9 ส.ค. 2564 นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า อคส.ได้ร่วมมือกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เร่งสั่งซื้อมังคุดจากเกษตรกรในจังหวัดชุมพร และนครศรีธรรมราช ปริมาณ 20 ตัน ในราคานำตลาดที่กิโลกรัม (กก.) ละ 12 บาท เพื่อจัดส่งให้กับกรมราชทัณฑ์ ภายใต้โครงการจัดส่งข้าวสาร และเครื่องบริโภค ที่ อคส. ได้ทำสัญญากับกรมราชทัณฑ์ เพื่อใช้ปรุงอาหารเลี้ยงผู้ต้องขังในเรือนจำทั่วประเทศ ซึ่งจะช่วยระบายผลผลิตออกนอกพื้นที่ และดึงให้ราคาปรับตัวขึ้น

“ตอนนี้ มังคุดภาคใต้ล้นตลาด เพราะไม่มีล้งเข้าไปรับซื้อ จากปัญหาโควิด-19 และไม่มีแรงงานเก็บ ทำให้ราคาตกต่ำ และชาวสวนเดือดร้อนมาก กระทรวงพาณิชย์ จึงได้เร่งแก้ปัญหา และช่วยเหลือเกษตรกร โดยหนึ่งในนั้น คือ การให้ อคส. รับซื้อจากเกษตรกร แล้วนำไปส่งให้กรมราชทัณฑ์ เบื้องต้นได้ซื้อแล้ว 20 ตัน คาดว่า จะสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอีก จากเป้าหมายที่รัฐจะช่วยดึงผลผลิตออกจากพื้นที่ 200 ตัน”

สำหรับโครงการจัดส่งข้าวสารและเครื่องบริโภคให้กับกรมราชทัณฑ์นั้น เป็นส่วนหนึ่งในการหารายได้ของ อคส. ที่ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปีงบประมาณ 2555 จนถึงปัจจุบัน คิดเป็นมูลค่าโครงการรวม 6,453 ล้านบาท โดยโครงการล่าสุด ปีงบประมาณ 2564 มีวงเงินรวมประมาณ 800 และภายใต้โครงการนี้ อคส.ได้หารือกับกรมราชทัณฑ์ เพื่อปรับปรุงรายการสินค้าที่ อคส. จะจัดส่งให้ โดยได้ปรับปรุงบัญชีผลไม้ตามฤดูกาลให้ครอบคลุมผลไม้ที่มีราคาตกต่ำ รวมถึง มังคุด เงาะ ลองกอง และลำไยด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า ขณะนี้ ผลผลิตมังคุดภาคใต้ทยอยออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่มีล้ง (ผู้รวบรวม คัดแยก บรรจุ และส่งออก) เข้าไปรับซื้อในพื้นที่ เพราะติดปัญหาโควิด-19 บางจังหวัดภาคใต้ มีการล็อกดาวน์ และบางจังหวัด คนนอกพื้นที่ต้องกักตัว 14 วันก่อนเข้าพื้นที่ อีกทั้งไม่มีแรงงานเก็บมังคุด ทำให้มังคุดเน่าเสียหาย และราคาตกต่ำ ส่งผลให้หน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาล ทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ หาแนวทางช่วยเหลือ ทั้งประสานผู้ว่าราชการจงหวัดอนุญาตให้ล้งและแรงงานต่างด้าวจากภาคตะวันออกเข้าไปรับซื้อและเก็บมังคุด รณรงค์บริโภคมังคุด ขอความร่วมมือให้สถานีบริการน้ำมันเปิดพื้นที่ให้เกษตรกรนำผลผลิตมาขาย ขอความร่วมมือแพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ ขายมังคุดของเกษตรกร รวมถึงหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน ช่วยกันซื้อมากขึ้น

ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์ได้เร่งแก้ปัญหาการส่งออกไปจีน โดยเจรจากับทางการจีนให้ช่วยอำนวยความสะดวกให้มังคุดไทย และผลไม้อื่นๆ ผ่านด่านโหย่วอี้กวนได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น หลังจากที่ผ่านมา การจราจรหน้าด่านแออัด ทำให้รถบรรทุกสินค้าตกค้างจำนวนมาก และใช้เวลาหลายวันกว่าจะผ่านด่านได้ และยังมีการผลักดันให้เปลี่ยนไปใช้ด่านอื่นๆ เพื่อส่งออกมังคุดไปจีนด้วย ซึ่งล่าสุด การส่งออกคล่องตัวมากขึ้นแล้ว แต่การแก้ปัญหาดังกล่าว ยังไม่ทำให้ราคามังคุดภาคใต้ขยับขึ้นได้มากนัก บางพื้นที่ ที่ล้งยังเข้าไปไม่ถึง เช่น พังงา ราคาหน้าสวนอยู่ที่ กก.ละ 2-4 บาท ส่วนพื้นที่รับซื้อแหล่งใหญ่ อย่างชุมพร นครศรีธรรมราช กก.ละ 6-8 บาท ซึ่งเกษตรกรขาดทุนหนัก เพราะต้องเสียค่าจ้างแรงงานเก็บในราคาสูงมาก เช่น กก.ละ 10 บาท หรือเกษตรกรบางรายขายผลผลิตได้ 8,000 บาท แต่ได้จริงเพียง 500 บาท ที่เหลือเป็นค่าจ้างแรงงาน หากล้งยังเข้าไปรับซื้อไม่ได้ หรือเข้าไปได้น้อยราย คาดว่า ราคาจะลดลงมากกว่านี้ และผลผลิตจะเสียหายอีกมาก