หวั่นหลบหนียุ่งพยาน ค้านประกัน‘ประสิทธิ์’


เพิ่มเพื่อน    

 เหยื่อ “ประสิทธิ์ เจียวก๊ก” สุดทน ร้องศาลอาญาไม่ให้ประกัน “ประสิทธิ์-กิตติศักดิ์” หวั่นหลบหนี-ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน นอกจากนี้ทั้ง 2 คนยังมีเครือข่ายกับบุคคลมีสี และผู้มีอำนาจด้วยเตรียมทำเรื่องยื่น ผบ.ทบ. หมอทหารหญิงเอี่ยวด้วย โวยคดีอยู่กับ “ดีเอสไอ” 4 เดือน ทุกวันนี้ยังไม่คืบหน้า

                วันที่ 11 ส.ค.2564 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายสมิษฐ์ มหาปิยศิลป์ อายุ 56 ปี พร้อมกลุ่มผู้เสียหายที่ถูกหลอกลงทุนกับบริษัท เอ็มกรุ๊ป และเครือข่ายของ นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ประธานบริษัท เหนือโลก จำกัด ประธานโครงการคืนคุณแผ่นดิน เดินทางมายื่นหนังสือถึง นายสิทธิโชติ อินทรวิเศษ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา เพื่อขอคัดค้านการให้ประกันตัว นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก และนายกิตติศักดิ์ เย็นนานนท์ รองประธานฯ จำเลยคดีฉ้อโกงประชาชน มูลค่ากว่าพันล้านบาท

                นายสมิษฐ์กล่าวว่า สำหรับเหตุผลที่ยื่นขอคัดค้านการประกันตัวนายประสิทธิ์กับนายกิตติศักดิ์ เพราะหากทั้ง 2 ได้รับการประกันตัว มีโอกาสที่จะหลบหนี เนื่องจากมูลค่าความเสียหายนับพันล้านบาท รวมถึงคดีมีอัตราโทษสูง ทั้ง 2 อาจไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานต่างๆ ได้ และเคยข่มขู่พยาน ซึ่งเป็นพนักงานบริษัทที่จะมาเป็นพยานให้กับผู้เสียหาย โดยใช้วาจาหยาบคาย ซึ่งตนมีคลิปประกอบด้วย นอกจากนี้ทั้ง 2 คนยังมีเครือข่ายกับบุคคลมีสีและผู้มีอำนาจด้วย มีพฤติกรรมเข้าข่ายฟอกเงิน ฉ้อโกงประชาชนชัดเจน หากได้รับการประกันตัวมีโอกาสหลบหนี โยกย้าย ถ่ายเททรัพย์สิน

                ขณะนี้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงิน และตามอายัดทรัพย์ รวมทั้งพบพยานหลักฐานว่านายประสิทธิ์มีพฤติกรรมฟอกเงินจำนวนหลายร้อยล้านบาท โดยซื้อหุ้นใหญ่ใน บมจ.พุทธธรรมประกันภัย ใส่ชื่อ พ.ต.พญ.อมราภรณ์ วิเศษสุข หนึ่งในจำเลย ซึ่งทางเราจะสอบถามไปยัง ผบ.ทบ.และได้โอนขายหุ้นเป็นเงิน 80 ล้านบาท  กลับเข้าบริษัท เข้าข่ายฟอกเงินอย่างชัดเจน 

