มีเพื่อนส่งเรื่องนี้มาให้อ่าน เห็นว่าเหมาะเจาะกับ "วันแม่" ในยุคโควิดสมาสกับยุคดิจิตอล ที่จำเป็นต้องรักษาระยะห่าง ดังนั้นส่งกำลังใจกันผ่านข้อเขียนอย่างนี้ก็แล้วกันนะคะ...เรื่องมีอยู่ว่า
ตอนเรียนมหาวิทยาลัย มีอยู่วันหนึ่งตามอาจารย์ออกไปฝึกงานนอกสถานที่ ตอนขากลับก็ถือโอกาสแวะบ้านอาจารย์ทานข้าวมื้อเย็นตามคำเชิญชวนของอาจารย์
หลังอาหาร จานชามเต็มโต๊ะ เพื่อนๆ ก็ช่วยกันเก็บโต๊ะ แล้วเตรียมตัวจะล้างจานชามกองนั้น อาจารย์ยิ้มก่อนจะพูดว่า "ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวมีคนล้างให้" อาจารย์ลงมือเช็ดคราบมันบนจานชามออกไปรอบหนึ่งก่อน แล้วก็เดินไปหาแม่อาจารย์ซึ่งอายุน่าจะเกินแปดสิบแล้ว "แม่ครับ ได้เวลาล้างจานแล้ว"
พวกเราทุกคนตกใจ แล้วเหตุการณ์ที่เห็นก็คือ คุณแม่ซึ่งมีท่าทางหงอยเหงาที่นั่งเงียบอยู่ที่มุมห้อง บัดนี้มีสีหน้าที่มีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที แล้วท่านก็เดินไปยังอ่างซิงก์ลงมือล้างจานชามกองนั้นทันที ใช้เวลาร่วมๆ ครึ่งชั่วโมงกว่าจะเสร็จภารกิจ
งานของแม่ ยามแก่ชรา
อาจารย์ส่งยิ้มให้คุณแม่ ก่อนจะพูดว่า "แม่เหนื่อยแล้ว ไปพักผ่อนเถอะ" อาจารย์หยิบเอาผ้าเช็ดมือมาเช็ดมือให้ท่านอย่างอ่อนโยน อาจารย์พาคุณแม่กลับเข้าไปพักผ่อนในห้องนอน เสร็จแล้วอาจารย์ก็กลับมาล้างจานใหม่อีกรอบจนเสร็จ
อาจารย์บอกกับพวกเราว่า "คนเป็นแม่มักจะคิดช่วยลูกทำอะไรได้บ้าง แม้ท่านจะแก่มากแล้ว แต่ก็ยังคิดว่าลูกต้องการความช่วยเหลือจากท่านเสมอ การที่ให้แม่ช่วยล้างจาน ท่านก็จะรู้สึกว่าลูกยังต้องการท่าน จะทำให้ท่านมีความรู้สึกเต็มอิ่มในวันนั้น การรักพ่อรักแม่นั้น นอกจากดูแลท่านแล้ว ยังต้องรู้จักหาโอกาสให้ท่านแสดงความรักต่อลูกหลานบ้าง จะเป็นการเพิ่มความสุขให้ท่าน".
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |