หลังกระทรวงมหาดไทยนำร่อง จัดทัพบิ๊กข้าราชการ ด้วยการชงโผบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 11-10 ปลัดมหาดไทย-อธิบดี-ผวจ.ไปแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากนี้ไปจนถึงช่วงก่อนสิ้นเดือนกันยายน จะมีอีกหลายกระทรวง-หน่วยงานเริ่มทยอยจัดทัพ นำชื่อแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูง เอาเข้าที่ประชุม ครม. ตามหลังกระทรวงมาอีกหลายแห่ง ท่ามกลางกระแสข่าวบางกระทรวงการจัดทัพยังไม่นิ่งดี ถึงขั้นมีข่าวฝุ่นตลบ โผไม่ลงตัว แก้แล้วแก้อีก
    และหนึ่งในตำแหน่งบิ๊กข้าราชการที่รอบนี้มีคิวต้องมีการแต่งตั้งคนใหม่เข้าไปแทนคนเก่าที่จะเกษียณ และเป็นตำแหน่งที่ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งในช่วง สงครามโรค-โควิด นั่นก็คือ เก้าอี้
    เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)
    ที่โดยโครงสร้างและตำแหน่งใน ศบค.ที่เป็น ศูนย์บัญชาการหลักของรัฐบาลในการสู้กับโควิดมาร่วมปีกว่า โดยเฉพาะการระบาดหนักช่วงนี้ เห็นได้ชัดว่าที่ผ่านมา เลขาธิการ สมช.คนปัจจุบัน บิ๊กเล็ก-พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ ซึ่งจะเกษียณกันยายนนี้ มีบทบาทอย่างมากใน ศบค. เรียกได้ว่า ทำหน้าที่เสมือนเสนาธิการบัญชาการรบของ ศบค. กับบทบาท
ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศปก.ศบค.) และประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการ COVID-19
    ที่จะทำหน้าที่เป็นเซ็นเตอร์หลักใน ศบค. โดยเฉพาะงานด้านการประสานงาน-การรวบรวมและกลั่นกรองข้อมูลต่างๆ เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมใหญ่ ศบค.-ภารกิจด้านการวางยุทธศาสตร์ของ ศบค.ในการรับมือกับโควิด-การเป็นด่านหน้าหลักในการพูดคุย รับเรื่องร้องเรียนและข้อเรียกร้องจากฝ่ายต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด เช่น ภาคธุรกิจ ภาคแรงงาน รวมถึงการประสานงานกับสื่อ เป็นต้น
    จากบทบาทข้างต้นของเลขาธิการ สมช.ใน ศบค. จึงเห็นชัดว่ามีบทบาทสูงมาก ยิ่งกับสถานะส่วนตัวของพลเอกณัฐพลที่เป็นนายทหารคนสนิท น้องรักของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ-ประธาน ศบค.อยู่แล้ว จึงยิ่งทำให้พลเอกณัฐพลมี power มากใน ศบค. เพราะถือว่าพลเอกประยุทธ์เชื่อมือ-มอบอำนาจการตัดสินใจให้
    จนมีข่าวว่า หากแฟ้มงาน-วาระงานเรื่องไหน พลเอกณัฐพลสกรีนมาให้-ทำสรุปข้อเสนอต่างๆ มาให้พลเอกประยุทธ์ ตัวพลเอกประยุทธ์จะวางใจ เอาด้วยเกือบทั้งหมด
    ด้วยเหตุนี้ เมื่อบิ๊กเล็ก-พลเอกณัฐพลต้องเกษียณปีนี้ เลยทำให้หลายคนให้ความสนใจว่า เก้าอี้เลขาธิการ สมช.ที่มีบทบาทสูงใน ศบค. สุดท้ายแล้วพลเอกประยุทธ์จะเลือกใครมาทำหน้าที่เป็น มือขวาใน ศบค. แทนพลเอกณัฐพล
    ยิ่งเมื่อสถานการณ์โควิดยังวิกฤติหนัก ทำท่าว่าจะสู้กันยาวไปถึงช่วงตุลาคม ที่เลขาธิการ สมช.คนใหม่เข้ามารับตำแหน่ง ศึกนี้ก็ยังไม่จบ ทำให้การตั้งเลขาธิการ สมช.คนใหม่เลยยิ่งถูกจับตามองมากขึ้นไปอีก
บนสูตรการแต่งตั้ง ที่แวดวงทหาร-ข้าราชการในตึกแดง สมช. ในทำเนียบรัฐบาล รู้ดีว่าเลขาธิการ สมช.คนใหม่ปีนี้ ยังไงก็จะเป็น ท็อปบูต-ทหาร ข้ามห้วยมารับตำแหน่งเลขาธิการ สมช.ในยุคที่บทบาทภารกิจหลักไม่ใช่เรื่องงานข่าว-ความมั่นคงแบบเดิมอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องของการเป็นเสนาธิการคนสำคัญใน ศบค.เพื่อสู้ในสงครามโรคโควิด ไม่ใช่สงครามเย็น แบบในอดีตที่ สมช.เคยถูกเรียกว่า ซีไอเอเมืองไทย อีกต่อไป
    ก่อนหน้านี้ มีชื่อแคนดิเดตตัวเต็งคนจะมาเป็นเลขาธิการ สมช.คนใหม่ออกมา 2-3 ชื่อ โดยเป็นที่รู้กันดีว่า เก้าอี้เลขาธิการ สมช.ช่วงหลังกลายเป็นตำแหน่งที่บิ๊กทหารซึ่งพลาดหวังในเก้าอี้สำคัญในกองบัญชาการต่างๆ รวมถึงเป็นคนที่ พลเอกประยุทธ์และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ไว้ใจ แต่ดันไปนั่งที่อื่นไม่ได้ จะถูกส่งมาเป็นเลขาธิการ สมช. ซึ่งปีนี้ก็มีข่าวว่าจะออกมาแบบนี้เช่นกัน
    ท่ามกลางกระแสข่าวจะมีบิ๊กทหารข้ามห้วยมา เช่น บิ๊กไก่ พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เสนาธิการทหาร-พล.อ.ณตฐพล บุญงาม ที่รอบที่แล้วเกือบเข้าวิน แต่มาหลุดโค้งสุดท้ายเพราะบิ๊กตู่โยก พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ จากรอง ผบ.ทบ. มาเป็นเลขาธิการ สมช. หลังจากไม่สามารถดันไปเป็น ผบ.ทบ.ได้
    ลือมาหลายสัปดาห์ สุดท้ายข่าวหลายกระแสบอกว่า ลงตัวแล้ว เพราะชื่อที่บิ๊กตู่เลือกให้เป็นเลขาธิการ สมช.คนใหม่ก็คือ บิ๊กไก่-พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เสนาธิการทหาร ที่มีข่าวได้แรงหนุนจาก พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทหารสูงสุด ให้ข้ามห้วยมานั่งตึกแดง-สมช.สองปี ก่อนเกษียณในปี 2566 โดยพลเอกประยุทธ์เห็นชอบด้วย กับโปรไฟล์มานั่งคุมตึกแดงได้แบบไม่ขัดเขิน เช่น เป็นอดีตเสนาธิการศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล-รอง ผบช.ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล เป็นต้น 
    การเตรียมเข้ามาเป็นเลขาธิการ สมช.และเป็นคีย์แมนใน ศบค.ของ พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม ที่ต้องรับไม้ต่อจากพลเอกณัฐพล กับศึกหนักสู้โควิดที่รออยู่ ภารกิจนี้คงท้าทาย อดีตบิ๊กทหารม้าอย่าง พล.อ.สุพจน์ไม่ใช่น้อย.