งวดเข้ามาทุกที การแต่งตั้ง "สีกากี" ระดับ "นายพล" วาระประจำปี 2564 ตามกฎ ตามระเบียบ ต้องเสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 สิงหาคมของทุกปี
    ตอนนี้ต้องเรียกว่าทุกอย่างพร้อมแล้ว!!!
    หลังจากเมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา วงประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ที่ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นั่งหัวโต๊ะประธาน ก.ตร. ประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากทำเนียบรัฐบาล มายังห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สํานักงานตํารวจแห่งชาติ ตามด้วยประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) วันเดียวกัน
    ไฟเขียว เปิดตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญ (สบ 8) เทียบเท่า ผบช. 1 ตำแหน่ง และผู้เชี่ยวชาญ (สบ 7) เทียบเท่ารอง ผบช. 1 ตำแหน่ง ให้กับสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน และกำหนดตำแหน่ง นายแพทย์ (สบ 7) เทียบเท่า รอง ผบช. 5 ตำแหน่ง และทันตแพทย์ (สบ 6) เทียบเท่า ผบก. 3 ตำแหน่ง ให้กับหน่วยงาน รพ.ตร.
    ไฟเขียว เปิดตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. (เฉพาะตัว) เพิ่มขึ้นมา 1 ตำแหน่ง รองรับคำสั่งศาลปกครองกลาง ที่ให้ทุเลากรณีของ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. 
    ไฟเขียว ยืนยันตำแหน่ง "ที่ปรึกษา (สบ 9)" ของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล แม้จะถูกเปิดขึ้นมาเป็นตำแหน่งเฉพาะตัว แต่ไม่ได้ปิดกั้นการเจริญก้าวหน้าในตำแหน่งใดๆ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้
    ต่อไปก็ถึงคิวคลอดคำสั่งแต่งตั้ง "นายพล" ตำแหน่ง "รอง ผบ.ตร.-ผบก." ยศ "พล.ต.อ.-พล.ต.ต." ทั่วประเทศ วาระประจำปี 2564 
    ตามคาดว่าไม่น่าจะเกินวันที่ 25 สิงหาคม หรือบวกลบก็ไม่น่าจะเกิน 3-4 วัน 
    แต่...ดูเหมือนว่ายิ่งใกล้คำสั่งแต่งตั้ง "นายพล" คลอด ฝุ่นก็ยิ่งคละคลุ้ง "กรมมทุมวัน" เพราะยิ่งมีโผแต่งตั้งแพลมๆ ออกมามากเท่าไหร่ "นักวิ่ง" ที่พลาดหวังก็ยิ่งต้องทิ้งโค้งสุดท้าย งัดทุกขุมกำลังที่มีอยู่ออกมาใช้กันแบบสุดลิ่มทิ่มประตู
    ที่บอกๆ กัน "โผนิ่งๆ" นั้นดูจะไม่ใช่ธรรมชาติ "ยุทธจักรโล่เงิน" ที่ตราบใดรายชื่อยังไม่คลอด คำสั่งยังไม่มีผล 
    ทุกอย่างเกิดขึ้นได้เสมอ!!!
    ตั้งแต่เก้าอี้ รอง ผบ.ตร.ที่ว่าง 2 ตำแหน่ง พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. คว้าโควตาอาวุโสไปแล้ว เหลือกลุ่มความรู้ ความสามารถ ถึงจะฟันธงเป็น พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้ช่วย ผบ.ตร. ก็ต้องไม่มองข้าม พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่จะเกษียณราชการปี 2565 
    เก้าอี้ "ผบช.น." ที่โค้งสุดท้ายมีชื่อ พล.ต.ต.สำราญ นวลมา รอง ผบช.น. นรต.50 คว้าแซงหน้า พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร จตร. (สบ 8) นรต.38 และ ตท.22 รุ่นเดียวกับ ผบ.ทบ. ที่ถูกวางเอาตั้งแต่ต้น ก็ต้องลุ้นก็ต้องตามดูจนสุดท้าย
    "ผบช.ภ.2" ที่มีชื่อ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. สาย ผบ.ตร. ได้นั่ง ผบช.ภ.2 เบียดจน พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. นรต.41 ต้องโยกไปเป็น ผบช.ภ.6 ก็ต้องลุ้นถึงฎีกา แม้ตำรวจภาค 6 จะพูดกันว่าจะมี นรต.41 มาเป็น ผบช. ก็ต้องไม่ลืมชื่อเดิมที่เคยแปะไว้อย่าง พล.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข รอง ผบช.ก. ก็ นรต.41
    "กรมปทุมวัน" คงต้องฝุ่นตลบไปจนถึงวันประชุมแต่งตั้ง "นายพล" ปีนี้แน่ๆ.