รายงานIPCCของยูเอ็นเตือนภาวะโลกร้อนวิกฤติเร็วกว่าที่คิด


เพิ่มเพื่อน    

คณะกรรมการโลกร้อนของยูเอ็นเปิดเผยรายงานประเมินการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเมื่อวันจันทร์ เตือนโลกกำลังจะเผชิญสภาพการณ์เลวร้ายในอนาคตอันใกล้กว่าที่คาดคิด ระบุอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกจะเพิ่มขึ้น 1.5 องศาเซลเซียสเหนือระดับเฉลี่ยก่อนยุคอุตสาหกรรมภายในปี 2543 เร็วกว่าที่เคยทำนายไว้ 1 ทศวรรษอย่างเลี่ยงไม่ได้ และมนุษย์คือตัวการอย่างชัดเจน

    รอยเตอร์และเอเอฟพีกล่าวว่า รายงานของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ไอพีซีซี) ในสังกัดองค์การสหประชาชาติเผยแพร่เมื่อวันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม มีออกมาล่วงหน้า 90 วันก่อนการประชุมสุดยอดว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของยูเอ็นที่เมืองกลาสโกว์ของสกอตแลนด์ ที่รัฐบาลประเทศต่างๆ จะถูกกดดันให้ทุ่มเทความพยายามมากขึ้นในการแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนและสนับสนุนด้านเงินทุน เพื่อควบคุมอุณหภูมิไม่ให้เกินขีดกำหนด 1.5 องศาให้นานที่สุด

    รายงานฉบับนี้ใช้เวลารวบรวมวิเคราะห์ผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์มากกว่า 14,000 ฉบับเป็นเวลานานหลายปี และผ่านการตรวจทานและเห็นชอบจาก 195 ประเทศ ให้ภาพที่ครอบคลุมและมีรายละเอียดมากที่สุดแล้วว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังเปลี่ยนโลกธรรมชาติอย่างไร และอะไรรอมนุษยชาติอยู่ข้างหน้า

    นักวิทยาศาสตร์กล่าวเตือนในรายงานว่า ระดับก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศสูงเพียงพอที่จะรับประกันจุดแตกหักของสภาพภูมิอากาศภายในไม่กี่ทศวรรษ หากมิใช่ในหลายศตวรรษข้างหน้า และผลกระทบจากภาวะโลกร้อนก็เกิดให้เห็นแล้วในยุคปัจจุบัน ทั้งคลื่นความร้อน, พายุเฮอริเคนที่ทรงพลัง และสภาพอากาศสุดขั้วต่างๆ ที่เป็นไปได้ว่าจะรุนแรงเพิ่มขึ้นด้วย

    อันโตนีโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็น กล่าวว่า รายงานฉบับนี้เป็น "รหัสเตือนภัยระดับสูงสุดสำหรับมนุษยชาติ" ถือเป็นกริ่งสัญญาณเตือนที่ดังหูดับ และเป็นตะปูตอกฝาโลงสำหรับพลังงานจากถ่านหินและเชื้อเพลิงฟอสซิล ก่อนที่พวกมันจะทำลายโลกใบนี้

    ขีดกำหนด 1.5 องศาเซลเซียสจะมาถึงก่อนหน้าที่เคยคาดการณ์ไว้ 10 ปี หรือภายในปี 2573 นี้แล้วที่โลกจะมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงกว่าช่วงก่อนยุคอุตสาหกรรม 1.5 องศาเซลเซียส เว้นเสียแต่จะมีการดำเนินการขนาดใหญ่อย่างรวดเร็วและทันที เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

    ไอพีซีซีระบุว่า การปล่อยก๊าซเรือนกระจกนั้น "เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์อย่างชัดแจ้ง" และทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกปัจจุบันสูงกว่าของยุคก่อนอุตสาหกรรมแล้ว 1.1 องศาเซลเซียส และจะทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยสูงกว่านี้อีก 0.5 องศาเซลเซียส ถ้าไม่การลดผลกระทบจากมลภาวะในชั้นบรรยากาศ

    นักวิทยาศาสตร์กล่าวเตือนกันว่า โลกที่ร้อนขึ้น 1.5 องศา อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ควบคุมไม่ได้ซึ่งก่อผลลัพธ์ขั้นหายนะ เช่น อากาศร้อนถึงขั้นที่ปลูกพืชผลไม่ได้ หรือคนสามารถตายได้เพียงแค่ออกไปอยู่กลางแจ้ง

    อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นทุกๆ 0.5 องศา จะเพิ่มความรุนแรงและความถี่ของความร้อนสุดขั้วและปริมาณน้ำฝนที่ตกหนัก รวมไปถึงความแห้งแล้งในบางภูมิภาค และเนื่องจากอุณหภูมิมีความผันผวนทุกปี นักวิทยาศาสตร์จึงใช้มาตรวัดภาวะโลกร้อนด้วยค่าเฉลี่ยทุก 20 ปี

    รายงานบอกอีกว่า ถึงแม้ภาวะโลกร้อนจะถูกชะลอไว้ได้ แต่เวลาก็ใกล้จะหมดลงแล้ว ถ้าโลกเราลดการปล่อยก๊าซลงได้อย่างฮวบฮาบ อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกก็จะยังคงเพิ่มขึ้น 1.5 องศาภายในปี 2583 และอาจถึง 1.6 องศา ภายในปี 2603 แต่หากไม่มีการลดการปล่อยก๊าซฯ แล้วยังปล่อยให้เป็นไปตามที่คาดการณ์ โลกเราจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น 2.0 องศาภายในปี 2603 และ 2.7 องศาภายในสิ้นศตวรรษนี้.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"