16 ก.ค.-17ส.ค.64-วาระโรคเก่งกว่าบุคลากร-วิทยาศาสตร์การแพทย์

17ส.ค.-17ก.ย64-วาระบุคลากร-วิทยาศาสตร์การแพทย์เริ่มเก่งกว่าโรค

ภายใต้สถานการณ์เดลต้า-ไวรัสโควิด19กลายพันธุ์อาละวาดเก่งไปทั่วโลกและประเทศไทยในระดับที่เมื่อวันที่10ส.ค.64มีสุพรรณบุรีจังหวัดเดียวรอด(ยัง)ไม่พบเชื้อกลายพันธุ์นี้

ต่อไปนี้คือการอัพเดทสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงตามที่ผู้เขียนเคยทำนายไว้ในแม่หมอสมัครเล่นตอนที่385ชื่อตอนวาระโรคร้ายกลายพันธุ์เริ่มอ่อนแอกว่าประชาชน-เดินหน้าสู่การได้ยารักษาโควิด(หรือวัคซีนก้าวหน้า)เป็นการย้ำจากบทความเดิม โดยดูผลได้จากรูปที่สรุปไว้  แต่อยากเน้นย้ำ-ขยายผลในตอนนี้ง่ายๆคือ

-จุดA.เป้าหมายโควิด19กลายเป็นโรคสามัญประจำโลกจะเริ่มประมาณกรกฎาคม2565เป็นต้นไป (มฤตยูจร0ย้ายจากราศีเมษเข้าไปเดินในราศีพฤษภ)ซึ่งก่อนจะถึงจุดนั้นโรคนี้ยังจะอ้อยอิ่งอยู่ในเมืองและโลกต่อไป-แต่สำหรับเมืองไทยระลอกต่อไปจะไม่ร้ายแรงเท่าระลอกที่สองที่กำลังเจออยู่

-จุดB1. มีการปรับใหญ่นโยบาย-ทรัพยากร-ไล่ล่าโรคระบาดทั้งกำหนดพื้นที่-มาตรการล็อคดาวน์-แก้ปัญหาใหญ่มาแล้วสองรอบจริงตั้งแต่17มิถุนายน-27กันยายน2564-ฉะนั้นจึงยังจะมีการปรับอีกเป็นระยะๆทั้งตึงและผ่อนคลาย

-จุดB2.โรคค่อยๆเคลื่อนจากกทม.-ปริมณฑลไปต่างจังหวัดระหว่าง2ก.ค.-20ก.ค.64ดังที่ทำนายไว้จนเต็มที่พิ้นที่ทุกจังหวัด

- B3ขณะนี้ระหว่าง20กรกฎาคม-6กันยายน2564 เมืองกำลังสู้พัลวันในจุดB3 ที่มีปรากฏการณ์เกิดขึ้นหลายอย่างจริงตามที่ทำนายไว้และให้รายละเอียดไว้ในรูปภาพแล้ว

-เป้าหมายไปให้ถึงจุดTTระหว่าง27กันยายน-9พฤศจิกายน2564โอกาสทองของเมืองที่จะได้แจ้งรายละเอียดให้ทราบต่อไป แต่ผู้เขียนปลุกให้ฮึกเหิมคือพาตัวให้รอดไปร่วมกันตักบาตรเทโวให้ได้

แต่ก่อนจะไปถึงจุดTTนั้นมีปรากฎการณ์ใหญ่สองอย่างแทรกเข้ามาหนึ่งปรากฏการณ์กำลังจะผ่านไป อีกหนึ่งปราก็การณ์กำลังจะเกิดที่จะเป็นลางให้วัดผลแพ้ชนะระหว่างบุคลกรทางการแพทย์+วิทยาศาสตร์การแพทย์VSโรคร้ายแทรกเข้ามาคือ

1.ปรากฏการณ์ที่กำลังจะผ่านไป-ในเมืองปรากฎการณ์โรคใหม่กลายพันธ์เข้มแข็งสุดๆระหว่างกลางเดือนกรกฏาคม-17สิงหาคม2564(พระอาทิตย์จร1เดินในราศีกรกฎ สาดแสงเล็งพระเสาร์จร7เทพเจ้าแห่งความระทมที่เดินถอยหลังหรือเดินอยู่ใกล้โลก ส่งเกณฑ์ร้าย-ความเจ็บป่วย-เครียด-วิตกจริตใส่พระจันทร์๒ประชาชนเต็มที่ ดูลูกศรที่โยงไว้)

