‘เทนนิส พาณิภัค’ควงคุณพ่อและ‘โค้ชเช’ เผยเส้นทางจากเด็กขี้แพ้สู่นักเทควันโดระดับโลก!


เพิ่มเพื่อน    

 

 

          เทนนิส พาณภัค ฮีโร่โอลิมปิก 2020 ที่วันนี้จะขอควงคุณพ่อสิริชัย และโค้ชเช ชัชชัย มาเปิดใจครั้งแรก หลังไปคว้าชัยชนะให้คนไทยทั้งประเทศ พร้อมเผยที่มาถึงเส้นทางการเป็นทีมชาติจากเด็กขี้แพ้สู่นักเทควันโดระดับโลก ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์ และชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

 

เห็นว่าคิวแน่น คิวทอง แน่นขนาดไหน?

น้องเทนนิส : ก็มีออกงานสัมภาษณ์ มีพี่ชายคอยจัดการคิวให้

 

โค้ชเชหลังจากที่น้องคว้าเหรียญทองมา กลับมาถึงเมืองไทย ชีวิตเราเปลี่ยนไปไหม?

โค้ชเช : ก็มีคนรู้จักเยอะขึ้น

 

คุณพ่อสายโทรศัพท์ก็ไม่ว่างเลย?

พ่อ : รู้สึกภาคภูมิใจมาก ตอนนี้น้องเทนนิสเดินไปตรงไหน แม้แต่ใส่แมสก์เขาก็จำได้หมดแล้ว เขามาขอถ่ายรูปเต็มไปหมด

 

เหรียญทองนี้คือเป้าหมายชีวิตของโค้ชเชเลย รอมานานถึง 19 ปีด้วยกัน ตอนนั้นที่ลูกศิษย์เราได้เหรียญทอง โค้ชเชรู้สึกยังไง?

โค้ชเช : ดีใจและภูมิใจด้วย ที่ผ่านมาก็ซ้อมหนักมากครับ ผมขอบคุณเทนนิสเขาก็อดทน พยายามสู้ต่อ ผมดีใจสุดๆ ในชีวิตผม

 

น้ำตาไหลไหม?

โค้ชเช : แน่นอนครับ ผมร้องไห้เยอะมาก

 

นอกจากเหรียญทองที่รอมา 19 ปี อีกหนึ่งเรื่องที่รอเหมือนกันคือการขอสัญชาติไทย?

โค้ชเช : เมื่อเช้าผมก็ยื่นเอกสารที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

 

แต่โค้ชเชก็มีชื่อไทยแล้ว?

โค้ชเช : ชัชชัย ก็เป็นเหมือนชัยนะ ท่านสมเด็จธงชัย เป็นคนตั้งให้ ก็ภูมิใจมากๆ

 

 

ก่อนที่เทนนิสจะลงแข่ง ทั้งเทนนิสและโค้ชโทรไปหาคุณพ่อ?

น้องเทนนิส : ค่ะ คือปกติทุกครั้งที่หนูไปแข่ง พ่อจะตามไปเชียร์ได้ทุกครั้ง ไม่ว่าจะไกลแค่ไหนพ่อไปทุกที่ แต่ว่าคราวนี้ด้วยสถานการณ์โควิดทำให้พ่อเดินทางไปเชียร์ไม่ได้ โค้ชรู้ว่าเราอยากได้กำลังใจก็จะโทรหาพ่อให้ทุกครั้งที่แข่งเลย

พ่อ : พ่อบอกให้สู้เต็มที่ สู้จนวินาทีสุดท้าย เทนนิสทำให้ได้นะ เรามั่นใจว่าเราต้องทำได้

 

วันนั้นคุณพ่อพูดมั่นใจมากว่าวันนั้นเทนนิสได้เหรียญทอง ทำไมถึงมั่นใจขนาดนั้น?

