ชาวเมียนมาใช้ช่องทางออนไลน์นัดชุมนุมแฟลชม็อบชู 8 นิ้วในเมืองย่างกุ้งและมัณฑะเลย์เมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม เพื่อรำลึกวันครบรอบการลุกฮือเรียกร้องประชาธิปไตยครั้งใหญ่เมื่อปี 1988 ที่นำไปสู่การโดนกองทัพปราบปรามอย่างนองเลือด

แฟ้มภาพ ผู้ประท้วงชูธงพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยของนางอองซาน ซูจี ขณะชุมนุมรำลึกครบ 20 ปีเหตุการณ์ 8888 ที่หน้าสถานทูตพม่าในกรุงลอนดอน เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2551 (Tim Ireland - PA Images/PA Images via Getty Images)

    เหตุการณ์ในครั้งนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของการขึ้นมามีบทบาทเป็นผู้นำเรียกร้องประชาธิปไตยในเมียนมาของนางอองซาน ซูจี ในปี พ.ศ. 2531 จนกระทั่งนางได้ขึ้นเป็นผู้นำรัฐบาลพลเรือนโดยพฤตินัยภายหลังกองทัพยอมคายอำนาจปกครองที่กุมมานานเกือบครึ่งศตวรรษในปี 2554 แต่สุดท้ายผู้นำทหารก็กลับมายึดอำนาจอีกครั้งเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่่ผ่านมา

    ในวันครบรอบ 8888 เมื่อวันอาทิตย์ ชาวเมียนมาจัดแฟลชม็อบประท้วงท้าทายรัฐบาลทหารทั่วนครย่างกุ้งและเมืองมัณฑะเลย์ ที่่มีขนาดใหญ่อันดับสองของประเทศ เพื่อรำลึกเหตุการณ์นี้ ผู้ประท้วงซึ่งมารวมตัวกันตามการรณรงค์ทางออนไลน์ พร้อมใจกันแต่งกายสีแดงและชู 8 นิ้ว บางคนถือป้ายข้อความว่า "จงจ่ายคืนหนี้เลือดเก่าของปี 2531 ในปี 2564"

    ขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตยของนักศึกษา, ประชาชน และพระภิกษุ ที่ลุกฮือชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลเผด็จการทหารเมียนมาในวันที่ 8 สิงหาคม 2531 นำไปสู่การโดนกองทัพปราบปรามอย่างรุนแรงด้วยกระสุนปืนทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก และจับกุมคุมขังผู้ประท้วงหลายพันคน

    โก ไซ วิน ที่เข้าร่วมประท้วงในเมืองมัณฑะเลย์เช้าวันอาทิตย์ กล่าวกับเอเอฟพีว่า ปี 2531 คนในประเทศของเราสังเวยชีวิตจำนวนมาก แต่เผด็จการยังดำรงอยู่ถึงปัจจุบัน เหมือนเงาดำที่ทาบทับประเทศของเรา

    ด้านรัฐบาลเงา "รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ" (เอ็นยูจี) ปฏิญาณผ่านแถลงการณ์ในวันเดียวกันว่า พวกเขาจะยังคงต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยต่อไป

    ปีเตอร์ วาวล์ส์ เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำเมียนมา โพสต์วิดีโอในทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการของสถานทูตอังกฤษ แสดงความสนับสนุนขบวนการต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมาว่า สหราชอาณาจักรยืนเคียงข้างประชาชนชาวเมียนมาในปี 2531 และวันนี้เรายังคงยืนเคียงข้างพวกเขาในปี 2564

    ทางการเมียนมาเพิ่มมาตรการรักษาความมั่นคงเนื่องในวันครบรอบเหตุการณ์ลุกฮือปี 2531 ซึ่งถือว่าเป็นการท้าทายระบอบทหารครั้งสำคัญที่สุดของเมียนมา

    แถลงการณ์ของคณะทำงานประชาสัมพันธ์ของรัฐบาลทหารเมื่อวันอาทิตย์เผยด้วยว่า เจ้าหน้าที่จับกุมชาย 2 คนได้ที่เมืองมัณฑะเลย์ พร้อมกับยึดคลังอาวุธ ที่ประกอบด้วย ปืนหลายกระบอก, กระสุนมากกว่า 10,000 นัด และระเบิดมากกว่า 160 ลูกรวมถึงระเบิดมือ คำแถลงกล่าวหาเอ็นยูจีด้วยว่าลักลอบนำอาวุธเข้ามาเพื่อสร้างความรุนแรงเพิ่มขึ้นในประเทศ.