้เข้าร่วมด้วย มีการยืนยันว่า นายกฯ  “โอเค” ไฟเขียวผ่านตลอดแล้ว แต่ระหว่างนี้ยังมีกระแสข่าวออกมาว่า ตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหมที่จะว่างลง และมีชื่อ เสธ.หน่อย-พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนนท์ เสนาธิการทหารบก จะข้ามมาดำรงตำแหน่งนั้น อาจไม่แน่นอนเสียแล้ว เมื่อมีแรงผลักดันจนเกิดเป็นข้อเสนอใหม่ให้ “เสธ.ไก่” ซึ่งเป็นอัตราพลเอกพิเศษย้ายจากแจ้งวัฒนะ ไปนั่งบริหารสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมแทน เพื่อสลับเอา “เสธ.หน่อย" มานั่งเลขาธิการ สมช.แทน หรืออาจจะเป็นอีกสูตรหนึ่งคือ ดันพลเรือนคนใน สมช.ขึ้นมาแทน ส่วนผลสรุปจะเป็นอย่างไรต้นสัปดาห์หน้า...รู้เรื่อง

            ประเด็นที่น่าจะมีการถกแถลงในที่ประชุมระดับ บิ๊กเหล่าทัพ คงไม่พ้นสถานการณ์บ้านเมืองที่เกี่ยวเนื่องกับความมั่นคง ที่นอกจากเรื่องภารกิจสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาโควิด-19 แล้วก็คงเป็นสถานการณ์การชุมนุมของ ม็อบไล่นายกฯ ที่จบลงด้วยการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน ที่แนวกั้นสามเหลี่ยมดินแดง และคงเป็น ผบ.ปั๊ด ที่ต้องเล่าให้เห็นถึงการรับมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายเท่าที่มีอยู่ ภายใต้ข้อจำกัดในการเก็บหลักฐานเพื่อดำเนินการฟ้องร้องผู้กระทำผิด แต่สถานการณ์ในขณะนี้ยังไม่มีเงื่อนไขใดที่จะนำไปสู่การยกระดับสถานการณ์ ให้ไปถึงขั้นที่ต้องใช้กฎอัยการศึก เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจยังรับมือได้ ๐

วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทัพเรือภาคที่ 1 มอบอาหารกล่องจาก ครัวเรือรบ ภายใต้แนวคิด From The Sea ความช่วยเหลือจากทะเลสู่ฝั่ง ช่วยเหลือวัดและชุมชนแสมสารที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ถวายเป็นพระราชกุศล โดย น.อ.วีระชัย  บุญมาก ผู้อำนวยการกองกิจการพลเรือน ทัพเรือภาคที่ 1 พร้อมกำลังพลจากกองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 หมวดบินเฉพาะกิจทัพเรือภาคที่ 1  เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช เรือหลวงนเรศวร เรือหลวงมันนอก เรือ  ต.114, เรือ ต.115, เรือ ต.99, เรือ ต.264, เรือ ต.268 และเรือ ต.270 ให้การช่วยเหลือวัดและชุมชนด้วยการถวายข้าวสารอาหารแห้งแก่วัดช่องแสมสาร มอบอาหารกล่องปรุงสุกพร้อมทานที่จัดทำจากครัวเรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วยน้ำดื่ม หน้ากากอนามัย ให้แก่ผู้แทนชุมชน และประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ในพื้นที่ตำบลแสมสาร อ.สัตหีบ  จ.ชลบุรี ณ ศาลาหอฉัน วัดช่องแสมสาร และร่วมกันทำความสะอาดห้องน้ำ ตัดหญ้า เก็บขยะ กวาดลานวัด

            ขณะที่กองทัพอากาศ พล.อ.ท.ฐานัตถ์ จันทร์อำไพ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพลเรือน-ทหาร พร้อมคณะ ร่วมเดินทางไปตรวจความเรียบร้อยและส่งมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์และจังหวัดน่าน โดยกองทัพอากาศได้จัดเครื่องบิน C-130 ลำเลียงอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น เครื่องช่วยหายใจ High Flow, ชุด  PPE Face Shield และหน้ากาก N95 ให้แก่โรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ และโรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดน่าน ตามโครงการ ทัพฟ้าส่งเวชภัณฑ์ทั่วไทย ร่วมใจฝ่าวิกฤติโควิด-19... นับเป็นการใช้ยุทโธปกรณ์ของเหล่าทัพทั้งเรือรบ-เครื่องบินทหาร ในภารกิจช่วยเหลือประชาชนเท่าที่ขีดความสามารถเหล่าทัพจะทำได้.