พ่อ : ที่มั่นใจเพราะว่า เราทำการบ้านโจทย์นี้มา 3-4 ปีแล้ว โค้ชเชพาน้องเทนนิสเดินสายทั่วโลกแล้วครับ 3 ปี เราเก็บเหรียญทองได้ 19 เหรียญ เราแข่ง 20 รายการ จนคะแนนเราเป็นที่1 ของโลก เราเลยมีความมั่นใจ ทุกมุมโลก เราเก็บเหรียญทองได้ทุกเหรียญ เหลือโอลิมปิกอยู่เหรียญเดียว คิดว่าเราคงทำได้

 

ถ้าไม่ติดโควิดพ่อจะขนญาติๆ ไปนั่งเชียร์ที่ญี่ปุ่นเลย?

พ่อ : ถ้าไม่ติดโควิดก็เตรียมกองเชียร์ไว้ 60 ท่าน จองเครื่องบินเรียบร้อย จองที่พัก ตั๋วเข้าชมเรียบร้อยแล้ว หมดเงินไป 3 แสนกว่าบาทแล้ว บางคนสมทบมาคนละ 30,000 บางคนไม่ต้องจ่าย พ่อก็จ่ายให้

 

พอติดโควิดพ่อได้เงินคืนไหม?

พ่อ : ค่าเครื่องบินเขาจ่ายคืนเป็นแต้ม ค่าตั๋วเข้าชมคนนึงประมาณ 4500 บาท จะจ่ายหลังพาราลิมปิกเสร็จ สำหรับค่าโรงแรมเขายึดไปครึ่งนึง

 

ตอนแข่งเหลือไม่กี่นาทีสุดท้ายพลิกมาชนะได้ ตอนนั้นในใจคิดอะไรอยู่?

น้องเทนนิส : ตอนนั้นแต้มนำอยู่ตอนแรกที่เริ่มยก3 เหลือประมาณ 40 วิก็โดนแซง ก็บอกตัวเองว่ายังพอมีเวลาค่อยๆ เก็บแต้ม เพราะคะแนนก็ห่าง 1 แต้ม ถ้าใจร้อนอาจจะทำให้แต้มไหลไปได้ พอเหลือ 10 วิสุดท้าย มันก็ยังตามอยู่ บอกตัวเองว่าต้องไปละ ถ้าวันนั้นแพ้ บอกตัวเองว่าต้องทำให้เต็มที่ก่อน ไม่อยากเสียใจแล้ว พอเราเข้าไปใส่ก็ได้แต่มกลับมา

 

10 วิสุดท้ายที่เราสามารถคว้าแต้มได้คิดว่าความสามารถหรือโชค?

น้องเทนนิส : หนูคิดว่าความสามารถแล้วกัน เพราะว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาหนูทุ่มเททั้งหมดให้กับเทควันโด้ตลอดเวลา หนูไม่เบี่ยงเบนความสนใจไปที่อื่นเลย หนูเน้นอันนี้ แล้วก็อยากทำให้มันได้ แล้วหนูก็ไม่อยากรออีก 3 ปีข้างหน้าที่หนูจะกลับมาแก้ไขอันนี้ ทำให้เต็มที่ก่อน ยังมีเวลาอยู่

 

 

วันนั้นโค้ชเชได้บอกอะไรกับเทนนิสก่อนแข่ง?

โค้ชเช : บอกว่าไม่ต้องคิดถึงรอบชิง เจอสเปนแค่รอบแรก รอบชิงน่าจะกดดัน ไม่ต้องคิดเรื่องแพ้ชนะ ถ้าเล่นเต็มที่ มั่นใจปกติ เรื่องฝีมือ เรื่องเทคนิกเราดีกว่าเขาเยอะมาก เพราะฉะนั้นไม่เป็นไร เหมือนตอนที่ซ้อม ที่เตรียมมา

 

นอกจากคำพูดให้กำลังใจ ยังเล่นสายมูเตลูด้วย โค้ชมีพกผ้ายันต์ไปด้วย?