ผลคือกลางเดือนกรกฎาคม2564เป็นต้นมาตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ในเมืองเริ่มกระฉูดเห็นหลักเกินสองหมื่นต่อวัน-คนตายก็ทำสถิติใหม่เป็นระยะๆขึ้นๆลงๆ-และเพราะปรับแผนและสู้ทุกหยด(ฝ่ายดาวดีร่วมมือกับพฤหัสบดีจร5ที่เดินอยู่ในราศีกุมภ์สู้)คนที่รักษาหายก็ทำสถิติใหม่เป็นระยะๆบางวันสูงกว่าติดเชื้อรายใหม่ก็มี

2.ตั้งแต่17สิงหาคม 2564เป็นต้นไปเกมเริ่มจะค่อยๆเปลี่ยน เมื่อโรคเริ่มจะค่อยๆอ่อนแสงลงแม้จะยังอ้อยอิ่งไปถึงกรกฎาคม 2565(พระอาทิตย์จร1ย้ายจากกรกฎเข้าไปเดินในสิงห์-ค่อยๆยุติการสาดแสงให้พระเสาร์จร7)

ณ.จุดนี้คือโอกาสทองเริ่มต้นความเข้มแข็งของระบบสาธารณสุข-วิทยาศาสตร์การแพทย์ทั้งของไทยและโลก โดยเคยคาดไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะได้เห็นวัคซีนใหม่ -ยาหรือวิธีรักษาใหม่ๆที่ก้าวหน้ามากกว่าเดิม(พระอาทิตย์จร1เข้าไปเดินในราศีสิงห์-ภพปุตตะ-ดวงโลกเมืองดินแดนของสิ่งใหม่-ความหวังใหม่-สาดแสงคู่มิตรใส่พฤหัสบดีจร5ที่เดินอยู่ในราศีกุมภ์)

ส่วนตัวเลขติดเชื้อ-หาย-ตายแม้จะยังขึ้นๆลงๆแต่คาดว่าจะออกมาดีมากกว่าร้าย

สถานการณ์นี้จะดำเนินไปถึง17กันยายน 2564

เกณฑ์นี้ชุมชนโหรต่างมองออกรวมทั้งโหรภิญโญ พงศ์เจริญนายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ เคยคาดหมายก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำว่าช่วงประมาณ 21 สิงหาคม2564 ระบบสาธารณสุขและวิทยาศาสตร์การแพทย์จะเข้มแข็งโดดเด่นสูงสุด(พฤหัสบดี5เพ็ญ)จนได้ยารักษา(หรือวัคซีนใหม่) ซึ่งผู้เขียนให้ก่อนหรือหลังจากนั้น7วัน

3.ด้านดีแทรกเข้ามาตั้งแต่17สิงหาคม 2564ถึง17กันยายน 2564ผู้นำ-คนมียศศักดิ์-มีตำแหน่งในวงการต่างๆรวมทั้งด้านสาธารณสุข-นักกฎหมาย-บัณฑิต-ผู้คงแก่เรียนในวงการต่างๆเริ่มค่อยๆเข้มแข็ง(พระอาทิตย์จร1เดินในราศิสิงห์ ได้แสงจากพฤหัสบดีจร5คู่มิตร)-แต่ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลก็ยังจะเข้มแข็งอยู่แม้ละน้อยลงบ้าง

4.เกณฑ์ด้านร้ายของช่วงB3.ฟืนไฟ-ควัน-ระเบิด-แก๊ส-อารมณ์ยังแรงต่อไป-หมูยังจะท้าราชสีห์รบด้วยวิธีการสกปรกต่อไป ก่อกวนไป-จับไป-ปล่อยไป

ถ้ารัฐบาลเดินไปถึง30กันยายน2564เป็นต้นไปก็จะกลับมาเข้มแข็ง-แต่แบกภาระหนักอึ้งต่อไปอีกครั้งส่วนฝ่ายค้าน-ฝ่ายตรงข้ามจะอ่อนแรงทำอะไรก็ไม่ขึ้น(พระเสาร์จร7เริ่มเดินหน้า)

ฟองสนาน จามรจันทร์
13สิงหาคม2564