                “พวกเราทนไม่ไหวแล้ว เสียหายมากมาย เดือดร้อนเหลือเกิน เขาจะอยู่อย่างสบายกันไม่ได้ ซึ่งหลังจากนี้ผมจะทำเรื่องถึง ผบ.ทบ.ด้วย จึงขออย่าให้เขาได้ออกมา เพราะขณะนี้ ปปง.และตำรวจกำลังตามยึดและอายัดทรัพย์พวกเขาอยู่ หากเขาออกมาได้จะสามารถเปลี่ยนแปลง หรือยักย้ายถ่ายเท เขาจะออกมาบัญชาการอะไรบางอย่าง ขณะนี้มีเงินที่เขาซุกซ่อนไม่ต่ำว่า 2-3 พันล้านบาท รวมทองคำแท่ง มีการเคลื่อนย้ายออกนอกประเทศแล้ว ขอให้คดีนี้เป็นตัวอย่างของประเทศไทย จับแล้วต้องอายัดทรัพย์เลย ไม่ใช่ให้เรารอ เพราะเรื่องอยู่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) 4 เดือนแล้วยังไม่มีความคืบหน้าอะไร พวกเรามีความกังวลมาก เพราะเรามีคลิปหลักฐานที่เขาคุยกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องบางคนว่าสามารถช่วยเหลือได้ ครั้งนี้จะเป็นการแสดง และพิสูจน์ให้เห็นว่ากระบวนการยุติธรรมที่แท้จริงมีจริง” นายสมิษฐ์กล่าวตอนท้าย

                ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้เมื่อวันที่ 5 ส.ค.2564 พนักงานอัยการสำนักงานคดีเศรษฐกิจ และทรัพยากร 2 ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายประสิทธิ์ กับพวกรวม 9 ราย เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ

                กรณีช่วงระหว่างวันที่ 27 พ.ย.2563 ถึงวันที่ 18 เม.ย.2564 ต่อเนื่องกัน พวกจำเลยได้บังอาจร่วมกัน และแยกกันกระทำผิดต่อกฎหมาย เป็นความผิดหลายบทหลายกรรมต่างกัน โดยการหลอกลวง และแสดงข้อความอันเป็นเท็จ ด้วยการโฆษณาประกาศ แพร่ข่าว ข้อความ ชักชวนด้วยวาจาแก่ประชาชน และบุคคลตั้งแต่สิบคนขึ้นไปในสื่อสังคมออนไลน์ให้มาร่วมลงทุนกับพวกจำเลยในธุรกิจค้าทองคำสินค้าแบรนด์เนม โดยการซื้อ ขาย ฝากขาย ให้เช่า และบำรุงรักษาทำความสะอาดสินค้ากระเป๋าแบรนด์เนม อาทิ เช่น หลุยส์ วิตตอง, ชาแนล, แอร์เมส, กุชชี  เป็นต้น มีลักษณะเป็นการกู้ยืมเงินตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 ในเว็ปไซต์ www.crabybrandname.com โดยจำเลยจะจ่ายหรืออาจจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนให้ คิดเป็นอัตราร้อยละ 40.15 ถึงร้อยละ 51.1 ต่อปี ซึ่งเป็นการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินกำหนด

                ดังนั้นการกระทำดังกล่าวจึงถือว่าเป็นการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนที่เกินกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยดอกเบี้ยเงินกู้ให้กู้ยืมของสถาบันการเงินจะพึงจ่ายได้ในช่วงดังกล่าว ซึ่งอยู่ที่อัตราร้อยละ 3.25ต่อปี ตาม พ.ร.บ.ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงิน พ.ศ.2523

                ศาลประทับฟ้องไว้เป็นคดีอาญาหมายเลขดำ อ.1842/2564 และได้สอบคำให้การแล้ว โดยจำเลยทั้งหมดแถลงให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี ศาลจึงนัดตรวจพยานหลักฐาน วันที่ 20 ก.ย.นี้ เวลา 09.00 น.

                ส่วนนายประสิทธิ์ และนายกิตติศักดิ์ จำเลยสำคัญในคดีขณะนี้ ทั้ง 2 ยังคงถูกคุมขังไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ เนื่องจากศาลอาญาไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว สำหรับจำเลยคนอื่นๆ ได้รับการประกันตัวจากศาล โดยติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือกำไลข้อเท้า (EM)  รวมทั้งปฏิบัติเงื่อนไขการประกันอย่างเคร่งครัด อาทิ ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร หรือห้ามออกนอกพื้นที่ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล และต้องมารายงานตัวต่อศาลทุกครั้งตามนัด.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"