โค้ชเช : ก็ความเชื่อ ถ้ามั่นใจ ผมไม่เครียดก็มีโอกาสชนะ

น้องเทนนิส : นายกสมาคมเป็นคนให้มา นำมาให้ที่สนามบิน นำพระของที่บ้านที่พี่ให้มาก็ออาไปหมดทุกอย่าง ให้ทุกอย่างมันสมบูรณ์ 100% ทั้งร่างกาย จิตใจ ไม่อยากพลาดตรงไหน

 

นอกจากนั้นยังไปบนบาน ขอพรจากหลวงพ่อโสธรไว้ด้วย?

น้องเทนนิส : ใช่ค่ะ ไปแก้มาเมื่อวานแล้ว หนูก็ขอว่าให้ได้เหรียญทอง

 

มันมีตั้งหลายกีฬา ทำไมให้ลูกสาวเรียนเทควันโด?

พ่อ : บ้านเราอยู่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ฝนตกตลอด เราเล่นกีฬาอื่นโอกาสมันน้อย แต่เทควันโดมันเล่นได้ตลอด แต่เทนนิสฝึกทุกอย่าง พาไปฝึกว่ายน้ำ กีฑา ฝึกวอลเล่บอล จักรยาน เทนนิส คือลูกๆ ทั้ง 3 คนชื่อเกี่ยวกับกีฬาหมดเลย เพราะครอบครัวเราเป็นครอบครัวกีฬา

 

เทนนิสที่ชอบเทควันโดเพราะพี่ชาย?

น้องเทนนิส : หนูชอบไปดูพี่ชายโดนเตะ ไปเชียร์

 

ได้ข้อมูลมาว่าน้องเทนนิสเหมือนโดนพ่อบังคับให้เรียน ใจเราไม่ได้อยากเรียนเทควันโดเลย?

น้องเทนนิส : ใช่ค่ะ ตอนแรกก็กลัวมากๆ เลย ไปดูพี่แข่งแต่ละครั้งคือมันรุนแรง พี่ชายแขนหักกลับมา ก็กลัวมากๆ บอกพ่อว่าหนูขอไปเล่นๆ ตามพี่ชายไปเที่ยวได้ไหม แต่ว่าไม่แข่งเด็ดขาด จนกระทั่งมีแมชต์แข่งที่ภูเก็ต หนูชอบทะเลมากๆ หนูบอกพ่อว่าหนูอยากไปเที่ยวภูเก็ตจังเลย พ่อบอกไม่ได้ ต้องลงแข่งถึงพาไป เราก็ลง แต่เป็นอะไรที่ฝังใจ โดนดูถูก ทำไมเธอเล่นอ่อนจัง ครั้งนั้นทำให้หนูอยากกลับมาซ้อมแล้วกลับไปชนะเขา ก็บอกพ่อเลยว่าต่อไปนี้มารับตอน 2 ทุ่มนะ หนูจะซ้อมรอบนักกีฬาแล้ว

 

 

จริงๆ แล้วที่มีเทนนิสและเหรียญทองได้ เพราะคำดูถูกที่ภูเก็ตเหรอ?

น้องเทนนิส : ใช่ค่ะ เพื่อนๆ แซวกันเฉยๆ

 

สมมติเขาดูอยู่ตอนนี้อยากบอกอะไรเขา?

น้องเทนนิส : เราทำได้แล้วนะ ได้เหรียญทองโอลิมปิกแล้ว

 

เป็นนักกีฬามืออาชีพต้องขึ้นเหนือ ล่องใต้ ตอนนั้นห่วงเรื่องเดินทางไหม?

พ่อ : พ่อขับรถเองตลอด ไปทั่วประเทศ แพ้ส่วนใหญ่ ชนะน้อยมาก เพิ่งมาชนะที่อุตรดิตถ์ แล้วตั้งแต่นั้นมาประมาณ 11 ปีมาอยู่ในสนามกีฬา ซ้อม เก็บตัว ทีมชาติ

 

เห็นว่ามีอยู่ครั้งนึงรถเกิดแอคซิเดนเหรอพ่อ?

