พท.ตีปี๊บจับ5รมต.ขึ้นเขียงซักฟอก


เพิ่มเพื่อน    

เพื่อไทยตีปี๊บ! จับ 5 รัฐมนตรีขึ้นเขียงซักฟอก ถกครั้งสุดท้าย 14 ส.ค. ที่แน่ๆ แล้วมี "บิ๊กตู่-อนุทิน-ศักดิ์สยาม-จุรินทร์" ส่วน "ธรรมนัส-เฉลิมชัย" รอชิงดำ   "สุทิน" พูดเสียงดังฟังชัด อาจมีเซอร์ไพรส์ในสภา แต่ไม่คาดหวังเสียงโหวตของ ส.ส.รัฐบาล แบไต๋ข้างนอกจะเป็นเวทีคู่ขนานแสวงหามติมหาชนเป็นคำตอบ
     เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2564 นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน)กล่าวถึงความมั่นใจการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีว่า ในวันที่ 14 ส.ค. พรรคร่วมฝ่ายค้านจะหารือรอบสุดท้ายเพื่อกำหนดตัวรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ คาดว่าจะอยู่ที่ 5 คน หรือบวกลบอีก 1 คน ไม่เกินจากนี้ 
    "มั่นใจว่าการอภิปรายครั้งนี้จะทรงพลังมากที่สุด สอดคล้องอารมณ์ ความรู้สึกประชาชนที่ได้อภิปรายไปล่วงหน้าแล้ว ฝ่ายค้านจะเอามาขยายโฟกัสให้ชัดขึ้น เป็นการอภิปรายที่ประชาชนมีส่วนร่วมอภิปรายมากที่สุด โดยการชี้เป้าส่งข้อมูลมาให้จำนวนมาก ระหว่างที่อภิปรายในสภา ข้างนอกสภาจะสนใจฟังการอภิปรายเหมือนเป็นเวทีคู่ขนานกันไป"
     นายสุทินกล่าวว่า การลงคะแนนในสภาไม่สำคัญเท่าการลงคะแนนนอกสภา ที่จะมีการแสวงหามติมหาชนเป็นคำตอบ ฝ่ายค้านไม่ได้คาดหวังเรื่องการลงมติในสภา แต่ให้ความสำคัญกับมตินอกสภามากกว่า อย่างไรก็ตาม ยังหวังอาจมีเซอร์ไพรส์การลงมติในสภา ถ้าพรรคร่วมรัฐบาลได้ฟังข้อมูลฝ่ายค้านแล้ว อาจกระอักกระอ่วนใจยกมือให้ อาจมีบางคนของพรรคร่วมรัฐบาลเสียงแตกยกมือให้ฝ่ายค้าน ก็ถือเป็นนัยสำคัญทางการเมืองแล้ว ใครที่ได้คะแนนห่างจากเพื่อนลิบลับ ถือเป็นการส่งสัญญาณการเมืองให้เห็น
    นายสุทินกล่าวว่า ส่วนความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลเรื่องงบกลางและการแก้รัฐธรรมนูญนั้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ พรรคร่วมฝ่ายค้านแยกแยะออกเป็นเรื่องๆ ไป บางเรื่องอาจมีความเห็นต่างกัน เช่น งบกลาง การแก้รัฐธรรมนูญ แต่เรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีความเห็นตรงกัน การอภิปรายครั้งนี้ทุกพรรคจะทำหน้าที่เต็มที่ ไม่มีการปกปิดข้อมูลกัน
       มีรายงานว่า การประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านในวันที่ 14 ส.ค. เพื่อเคาะรายชื่อรัฐมนตรีรอบสุดท้ายที่จะถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ขณะนี้รายชื่อรัฐมนตรีที่มีความเป็นไปได้ 90% แล้ว จะถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจมี 4 คนคือ 1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กรณีความล้มเหลวแก้ปัญหาการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 และการบริหารจัดการวัคซีนผิดพลาด 2.นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กรณีความล้มเหลวแก้ปัญหาการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 และการบริหารจัดการวัคซีนผิดพลาด 
    3.นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กรณีความไม่โปร่งใสการประมูลโครงการรถไฟทางคู่สายเหนือ-อีสาน และกรณีปัญหาจริยธรรมที่ถูกกล่าวหาเชื่อมโยงการแพร่ระบาดโควิดระลอกสาม 4.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กรณีไม่ควบคุมราคาสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการป้องกันและตรวจสอบเชื้อโควิด
       ส่วนอีก 2 คนคือ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ที่พรรคประชาชาติและพรรคเสรีรวมไทยเสนอชื่อมา กับร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่ถูกเสนอชื่อโดยพรรคก้าวไกลนั้น จะนำข้อมูลพยานหลักฐานต่างๆ เข้าหารือในที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านวันที่ 14 ส.ค.อีกครั้ง ว่าจะมีน้ำหนักเพียงพอจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจได้หรือไม่ เพราะที่ผ่านมาพรรคร่วมฝ่ายค้านก็ไม่ทราบข้อมูลว่าทั้งสองคนจะถูกยื่นอภิปรายในเรื่องใด เนื่องจากพรรคที่เสนอชื่อมาปิดข้อมูลเป็นความลับ บอกว่าจะนำข้อมูลมาเปิดเผยในวันที่ 14 ส.ค. โดยยืนยันเป็นข้อมูลที่มีพยานหลักฐานความผิดชัดเจน
