9 ส.ค.64 - น.อ.ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน อายุ 61 ปี อดีตศูนย์หน้านักฟุตบอลทีมชาติไทยชื่อดัง เจ้าของฉายา "เพชรฆาตหน้าหยก" และนายพงษ์พิสุทธิ์ ผิวอ่อน หรือ แตงโม อายุ 35 ปี บุตรชาย พร้อมทนายความ เดินทางมาเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายทรงชัย พัฒนศิลาพร อายุ 35 ปี ชาวกทม. เป็นจำเลยในความผิดฐานกระทำผิดเกี่ยวกับพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ, หมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณาให้ได้รับความเสียหาย กรณีที่นายทรงชัย โพสต์ข้อความลงในเพจฟุตบอลทีมชาติไทย ประเด็นที่โจทก์เคยเป็นอดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย แล้วมีเรื่องราวเกี่ยวกับการ "ล้มบอล" ซึ่งเป็นความเท็จ
สำหรับคำฟ้องโจทก์ สรุปว่า เมื่อระหว่างต้นเดือน ส.ค. 2564 ถึงวันที่ 3 ส.ค. 2564 นายทรงชัยใช้บัญชีเฟซบุ๊ก ชื่อ"Songchai Pattarasilapom" (Sta boy) โพสต์ข้อความเปิดเป็นสาธารณะให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงทำนองว่า “ไม่เอาปิยะพงษ์ แน่นอน ได้แชมป์ไทยลีก ตอนคุมทีมสโมสรทหารอากาศ ถ้าไม่มีเรื่อง(ล้มบอล).....ก็ไม่ได้หรอก ” ซึ่งล้วนเป็นเท็จ ทำให้ประชาชนหรือบุคคลทั่วไปเข้าใจว่า โจทก์เป็นบุคคลที่มีเรื่องเสื่อมเสียในวงการฟุตบอลของประเทศไทย โจทก์ไม่มีความสามารถและเหมาะสมที่จะเป็นโค้ชหรือผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทย ซึ่งข้อความดังกล่าว โจทก์ไม่เคยเกี่ยวข้องหรือมีพฤติการณ์ในการล้มบอลที่จำเลยกล่าวอ้าง และภายหลังที่จำเลยโพสต์ข้อความดังกล่าวแล้ว ได้มีประชาชนทั่วไปส่งข้อความเข้ามาสอบถามถึงเรื่องที่จำเลยโพสต์กล่าวอ้างในเพจนั้นว่าความจริงเป็นอย่างไร ทำให้เกิดความเสียหายแก่วงการฟุตบอลของไทยรวมทั้งตัวโจทก์เองที่ได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ชื่อเสียงของโจทก์ที่กระทำมาตลอดที่เป็นนักฟุตบอลทีมชาติไทย
เหตุเกิดที่แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม.และทั่วราชอาณาจักร โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิดด้วย
ศาลรับคำฟ้องไว้พิจารณาเป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.1873/2564 และนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์วันที่ 15 พ.ย.เวลา13.30 น.
โดย น.อ.ปิยพงษ์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่า เรื่องนี้เนื่องจากแตงโม บุตรชายไปเห็นข้อความในเพจฟุตบอลซึ่งมีข้อความที่ไม่น่ารัก เขาก็เลยอยากจะปกป้องศักดิ์ศรี แต่ตนนั้นไม่ได้ติดใจอะไร เพราะเลยเวลาแล้ว อายุเยอะแล้ว ก็แค่มาเซ็นต์เป็นตัวแทนให้กับทนายความ และแตงโม ที่อยากจะปกป้องศักดิ์ศรีในเรื่องที่เขาต้องการเท่านั้นเอง
ด้านนายพงษ์พิสุทธิ์ กล่าวว่า จริงๆ แล้วคุณพ่อเป็นคนสบายๆ ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ส่วนตัวแตงโมนั้น ยุคที่คุณพ่อเล่นฟุตบอลก็เจอเรื่องราวแบบนี้มาตลอดระยะเวลาเกือบ 30 ปี รู้สึกว่าเรื่องราวผ่านมานานแล้ว คุณพ่อก็เป็นคนที่สร้างชื่อเสียงและรับใช้ประเทศชาติ ก็ไม่อยากให้ใครกล่าวให้ร้ายคุณพ่อ สมัยเป็นเด็ก เจอเรื่องราวแบบนี้มาเยอะแล้ว แต่ทำอะไรไม่ได้ เจอเพื่อนล้อ เพื่อนว่า และโดนเพื่อนบูลลี่ แต่ตอนนี้เมื่อโตแล้วก็ทราบขั้นตอนว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร จึงขอใช้สิทธิทางกฎหมาย
“เพราะเรื่องราวเหล่านี้ไม่มีใครอยากให้คนมาต่อว่าคุณพ่อของผม ตลอด 30 ปี จริงๆ แล้วเนี่ย ถ้าถามว่าคุณพ่อเคยเจอเยอะไหม ผมว่า เป็นหมื่นเคส แต่ว่าก็มีคนส่งข้อความ โทรมาขอโทษผมเยอะมาก หลังจากที่ผมโพสต์อันนี้ออกไป ซึ่งผมก็บอกว่าไม่เป็นไร เพราะเราก็ไม่ได้จะไปฟ้องทุกคน แต่ฟ้องเพียงคนเดียวถือว่าน้อยมาก เพื่อให้เป็นตัวอย่างว่าอย่าไปทำแบบนี้กับใคร จริงๆ คุณพ่อไม่ได้ติดใจอะไร แต่ตัวผมในฐานะเป็นลูกถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ชีวิตผมจะต้องอยู่กับตรงนี้อีกนาน” นายพงษ์พิสุทธิ์ กล่าวและว่า ข้อความที่เขาโพสต์นั้น ปรากฏในกลุ่มเพจเกี่ยวกับฟุตบอลทีมชาติไทยที่มีผู้ติดตาม 7-8 แสนคน ซึ่งมีประชาชนที่เห็นข้อความเยอะ ทำให้กระทบกับคุณพ่อ ส่วนเรื่องค่าเสียหายจะให้ทนายความดำเนินการต่อไป อาจจะต้องดำเนินการฟ้องแพ่งด้วย.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |