"ชลน่าน" เปิดข้อกล่าวหายื่นซักฟอก "ประยุทธ์-ครม." บริหารไร้ประสิทธิภาพ แก้โควิดผิดพลาด ใช้งบประมาณแสวงหาประโยชน์ ยันเพื่อไทยไม่จับมือ "ระบอบประยุทธ์" แกนนำภูมิใจไทยมั่นใจ "อนุทิน" ตอบซักฟอกได้ "สัณหพจน์” ขออภัยทำให้เข้าใจผิดกรณีชงนายกฯ ปรับ ครม. ขอรับผิดชอบลาออกจากรองโฆษก พปชร. "โอ๊ค" เผย "ทักษิณ"  เตรียมเปิดเว็บ Thaksinofficial หวังเป็นช่องทางแลกเปลี่ยนสื่อสารประชาชน
    เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อมคณะ ต่อนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เนื่องมาจากความล้มเหลวของการบริหารราชการแผ่นดิน ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน พรรคร่วมฝ่ายค้านจะมุ่งไปที่ความไร้ประสิทธิภาพในการแก้ไขสถานการณ์โควิดที่ผิดพลาดของรัฐบาล ส่งผลให้ระบบสาธารณสุขของไทยล่มสลาย บุคลากรทางการแพทย์หลายคนต้องทำงานหนัก และตกอยู่ในภาวะเสี่ยงติดเชื้อ ในขณะที่วัคซีนที่มีคุณภาพที่รัฐบาลได้รับมา ไม่มีการเร่งกระจาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับแพทย์และพยาบาล รวมไปถึงบุคลากรด่านหน้า แต่รัฐบาลกลับมีนัยซ่อนเร้นในการเก็บวัคซีนเพื่อวัตถุประสงค์อื่น  
    นพ.ชลน่านกล่าวว่า นอกจากนี้จะอภิปรายให้ประชาชนเห็นถึงความไม่ชอบมาพากลของการบริหารราชการแผ่นดิน โดยเฉพาะการหาผลประโยชน์จากการใช้งบประมาณของ พล.อ.ประยุทธ์ มีการปล่อยปละละเลยให้มีการหาประโยชน์จากการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ โดยเฉพาะการจัดซื้อวัคซีนและหน้ากากอนามัย พล.อ.ประยุทธ์ไม่เคยมีการตรวจสอบการทุจริต ทั้งๆ ที่ฝ่ายค้านนำเสนอข้อมูลหลักฐานต่อที่ประชุมสภา แต่ พล.อ.ประยุทธ์ กลับนิ่งเฉยต่อการทุจริตงบประมาณแผ่นดิน  
    "ขอยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยไม่มีทางที่จะไปจับมือกับระบอบประยุทธ์อย่างแน่นอน เพราะพรรคเพื่อไทยจะไม่ไปจับมือกับคนที่เห็นความเจ็บป่วยและความเสียชีวิตของประชาชน โดยไม่มีจิตสำนึก ไม่รู้สึกอะไร และไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น รัฐบาลมีงบประมาณมหาศาล แต่ไม่ใช้งบประมาณให้เกิดประโยชน์ ปล่อยให้พี่น้องประชาชนหาเตียงรักษาไม่ได้ ให้ท้องถิ่นต้องรับบริจาคจากเอกชน เพื่อหางบประมาณซื้อเตียงสนาม การกระทำของ พล.อ.ประยุทธ์ คือลอยตัวเหนือปัญหา ไม่รับผิดชอบ กอดอำนาจไว้ แต่ไม่รับรู้ถึงความลำบากประชาชน พรรคเพื่อไทยไม่มีทางไปร่วมมือแน่นอน" นพ.ชลน่านกล่าว 
    นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีที่มีชื่อของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม อาจจะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ในส่วนของนายอนุทิน เรามั่นใจอยู่แล้วว่าไม่ได้ทำอะไรผิดจากตำแหน่ง สามารถตอบได้ทุกข้อ เพราะมีความสุจริตและทุ่มเททำงานเป็นตัวตั้ง สำหรับนายศักดิ์สยาม ถ้าปรากฏว่าเป็นเรื่องที่เคยยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจไปแล้ว แล้วนำมายื่นซ้ำอีก ก็ขอให้ระมัดระวังให้ดี เพราะเป็นเรื่องที่เคยผ่านการลงมติไปแล้ว ดังนั้นขอให้ฝ่ายค้านพิจารณาให้ดี ขอให้ทำตามข้อบังคับและกฎหมาย อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าประธานสภาฯ จะพิจารณาด้วยความรอบคอบในการบรรจุญัตติดังกล่าวเป็นเข้าสู่วาระการประชุม
    นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี และรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส.ลพบุรี เพื่อไทย และ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ระบุว่าหากนายกฯ ไม่ใช่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทางพรรคเพื่อไทยสามารถร่วมงานการเมืองกับพรรค พปชร.ในอนาคตได้ว่า การเมืองเป็นไปได้หมด ถ้าคิดว่าร่วมกันแล้วบ้านเมืองจะเดินหน้าไปได้ดี ก็ร่วมกันก็ได้  เพราะตนก็ได้ยินมาว่าเขามีแผนจะร่วมกันอยู่ในสมัยที่ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯเลย แต่ไม่รู้ว่าเท็จจริงเป็นอย่างไร ซึ่งอะไรที่คิดว่าทำแล้วบ้านเมืองได้ประโยชน์สามารถเดินหน้าไปได้ก็ทำเลย แต่ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ยืนยันว่าเราไม่ลาออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเองแน่นอน เพราะไม่อยากให้เกิดปัญหาบ้านเมืองวุ่นวายในช่วงที่ประเทศกำลังเผชิญกับวิกฤติโควิด-19 แบบนี้
    เมื่อถามถึงความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมรับมือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายชาดากล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันภายในพรรค แต่เราก็ไม่หวั่น เพราะคราวที่แล้วนายอนุทินและนายศักดิ์สยามก็โดน หากจะโดนครั้งนี้อีกก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่อาจจะเป็นการปล่อยข่าว วันนี้เราควรทำหน้าที่ของตัวเองให้สมบูรณ์ก่อน และพรรคเพื่อไทยควรทำหน้าที่ฝ่ายค้านให้สมบูรณ์ และขอให้สามัคคีกันไว้
    นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.เขต 2 จ.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า จากกรณีที่ตนแสดงความคิดเห็นเป็นข้อเสนอต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรื่องการปรับสลับตำแหน่งรัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั้น ขอยืนยันว่าเป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตัว ในฐานะของผู้แทนประชาชน ไม่ใช่การแสดงความคิดเห็นในนามของพรรค พปชร. หรือมีกลุ่มบุคคล หรือบุคคลใดอยู่เบื้องหลังแต่อย่างใด การนำเสนอความคิดเห็นส่วนตัวดังกล่าว อาจทำให้ผู้หลักผู้ใหญ่ในทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นทั้งในพรรค พปชร.และพรรคการเมืองอื่นๆ เกิดความรู้สึกไม่สบายใจ ตนต้องกราบขออภัยอย่างสูง มา ณ ที่นี้ด้วย 
    "การออกมาแสดงความคิดเห็นส่วนตัวในครั้งนี้นั้น ก็เพื่อผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนคนไทย ในวันนี้ที่พี่น้องประชาชนกำลังเผชิญกับการแพร่รระบาดของโควิด-19 และต้องประสบกับปัญหาต่างๆ ที่เป็นผลกระทบมาจากการแพร่ระบาดนั้น ดังนั้นเพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบในกรณีนี้ ซึ่งทำให้หลายฝ่ายไม่สบายใจ และกระทบกระเทือนถึงพรรคพลังประชารัฐ ผมจึงขอลาออกจากตำแหน่งรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ และตำแหน่งเลขาธิการภาค 8 พรรคพลังประชารัฐ" นายสัณหพจน์กล่าว 
    นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โพสต์เฟซบุ๊กว่า ช่วงที่ดำรงตำแหน่งนายกฯ คุณพ่อผมให้ความสำคัญกับการชี้แจงข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องให้กับพี่น้องประชาชนเสมอจะเห็นได้จากรายการ "นายกทักษิณฯ คุยกับประชาชน" นอกจากข้อมูลที่ชัดเจนจะถูกสื่อสารตรงไปถึงพี่น้องประชาชนโดยตรงแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่คุณพ่อให้ความสำคัญไม่แพ้กันคือ “การรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น” โดยคุณพ่อจะจริงจังในเรื่องการรับฟังเสมอ คุณพ่อเคยรับสายโทรศัพท์ที่โทรเข้ามาร้องทุกข์ด้วยตัวเอง 
    ภาพที่ผมได้นำมาลงนี้ เป็นภาพที่ตัวผมและน้องๆ ได้เห็นมาตลอด ทั้งภาพเบื้องหลังการเตรียมตัว และการเดินทางไปเพื่อสื่อสารกับพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการไปคุยกับกลุ่มประชาชนที่ประสบปัญหาในท้องถิ่นต่างๆ จนถึงการเตรียมข้อมูลเพื่อที่จะพูดคุยในคลับเฮาส์ ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่คนรุ่นใหม่นิยมใช้ในการสื่อสารแบบ Two Way Communication
     มาช่วงนี้ถึงแม้ไม่ได้มีตำแหน่งอะไร แต่เมื่อประเทศชาติเกิดวิกฤติ คุณพ่อผมซึ่งอัพเดตตัวเอง โดยเรียนรู้วิทยาการใหม่ๆ ในโลกตลอดเวลา ก็อยากที่จะนำความรู้และวิทยาการสมัยใหม่ต่างๆ มานำเสนอให้กับประเทศไทย ซึ่งน่าจะเป็นทางออกที่ทำให้วิกฤติปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นสามารถบรรเทาเบาบางลงได้     
    ดังนั้นเพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเข้ามาพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคุณพ่อได้ คุณพ่อผมเตรียมเปิดพื้นที่ให้กับพี่น้องได้มาแลกเปลี่ยนความคิด มุมมอง ให้ข้อเสนอแนะ และร่วมกันหาทางออกให้กับประเทศไทยกับการสื่อสารช่องทางใหม่ เตรียมพบกับ #THAKSINOFFICIAL เร็วๆ นี้ครับ.