พ่อ : ครับ ช่วงนั้นยังไม่ติดทีมชาติ ขับรถจะมาชิงแชมป์ประเทศไทย ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต ขับจากสุราษฯผ่านจังหวัดชุมพร ฝนมันตก พ่อก็บอกเทนนิสระวังนะ ตอนนี้รถมันควบคุมไม่ได้แล้วก็พลิกคว่ำแล้วไปฟาดกับต้นไม้ เกือบจะลงคลอง แล้วเอารถไปซ่อม แล้วขึ้นรถทัวร์มาแข่งต่อ

 

ที่ผ่านมาแพ้เยอะมาก แต่ทำไมใจยังสู้?

น้องเทนนิส : สำหรับหนู หนูไม่ได้กดดันตัวเองว่าหนูจะต้องเป็นแชมป์หรือเหรียญทอง เป้าหมายของหนูไม่ได้ไกลขนาดนี้คือหนูไม่คิดว่าตัวเองจะมาถึงวันนี้ ติดทีมชาติ ได้เหรียญทองโอลิมปิก มันไกลมากๆ หนูเป็นเด็กที่ร่างกายไม่แข็งแรงเลย คือรูปร่างหนูผอมแห้ง แล้วก็แทบจะไม่มีแรงเลย สิ่งที่หนูทำแต่ละวันคือหนูทำให้ดีที่สุดในแบบของหนู หนูไม่ได้กดดันตัวเองว่าฉันจะต้องเป็นแชมป์นะ เพราะฉะนั้นหนูทำให้ดีที่สุดแล้วมีความสุขกับสิ่งที่หนูทำแต่ละวัน

พ่อ : เทนนิสได้ร่วมแข่งขัน พ่อถือว่าเป็นความสุขแล้ว ส่วนผลจะออกมาเป็นอย่างไรนั้นพ่อไม่มาย พ่อสอนเทนนิสอยู่เสมอว่าคนที่ยืนอยู่บนแท่นชนะคือคนที่ผ่านความพ่ายแพ้มาแล้วทั้งสิ้น ไม่เป็นไรเรื่องแพ้ สู้ไปได้ตลอด

 

เรื่องจริงไหมที่เขาบอกว่าโค้ชเชดุมากๆ?

น้องเทนนิส : ค่ะ

โค้ชเช : ดุครับ เพราะว่าผมอยากให้ทุกคนเก่งขึ้น จริงๆ ผมต้องการซ้อมหนักแต่ว่าไปแข่งเบา ผมพูดตลอดว่าตอนซ้อมเหนื่อย ร้องไห้ก็ไม่เป็นไร แต่ว่าไปแข่งเราได้ที่1 เราก็ร้องไห้อีก

 

ตอนซ้อมมีร้องไห้ไหม?

น้องเทนนิส : ประจำ มันร้องไห้เพราะเหนื่อย ในใจมันคิดว่าทำไมมันต้องเหนื่อยขนาดนี้ แต่ก็บอกตัวเองว่ามันต้องเหนื่อยมากกว่าคนอื่นอยู่แล้ว มันเป็นโอลิมปิกนะ ต้องเต็มที่สุดๆจนกว่าจะแข่งขัน

 

เห็นว่าตอนซ้อมก็มีเรื่องเรียนด้วย คุณพ่อก็เป็นห่วงก็จะจบไม่ทัน?

น้องเทนนิส : ตอนปริญญาตรีก็เรียนหนักมาก เพราะว่าเรียนจุฬา คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา ติดทีมชาติด้วย แล้วก็เรียนด้วย ต้องจัดการเวลาอย่างหนักเลย ตื่นเช้ามาซ้อม 6 โมง แล้วรีบขึ้นรถไปเรียน 9 โมง เลิกเรียน 4 โมงกลับมาซ้อม คือมันแน่นมากๆ

 

 

คนนี้เขามีตำแหน่งด้วยนะ เรืออากาศหญิง ได้ตำแหน่งนั้นมาได้ยังไง?

