สองผู้พิพากษาระดับประธานศาลฎีกาและประธานศาลอุทธรณ์ของมาเลเซียที่ได้รับการแต่งตั้งโดยอดีตนายกฯ นาจิบ ราซัค ยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง ขณะรัฐบาลมหาเธร์ โมฮัมหมัด  ตามล้างบางเจ้าหน้าที่ใกล้ชิดรัฐบาลเก่า

นาจิบ ราซัค (ซ้าย) และมหาเธร์ โมฮัมหมัด / AFP

    คำแถลงของสำนักงานศาลรัฐบาลกลางเมื่อวันพุธที่ 13 มิถุนายน 2561 กล่าวว่า ราอุส ชาริฟ  ประธานศาลฎีกา และซุลคิฟลิ อาหมัด มาคินูดิน ประธานศาลอุทธรณ์ จะพ้นจากตำแหน่งในวันที่ 31  กรกฎาคมนี้ โดยสมเด็จพระราชาธิบดีมีพระบรมราชานุญาตเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน อนุมัติให้ทั้งคู่ลาออกจากตำแหน่ง  

    นับแต่กลุ่มพรรคแนวร่วมฝ่ายค้านภายใต้การนำของมหาเธร์ชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายผิดคาดเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ช่วงเดือนที่ผ่านมารายชื่อของเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลชุดก่อนที่ถูกปลด หรือลาออกจากตำแหน่งก็ยาวเหยียดขึ้นเรื่อย

    รัฐบาลนาจิบแต่งตั้งผู้พิพากษาอาวุโสทั้ง 2 คนนี้เมื่อปีที่แล้ว แต่สมาคมนักกฎหมายของมาเลเซียคัดค้าน โดยกล่าวว่าทั้งสองมีอายุเกินวัยเกษียณแล้วทั้งคู่

    สัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลมหาเธร์เพิ่งแต่งตั้งทอมมี โธมัส เป็นอัยการสูงสุดคนใหม่ แทนที่โมหะเหม็ด อาปันดี อาลี ผู้ล้างมลทินให้นาจิบเมื่อปี 2559 ว่าผลสอบสวนไม่พบว่ามีการกระทำความผิดจากคำกล่าวหาทุจริตในกองทุน วันมาเลเซียดีเวลอปเมนต์เบอร์ฮัด (วันเอ็มดีบี) ที่นาจิบเป็นผู้ก่อตั้งและถูกกล่าวหาว่ายักยอกเงินหลายพันล้านดอลลาร์จากกองทุนนี้

    สัปดาห์ที่แล้ว มูฮัมหมัด อิบราฮิม ผู้ว่าการธนาคารกลางมาเลเซีย ก็ลาออกจากตำแหน่งเช่นกัน ทั้งที่เพิ่งดำรงตำแหน่งได้เพียง 2 ปี จากวาระ 5 ปี การลาออกของเขาถูกมองว่าเป็นผลจากเรื่องอื้อฉาวกรณีวันเอ็มดีบี ภายหลังกระทรวงการคลังเปิดเผยเมื่อเดือนพฤษภาคมว่า มีเงินประมาณ 500 ล้านดอลลาร์ที่ได้จากการขายที่ดินโดยรัฐบาลให้ธนาคารกลางแห่งนี้ ถูกนำไปชำระหนี้ให้กองทุนวันเอ็มดีบีเมื่อปีที่แล้ว.