    ด้านนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 16 ส.ค.นี้ว่า เบื้องต้นได้มีการนัดหมายว่าจะเดินทางมายื่นกับตนในวันที่ 16 ส.ค. เวลา 09.30 น. และเมื่อรับญัตติมาแล้วตามขั้นตอนก็จะมีการตรวจสอบความถูกต้องเหมือนกับที่ผ่านมาทุกปี และไม่ได้มีอะไรยุ่งยาก ทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบและกฎหมาย คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 7 วัน แต่จะนัดประชุมเมื่อไหร่นั้น เมื่อตรวจสอบญัตติเรียบร้อยแล้วก็จะนัดหารือทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านว่าเวลาและวันที่แต่ละฝ่ายสะดวกจะเป็นช่วงไหนต่อไป
    นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  กล่าวว่า ตามรัฐธรรมนูญ หากสภาผู้แทนราษฎรมีมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ก็จะส่งผลให้คณะรัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่งไปทั้งหมด ส่วนกระแสข่าวว่ามีบุคคลฝ่ายรัฐบาลส่งข้อมูลให้ฝ่ายค้านนำไปอภิปรายนั้น ส่วนตัวไม่ทราบเรื่องนี้ ยังไม่มีข้อมูล แต่เชื่อว่าไม่มีใครในรัฐบาลส่งข้อมูลให้ฝ่ายค้านอย่างแน่นอน
        เมื่อถามว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ มีการพุ่งเป้าไปที่หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลด้วย จะเป็นการกดดันให้ทบทวนการร่วมรัฐบาลด้วยหรือไม่ นายจุรินทร์ ย้ำว่า จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีการเปิดเผยชื่อผู้อภิปรายออกมา จึงตอบไม่ได้ว่าฝ่ายค้านมีความประสงค์อย่างไร แต่เชื่อว่า เมื่อมีรายชื่อผู้ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจออกมาแล้ว ก็จะสะท้อนให้เห็นได้ว่าฝ่ายค้านต้องการอะไรซ่อนอยู่หรือไม่
    ขณะที่นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมาเมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 รัฐบาลก็เร่งแก้ปัญหาทันที ทั้งการเร่งควบคุมและป้องกันโรค การนำผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบการรักษาพยาบาลโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย และการเยียวยาช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ล้มเหลวในการบริหารจัดการวัคซีน ทุกอย่างดำเนินการไปตามขั้นตอน ขนาด ส.ส.บางพรรคก็ยังรีบไปขอฉีดวัคซีนก่อนประชาชนด้วยซ้ำ และน่าจะบริหารจัดการได้เร็วกว่านี้ด้วยซ้ำ ถ้าไม่ต้องมาคอยดูแลผู้ชุมนุมที่ออกมาชุมนุมกันในตอนนี้ตามคำปลุกปั่นของนักการเมืองบางคน จนสุ่มเสี่ยงที่จะกลายเป็นคลัสเตอร์ใหม่ได้ 
    เขาบอกว่า การที่นายกฯ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินนั้น ก็เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งไม่ใช่การปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ใดๆ ทั้งสิ้น และไม่ใช่ใช้เพื่อควบคุมม็อบอย่างที่นักการเมืองบางคนพยายามบิดเบือนด้วย เพราะถ้านำมาใช้อย่างเข้มงวดกับผู้ชุมนุมจริง สถานการณ์หลายอย่างคงไม่เป็นอย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้แน่นอน
      คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์  ประธานพรรคไทยสร้างไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า ขอรายงานความคืบหน้าการฟ้องรัฐบาล ฟ้องประยุทธ์ ให้ทุกท่านทราบ ว่าเราจะไปยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบในวันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม 2564 เวลาประมาณ 10.30 นาฬิกา พร้อมขอขอบคุณทุกท่านเกือบ 700,000 รายชื่อที่ร่วมลงชื่อสนับสนุนให้. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"