น้องเทนนิส : ได้ตั้งแต่ก่อนไปแข่งโอลิมปิก

 

ล่าสุดก็ได้ตำแหน่งฑูต?

น้องเทนนิส : การท่องเที่ยวและเวลา

 

เทนนิสแพ้มาก็เยอะ ชนะมาก็เยอะ ต้องมีการแพ้ เราถึงมีวันนี้ได้?

น้องเทนนิส : จริงค่ะ หนูคิดว่าไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ มีประสบการณ์ที่ทำให้เราได้เรียนรู้ล้ำค่าที่สุดแล้ว

 

เห็นบอกว่าเจอคอมเมนต์ทั้งชมและอีกฝ่ายด้วย เจออะไรมาบ้าง?

น้องเทนนิส : เจอแบบรูปร่างแบบนี้เตะเทควันโดไหวเหรอ มีแรงหรือเปล่า

 

มีคอมเมนต์ไหนที่เราติดใจบ้างไหม?

น้องเทนนิส : อันไหนไม่ดีหน๔ก็ปล่อยผ่าน ถ้าเป็นสิ่งที่ทำให้หนูปรับปรุงตัว หนูก็เอามาปรับปรุง อะไรที่เป็นคำชมก็เป็นแรงบันดาลใจให้หนูฝึกซ้อม และพัฒนาต่อไป

 

มีคนคุยหรือยัง?

เทนนิส : ยังไม่มีแฟน

 

มีคนคุยด้วยไหม?

เทนนิส : มีค่ะ ถ้าไม่มีก็อยู่คนเดียวไม่ได้ ก็เป็นเพื่อนๆ

 

พ่อห่วงไหม?

พ่อ : ก็ไม่ห่วง ลูกเรียนปริญญาตรี สำหรับพ่อเรียนมหาลัยก็ถือว่าโตแล้ว

 

แสดงว่าหนุ่มๆ ที่เข้ามาจีบพ่อไม่ห่วงเลย?

พ่อ : ไม่ว่าเลย มาเลย อยากได้คนที่เป็นผู้นำครอบครัวได้ พูดจริง ทำจริง เป็นคนดี

 

จูเนียร์ได้ไหม?

พ่อ : เทนนิสเป็นคนตัดสินใจเอง

เทนนิส : กับจูเนียร์ซ้อมมาด้วยกันตั้งแต่ปี 2012

 

เขาบอกเป็นคู่จิ้นกันจริงไหม?

น้องเทนนิส : แฟนคลับเห็นเราไปแข่งด้วยกันสองคน ติดโอลิมปิกครั้งนี้ก็ไปกันสองคน ก็มีรูปภาพ วีดิโอต่างๆ คนก็จับมาจิ้น

 

สเปคของเทนนิสชอบแบบไหน?

น้องเทนนิส : ชอบคนที่เข้าใจเรา เพราะเราฝึกซ้อมกีฬา แทบจะไม่มีเวลาไปหาเลย

 

สมมติคนในวงการบันเทิง ชอบแบบไหน?

น้องเทนนิส : แบบไบรท์

 

อยากจะบอกอะไรกับไบรท์?

น้องเทนนิส : ไบรท์กับวินเลยละกันนะคะ ก็ชอบทั้งสองคน ติดตามผลงาน ถ้ามีโอกาสก็อยากจะเจอกันแล้วก็ร่วมงานกันนะคะ

 

ตอนนี้ได้เหรียญทองแล้วเปิดใจไหม?

น้องเทนนิส : เปิดโอกาสมากขึ้น แต่ยังโฟกัสเรื่องของกีฬาอยู่

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"