8 ส.ค.64-ที่สภ.คคลองห้า จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน,นายสิริชัย นาถึง และนายพรหมศร วีระธรรมจารี แกนนำกลุ่มราษฎรมาสอบปากคำเพิ่มเติม ภายหลังที่ทั้งหมดเข้ามอบตัวตามหายจับของ สภ.คอลงห้า ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดบบรรยากาศที่หน้า สภ.คลองห้า ได้มีมวลชนตามมาให้กำลังใจแกนนำที่ถูกจับ แต่ไม่สามารถเข้าไปยังบริเวณอาคารของสถานีตำรวจได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนได้ตั้งแนวพร้อมแผงเหล็กลวดหนามหีบเพลงไม่หผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปด้านใน

นางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ มารดาของเพนกวิน ที่ติดตามมาดูแลลูกชายกล่าวว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่นำตัวเพนกวินมาที่ สภ.คลองห้า และจะนำตัวทั้งหมดไปที่ บก.ตชด.ภ.1 เพนกวินฝากบอกว่าให้ช่วยจับตาดูแลความปลอดภัยของเขา อย่างเช่นน้องนัช นายณัชนนท์ ไพโรจน์ ทำไมไม่เอาตัวไปพร้อมกัน ทั้งที่เขาก็เดินทางเพื่อไปมอบตัวที่ สตช.แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่หิ้วตัวไปไว้ที่ ตชด.ภ.1 และในสำนวนการตำรวจเขียนว่าเด็กมีพฤติการณ์หลบหนี ทั้งที่เขาเดินทางไปมอบตัวด้วยตัวเอง และยังจะเอาตัวทั้งหมดไปสอบสวนที่ ตชด.ทั้งที่มาถึงที่ สภ.คอลงห้าแล้ว ไม่รู้มีอะไรที่แฝงอยู่ข้างในหรือเปล่า เพนกวินจึงฝากให้ทุกคนจับตาดูความปลอดภัย และที่ ตชด.ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น แต่แม่จะเองจะเข้าไปด้วยถึงแม้จะไม่ให้เข้าแม่ก็จะเข้าไปดูแลเด็กๆทุกคนทุกคนเหมือนลูกเรา

"เด็กไม่ได้มีเขี้ยวเล็บหรือเหลี่ยมไม่รู้ตำรากฎหมายของตำรวจ อย่างที่เด็กไไปมอบตัวเองกลับเขียนในสำนวนว่ามีการหลบหนี ยืนยันว่าเด็กไม่ได้หลบหนีเด็กอยู่กับแม่ตลอด ไม่มีเจตนาหลบหนีเพื่อมอบตัวแสดงเจตนาสุจริตไม่ได้กระทำความผิด ยินดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมที่ถูกต้อง แต่เราต้องการความปอดภัยและความยุติธรรมให้กับเด็ก เด็กอยู่ด้วยกัน 3 คน ไม่รู้เรื่องอะไรเลยเด็กไม่รู้เรื่องจริงๆ จริงๆเพนกวินจะอยู่ที่นี้แต่เมื่อรู้ว่าณัชนนท์ ถูกควบคุมที่ ตชด.จึงยอมที่จะไปที่โน้นด้วยเพราะว่าห่วงเพื่อน"  

ต่อมาเวลา 17.15 น.เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายเพนกวิน พร้อมพวกไปสอบสวนต่อที่ บก.ตชด.ภ.1  ขณะเดียวกันมวลชนได้ติดตามไปที่ บก.ตชด. ขณะที่มาตรการรักษาความปลอดภัยหน้าประตูทางเข้า ตชด.ภ.1 ได้มีตำรวจควบคุมฝูงชน 1 กองร้อย พร้อมแนวลวดหนามหีบเพลงและแผงเหล็กเป็นแนวกั้นไม่ให้มวลชนเข้าไป

อย่างไรก็ดี มวลชนบางส่วนได้ปาสิ่งของอย่างเช่นขวดน้ำใส่เจ้าหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประกาศผ่านรถขยายเสียงให้หยุดการกระทำหรือการยั่วยุ แต่ผู้ชุมนุมประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงว่า “การกระทำแค่นี้ไม่เทียบเท่ากับการยิงแก็สน้ำตาและกระสุนยางใส่กลุ่มผู้ชุมนุม ให้กลับไปบอกนายของมึง พวกกูไม่ใช่ทาสมึง เจอกันอีกทีวันที่ 10 ส.ค.นี้”