กรมควบคุมโรค ยันกระจายวัคซีนไฟเซอร์ให้บุคลากรด่านหน้าทุกคน


เพิ่มเพื่อน    

10 ส.ค.64 - ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค แถลงถึงการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ว่า ย้ำว่าการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์เป็นไปตามไทม์ไลน์ โดยในวันที่ 3-4 ส.ค. มีการจัดทำระบบตรวจสอบย้อนกลับของวัคซีนเพื่อจัดส่ง และล็อตแรกเริ่มจัดส่งได้เร็วกว่าที่กำหนดในวันที่ 3-4 ส.ค. ซึ่งมีการเริ่มฉีดไปบางส่วนตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค. และยืนยันว่าเป้าหมายการจัดการวัคซีนไฟเซอร์บุคลากรการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าจะได้รับวัคซีนทุกคนตามประสงค์ตามเกณฑ์ ซึ่งจะพิจารณาตามข้อวิชาการว่ามีรายใดที่เหมาะสมกับการฉีด  ประกอบการสำรวจความต้องการของบุคลากรทางการแพทย์ สำหรับบุคลากรที่ได้รับวัคซีนในล็อตแรก ขอให้แจ้งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักอนามัยกรุงเทพฯ เพื่อส่งข้อมูลมายัง สธ.และคลินิกเอกชน แจ้งที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สธ.ได้ และจะมีการจัดซื้อจัดหาเพิ่มเติม โปร่งใสและตรวจสอบได้

นพ.เฉวตสรร กล่าวต่อว่า ในวันนี้ก็จะมีการส่งวัคซีนไฟเซอร์ไปยังรพ.จังหวัดควบคุมสูงสุดเข้มงวด 13 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี นครปฐม นนทบุรี นราธิวาส ปทุมธานี ปัตตานี อยุธยา ยะลา สงขลา สมุทรปราการ และสมุทรสาคร สำหรับผู้สูงอายุ กลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ เพื่อฉีดเข็มที่ 1 โดยอีก 3 สัปดาห์ จะนัดหมายฉีดเข็มที่ 2 

“โดยยอดการฉีดวัคซีนขณะนี้ในภาพรวมนับตั้งแต่ 28 ก.พ.- 9 ส.ค. มีการฉีดไปแล้ว 21 ล้านโดส เฉพาะในกรุงเทพฯและภูเก็ตก็ฉีดได้ประมาณ 70% ของจำนวนประชากรที่อาศัยอยู่ใน 2 จังหวัด  สำหรับการฉีดวัคซีนในเข็มที่ 1 รวมทุกยี่ห้อ 16 ล้านโดส  ซึ่งเมื่อวานก็มีการฉีดสูง 5 แสนโดส ส่วนการฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มที่ 1 จำนวน 3.3 หมื่นคน ส่วนไฟเซอร์เข็มที่ 2 จำนวน 1.3 หมื่นคน ในบุคลากรที่ฉีดเข็มกระตุ้นที่ 3 จำนวน 8.2 หมื่นคน ในขณะที่ภาพรวมการฉีดสะสมแล้วทุกยี่ห้อ โดยซิโนแวคอยู่ที่ 10 ล้านคน แอสตร้าเซนิก้าอยู่ที่ 9.2 ล้านคน ชิโนฟาร์มอยู่ที่ 1.5 ล้านคน และไฟเซอร์อยู่ที่ 1.2 แสนคน” นพ.เฉวตสรร ระบุ  

ทั้งนี้ในส่วนของผู้เสียชีวิตกลุ่มสำคัญคือ ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยเรื้อรัง ซึ่งส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับวัคซีน หรือในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ ที่ฉีดวัคซีนไปได้เพียง 1% เท่านั้นจำนวนหญิงตั้งครรภ์ทั่วประเทศ จึงพยายามเร่งฉีดวัคซีนในกลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มโรคเรื้อรัง หรือที่เรียกว่ากลุ่ม 608 เพราะในตอนนี้วัคซีนทุกยี่ห้อที่มีตัวอย่างการฉีดทั่วโลก มีความปลอดภัยสูง ป้องกันการเสียชีวิตและป่วยหนักได้ 

เมื่อถามเกี่ยวกับกรณีการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ให้น้อยกว่าจำนวนบุคลากรทางการแพทย์ที่ส่งรายชื่อเข้ามาในหลายพื้นที่ นพ.เฉวตสรร กล่าวว่า อย่างใน กรณีข่าวในพื้นที่จ.ขอนแก่น และรพ.สนามธรรมศาสตร์ที่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์ไม่เพียงพอตามจำนวน ขณะนี้ก็ได้จัดส่งครบแล้ว ดังนั้นในหลักเกณฑ์การจัดสรรวัคซีน โดยการดูฐานข้อมูลบุคลากรฉีดวัคซีนอยู่เท่าไหร่ และสำรวจบุคลากรที่มีวัตถุประสงค์รับวัคซีนไฟเซอร์มีจำนวนเท่าไหร่ ซึ่งในการสำรวจรอบแรกอาจจะมีการตกหล่น ถ้าหากมีการแจ้งรายชื่อบุคลากรที่จะรับวัคซีนไฟเซอร์ต่ำกว่า 50% ก็จะจัดสรรวัคซีนให้ในจำนวน 50% เต็ม แต่ถ้ามีรายชื่ออยู่ในระหว่าง 50-75% จะจัดสรรวัคซีนให้ตรงตามจำนวนที่ขอมา หากจังหวัดใดมีรายชื่อเกิน 75% ก็จะดำเนินการส่งให้ในเบื้องต้นก่อน 75%

ดังนั้นในจังหวัดที่พบว่าวัคซีนขาด ก็จะอยู่ในส่วนของรายชื่อที่ส่งเข้ามาเกิน 75% เมื่อเทียบกับฐานข้อมูล แต่อย่างไรก็ตามวัคซีนที่จัดไปในรอบแรก ข้อมูลอาจจะมีการคลาดเคลื่อน ก็เตรียมพร้อมที่จะจัดส่งไปเพิ่มเติมให้กับรพ.ที่ยังไม่ได้รับ ยืนยันว่าบุคลากรด่านหน้าจะได้รับวัคซีนทุกคน  และในส่วนแนวทางการผสมวัคซีนเป็นตามสูตรที่บริษัทผู้ผลิตกำหนดมา โดยเป็นการผสมวัคซีนกับน้ำเกลือในปริมาณ 1.8 CC หรือ 0.9% ฉีดเข้าไปในขวดวัคซีน พร้อมกับกลับขวดไปมา 10 รอบ เมื่อผสมพร้อมฉีด ต้องฉีดให้หมดภายใน 6 ชั่วโมง ซึ่งเป็นไปตามลายละเอียดของบริษัทผู้ผลิตกำหนด ไม่มีการผสมน้ำแต่อย่างใด


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"