คุณหมอออกโรงประกาศแถลงการณ์ขอให้คุ้มครองผู้ปฏิบัติงานในสถานการณ์โควิด-19 ที่มีผลกระทบในวงกว้างทุกมิติ สถานการณ์ทุกด้านที่มีความเร่งด่วน ทั้งการจัดหายา เวชภัณฑ์และวัคซีน รวมทั้งมีข้อจำกัดในเรื่องขององค์ความรู้และทรัพยากร อาจก่อให้เกิดความไม่สมบูรณ์ หรืออาจเกิดข้อผิดพลาดจากการปฏิบัติงานโดยสุจริตใจได้ "วิษณุ" ชี้ช่องอาจไม่เข้าข่ายออก พ.ร.ก. ส่วนไทยสร้างไทย อ้าง ปชช. 7 แสนเข้าชื่อให้ฟ้อง "บิ๊กตู่"
เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2564 ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยผู้บริหารประกอบด้วย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข, อธิบดีทุกกรม, เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา, สถาบันวัคซีนแห่งชาติ, สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข, สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ, องค์การเภสัชกรรม, แพทยสภา, สภาการพยาบาล, ทันตแพทยสภา, สภาเภสัชกรรม, สภาเทคนิคการแพทย์, สภากายภาพบำบัด และแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ร่วมประกาศแถลงการณ์ขอให้คุ้มครองผู้ปฏิบัติงานในสถานการณ์โควิด-19
นายแพทย์เกียรติภูมิกล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขและสภาวิชาชีพด้านสุขภาพเห็นพ้องต้องกันว่า โรคโควิด-19 เป็นโรคอุบัติใหม่ร้ายแรงที่มีผลกระทบในวงกว้างทุกมิติ ทำให้มีผู้คนเจ็บป่วยจำนวนมาก และบางครอบครัวต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก ระบบสาธารณสุขของไทยได้ต่อสู้กับโรคนี้มานานเกือบ 2 ปี ด้วยสรรพกำลังทั้งภาครัฐ เอกชน จิตอาสา ประชาสังคม และประชาชน ด้วยสถานการณ์ทุกด้านที่มีความเร่งด่วน ต้องการความร่วมมือร่วมใจในการควบคุมป้องกันโรค การรักษาพยาบาลในทุกวิถีทางที่จะทำได้ รวมทั้งการจัดหายา เวชภัณฑ์และวัคซีน ซึ่งการตัดสินใจและการทำงานในภาวะเร่งด่วน รวมทั้งมีข้อจำกัดในเรื่องขององค์ความรู้และทรัพยากร อาจก่อให้เกิดความไม่สมบูรณ์ หรืออาจเกิดข้อผิดพลาดจากการปฏิบัติงานโดยสุจริตใจได้
ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขจึงร่วมกับภาคีเครือข่ายด้านสุขภาพข้างต้น ขอเสนอให้รัฐบาลได้โปรดพิจารณาดำเนินการหามาตรการในการปกป้องคุ้มครองผู้ปฏิบัติงาน ตลอดจนนักวิชาการต่างๆ เพื่อลดความวิตกกังวล และสร้างความมั่นใจในการทำงานที่จะเป็นประโยชน์สูงสุดกับประชาชนต่อไป
ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ย้ำว่ายังไม่มีใครรู้เรื่อง ไม่มีใครเคยเห็นร่างกฎหมายดังกล่าวด้วยซ้ำไป และตนได้แจ้งให้กระทรวงสาธารณสุขกลับไปคิดให้ดี เพราะสถานการณ์ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องทำขนาดนั้น และอาจไม่เข้าข่ายที่จะสามารถออกเป็น พ.ร.ก.ได้
รองนายกฯ กล่าวว่า สำหรับแนวทางที่จะให้บุคลากรทางการแพทย์เข้ามาเป็นเจ้าหน้าที่ใน ศบค.เพื่อให้ได้รับการคุ้มครองในการปฏิบัติหน้าที่นั้นสามารถดำเนินการได้ แต่อาจไม่ครอบคลุมหรือให้ความคุ้มครองตามกฎหมายได้ทุกคน และจะรวมไปถึงบุคลากรด่านหน้า เช่น อาสาสมัครต่างๆ ด้วยหรือไม่ กระทรวงสาธารณสุขต้องนำไปพิจารณา
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ส่วนที่มีเสียงท้วงติงและคลางแคลงใจ คือกลุ่มบุคคลในข้อ 7 ที่เกี่ยวข้องกับการจัดหาหรือบริหารวัคซีน ซึ่งถูกมองว่าเป็นการออก พ.ร.ก.เพื่อนิรโทษกรรมให้ฝ่ายนโยบายได้พ่วงเข้ากับการคุ้มครองบุคลากรสาธารณสุขด่านหน้า ทั้งที่จริงถ้าไม่มีการคุ้มครองคณะบุคคลดังกล่าว ก็ไม่น่ามีผลที่ทำให้ขาดขวัญกำลังใจในการทำงาน เพราะเท่าที่ผ่านมาคนกลุ่มนี้ยืนยันมาตลอดว่าทำงานโดยสุจริต ไม่ได้ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง และไม่ได้เลือกปฏิบัติ
“ผมขอฝากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายพิจารณาเรื่องนี้ด้วยความเป็นธรรม คำนึงถึงหลักนิติรัฐ นิติธรรม เพื่อประโยชน์สุขของส่วนรวม มากกว่าเพื่อประโยชน์ของใครคนใดคนหนึ่งหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งจะช่วยทำให้การทำงานแก้ไขวิกฤติโรคโควิด-19 สำเร็จได้” นายองอาจกล่าว
นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า กฎหมายนี้ยังไม่ไปไหน ยังอยู่ในขั้นตอนยกร่างที่ยังไม่แล้วเสร็จ ที่เอาไปวิจารณ์กันเป็นตัวนำเสนอ มีอยู่ 7-8 หน้า ไม่มีรายละเอียด ไม่ใช่ฉบับเต็ม แต่ฝ่ายการเมืองนำไปปลุกปั่นให้เป็นกระแสรายวัน อย่างนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่กล่าวถึงกฎหมายนี้ ก็ตามสไตล์เดิมๆ ดุดัน เอาใจแฟนคลับ ระหว่างที่อ่านตนไม่ติดใจอะไรเลย เพราะรู้ว่านายวิโรจน์เป็นคนไม่มีอะไร ไม่งั้นคงไม่ได้ฉายาว่า "วิโรจน์กราบอก"
นายศุภชัยกล่าวต่อว่า กระทั่งมาถึงท่อนที่นายวิโรจน์พูดว่า ใครในคณะกรรมการชุดใดที่ให้ความเห็นให้ประเทศไทยไม่เข้าร่วมโครงการ COVAX คนกลุ่มนั้นไม่ควรลอยนวลและไม่ควรได้รับการปกป้องจากกฎหมายพิเศษเหล่านี้ ก็ชัดเจนว่านายวิโรจน์ไม่ได้ล็อกเป้าที่นายอนุทิน พลเอกประยุทธ์ ฝ่ายการเมืองแล้ว แต่กำลังลามไปเล่นงานถึงหมอ อาจารย์แพทย์ คณะผู้เชี่ยวชาญที่เข้ามาช่วยในเรื่องเกี่ยวกับวัคซีนด้วย
“คุณมีปัญหากับข้อ 7 ที่ระบุว่า จะคุ้มครองให้บุคคล และคณะบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งหรือมอบหมายจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดหา หรือบริหารวัคซีน คุณมองว่ากฎหมายฉบับนี้ปกป้องฝ่ายการเมือง ปกป้องทีมแพทย์ในคณะผู้บริหาร แต่ให้ตั้งสติเพราะเอาเข้าจริง ผู้ที่เข้าเกณฑ์ตามกฎหมายฉบับนี้ มีไปจนถึงคณะแพทย์ในโรงพยาบาลเอกชน ที่มีหน้าที่จัดหาวัคซีน คณะแพทย์ในสถาบันจุฬาภรณ์ที่มีหน้าที่จัดหาวัคซีน กฎหมายฉบับนี้จะช่วยให้การจัดหาวัคซีนได้รับความสะดวกขึ้น เพราะคนที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องได้รับการคุ้มครอง กรณีที่ทำอย่างซื่อสัตย์สุจริต คุณเรียกร้องให้มีการนำวัคซีนเข้ามามากๆ แต่พอ รัฐจะเดินหน้าหาทาง ทำให้คนทำงานในส่วนนี้เกิดความมั่นใจ คุณก็เข้าไปขัดขวาง ยกประเด็นการเมืองมาตีขลุมโจมตีทั้งหมด มันไม่ถูกต้อง ซึ่งก็อย่างที่บอกว่ากฎหมายนี้มันไม่ได้นิรโทษใครเลย เพราะมันยังไม่มีใครทำผิด และมันก็มีช่องให้ฟ้องคนทำผิดให้ได้รับโทษอย่างที่กล่าวไปแล้ว” นายศุภชัยกล่าว
ขณะที่แกนนำพรรคไทยสร้างไทย ประกอบด้วย นายโภคิน พลกุล, นายวัฒนา เมืองสุข, กลุ่มคนรุ่นใหม่ และผู้เสียหายจากการบริหารสถานการณ์โควิด-19 ที่ผิดพลาดของรัฐบาล ได้มาพบนายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย เพื่อร่วมประชุมและติดตามผลการดำเนินคดีกับนายกรัฐมนตรีและผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยผลการประชุมมีข้อสรุป ดังนี้
การที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 และขยายเวลาจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 โดยรวมอำนาจรักษาการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องทุกฉบับไว้ที่ตนเองแต่เพียงผู้เดียว แต่กลับปล่อยปละละเลยจนเกิดความเสียหายดังกล่าว อันเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย
พรรคไทยสร้างไทยได้เปิดให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นว่าสมควรฟ้องรัฐบาลในประเด็นนี้หรือไม่ ปรากฏว่ามีประชาชนเข้าชื่อเห็นด้วยให้ฟ้องรัฐบาลถึง 700,000 คน ที่ประชุมจึงเห็นว่าควรฟ้องนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าคณะรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพียงผู้เดียว ส่วนผู้เสียหายหากมีเพิ่มเติมก็อาจจะเพิ่มด้วยการขอแก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้อง หรือโดยวิธีร้องสอดแล้วแต่กรณี ทั้งนี้ นายกสมาคมฯ ได้ร่างฟ้องเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้วและจะนำไปยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบในวันที่ 13 สิงหาคม เวลา 10.30 น.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |