12 ส.ค.64 - นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 11 ส.ค.2564 เวลา 16.00 น.) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 375 ราย (พบในเรือนจำสีแดง 239 ราย และพบในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่ 136 ราย) รักษาหายเพิ่ม 1,090 ราย เสียชีวิต 1 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 6,063 ราย (กลุ่มสีเขียว 82.9% สีเหลือง 16.7% และสีแดง 0.4%) เป็นพื้นที่กรุงเทพมหานคร 348 ราย ปริมณฑล 1,716 ราย และต่างจังหวัด 3,999 ราย 

นายอายุตม์ กล่าวว่า ในวันนี้ไม่พบการระบาดเพิ่มในเรือนจำแห่งใหม่ติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ส่งผลให้มีเรือนจำสีแดง 35 แห่ง และเรือนจำสีขาวที่ไม่มีการแพร่ระบาด 107 แห่งคงเดิม โดยมีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 45,494 ราย หรือ 87% ของผู้ติดเชื้อสะสม 52,263 ราย เสียชีวิตสะสม 80 ราย คิดเป็นอัตรา 0.15% ของผู้ติดเชื้อสะสม 

สำหรับผู้เสียชีวิตในวันนี้ เป็นผู้ต้องขังจากเรือนจำกลางขอนแก่น ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบาง มีโรคประจำตัว สูงอายุ แม้ว่าได้ดำเนินการดูแลรักษาอย่างเต็มประสิทธิภาพตามมาตรฐานโดยทีมแพทย์ และส่งต่อการรักษายังโรงพยาบาลภายนอกแล้ว แต่อาการยังคงไม่ดีขึ้น จนกระทั่งได้เสียชีวิตลง กรมราชทัณฑ์ ขอแสดงความเสียใจต่อการจากไป มา ณ โอกาสนี้ ทั้งนี้ ได้ประสานญาติเพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาตามวิธีการจัดการศพผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นที่เรียบร้อย

นายอายุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุม ศบค.ยธ. โดยมีปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานในวันนี้ ได้เน้นย้ำแนวทางการป้องกันเชื้อ โดยเฉพาะในสถานการณ์ภายนอกที่มีการแพร่ระบาดมากขึ้น ผู้ปฏิบัติงานจึงต้องเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งในส่วนของการกักโรคที่ต้องเคร่งครัดและปรับให้เหมาะสมตามหลักระบาดวิทยามากขึ้น รวมถึงต้องป้องกันตัวเองให้ดี ไม่เข้าไปในสถานที่เสี่ยง และในระหว่างปฏิบัติงานต้องสวมใส่ชุดอุปกรณ์ป้องกันอย่างถูกต้อง หมั่นทำความสะอาดพื้นที่และฆ่าเชื้ออยู่เสมอ 

ทั้งนี้ ได้กำชับให้ทุกเรือนจำและทัณฑสถาน เตรียมความพร้อมก่อนปล่อยตัวผู้พ้นโทษ ตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2564 อย่างรอบคอบ ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งในกระบวนการอบรมเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย โครงการพระราชทาน โคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง กรมราชทัณฑ์ และการตรวจหาเชื้อ กักตัว รวมทั้งการเตรียมศูนย์พักพิงชั่วคราวบริเวณภายนอกเรือนจำทุกแห่ง เพื่อไม่ให้มีการนำเชื้อไปแพร่ระบาดภายนอกเรือนจำโดยเด็ดขาด