ปฏิรูปตำรวจฉบับ "ลุงตู่" ทำในสิ่งที่ทำได้ ก่อนขึงขังแต่งตั้งสีกากีต้องไม่มีทุจริตเรียกเงินทอง ยึดทั้งสัดส่วนอาวุโสและความเหมาะสม ต้องมีฟาสต์แทร็กด้วย เล็งรื้อโครงสร้างดีเอสไอ-พิสูจน์หลักฐานให้มีภารกิจชัดเจน ครม.ตีกลับปูนบำเหน็จ จนท.คสช.ให้ไปดูเรื่องความจำเป็นค่อยชงมาใหม่ ขณะที่ ทบ.อนุมัติซื้อ ฮ.โจมตีใหม่ 6 ลำทดแทน "คอบร้า" ก.ค.นี้ เริ่มกรรมวิธีคัดเลือกแบบสหรัฐ-ยุโรป-จีน-รัสเซีย เสนอขาย
ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ วันที่ 12 มิถุนายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ครม.สัญจร ว่าได้สั่งการในที่ประชุมถึงเรื่องการปฏิรูปตำรวจ 1 ปีที่ผ่านมา ทำในสิ่งที่ทำได้ก่อน ส่วนเรื่องการแต่งตั้ง ขอให้เกิดความชัดเจน ต้องไม่มีการทุจริตเรียกเงินเรียกทอง มันมีวิธีการอยู่ ตรงนี้ทหารเขาทำได้ ตำรวจก็ต้องทำได้ ฉะนั้นมันมีทั้ง 2 อย่างคือ จริงบ้างไม่จริงบ้าง บางอย่างก็ไม่บอกกัน บางอย่างก็อ้างกัน ฉะนั้นจะทำอย่างไรนั้นตนมอบหมายไปแล้ว
"การแต่งตั้งต้องเป็นธรรม ซึ่งมีสัดส่วนของมันอยู่ ทั้งเรื่องอาวุโสและความเหมาะสม ซึ่งต้องมีฟาสต์แทร็กขึ้นมาด้วย หากเอาความอาวุโสอย่างเดียวบางทีมันไม่ได้ ทหารก็เหมือนกัน บางทีเราอาวุโสอย่างเดียวมันก็อาจไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง ต้องเตรียมคนรุ่นใหม่ไว้พร้อมกัน ไม่เช่นนั้นความอาวุโสที่เท่ากัน เมื่อขึ้นมาแล้วเกษียณพร้อมกันหมด ไม่เกิดความต่อเนื่อง จึงต้องดูสัดส่วนตรงนี้ให้เหมาะสม"
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในเรื่องงานสอบสวน คงต้องดูแลส่วนนี้อยู่ ต้องมีกลไกเพื่อให้เกิดการประสานสอดคล้อง เมื่อรับเรื่องร้องเรียนเข้ามาแล้วไม่เป็นธรรมแล้วจะทำอย่างไร ในส่วนของการโอนหน้าที่ที่ไม่ใช่หน้าที่ของตำรวจโดยตรง เช่น ตำรวจรถไฟ ตำรวจจราจร แต่อย่าลืมว่าบางอย่างเราต้องใช้บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ อยู่ที่การบริหารจัดการว่าจะทำอย่างไรให้สิ่งที่เรามีอยู่แล้วทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การบริหารงานของจราจร ศูนย์ บก.02 ที่ดูแลการจราจรทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล เขามีอำนาจแค่ไหนอย่างไร จราจรพื้นที่เป็นอย่างไร สามารถสั่งการลงไปในพื้นที่ได้หรือไม่ในการที่จะระบายรถในพื้นที่ต่างๆ ไม่ใช่เขตนี้รถไม่ติด เขตหน้ารถติด
"ฉะนั้นจะหาโอกาสไปดูศูนย์ควบคุมการจราจร เพราะต้องมีบทบาทตรงนี้ให้มากขึ้น เราอาจจะแก้ปัญหาการจราจรให้ได้ผล เป็นเรื่องที่ผมให้ความสำคัญมาก ส่วนการก่อสร้างเส้นทางต่างๆ จำเป็นจะต้องก่อสร้างไป อาจทำให้เกิดรถติด ซึ่งทุกคนต้องเข้าใจปัญหา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องแก้ปัญหาให้ได้ เพื่อประชาชนเข้าใจว่าทำเต็มที่แล้ว แต่ถ้ายังทำไม่เต็มที่แล้วยังมีข้อสงสัยกันอยู่ ก็จะแก้ปัญหาอะไรไม่ได้"
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า การเจริญเติบโตของตำรวจและการปรับปรุงโครงสร้างของดีเอสไอ ว่าควรทำหน้าที่อะไร ในเมื่อตั้งขึ้นมาเพื่อทำคดีพิเศษ ไม่ใช่บางคดีไม่ให้ตำรวจทำ ตำรวจก็เอาไปให้ดีเอสไอทำ เพราะดีเอสไอตั้งมาเป็นหน่วยงานพิเศษ เหมือนสกอตแลนด์ยาร์ด หรือเอฟบีไอ จะทำอย่างไร ไม่ใช่ทางเลือก แต่มันเป็นหน้าที่หรือพันธกิจที่ต้องทำให้เกิดความชัดเจนขึ้น แล้วบุคลากรของดีเอสไอควรจะเป็นอย่างไร มาจากตำรวจทั้งหมดได้หรือไม่ มันก็ต้องลดสัดส่วนตรงนี้ลงไป เอาบุคคลภายนอกที่เรียนรู้เรื่องกฎหมายระหว่างประเทศหรืออะไรมาอยู่ในดีเอสไอ
"นี่คือเรื่องการปรับโครงสร้างตำรวจคร่าวๆ ยังคงอีกหลายเรื่อง เช่นการพิสูจน์หลักฐาน บางทีมันทำงานร่วมกันลำบาก ฉะนั้นควรจะต้องแยกแยะให้เกิดความชัดเจนหรือไม่ตรงไหน จะทำอะไรอย่างไรมันทำได้ ซึ่งก็อยู่ที่ความบริสุทธิ์ใจ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ทุกคน อันนี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลเป็นห่วง ผมได้ย้ำเตือนไปเเล้ว" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุม ครม. ถึงกรณีสำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (สลธ.คสช.) เสนอ ครม.พิจารณาอนุมัติบำเหน็จประจำปี 2 ขั้น นอกเหนือโควตาปกติให้เจ้าหน้าที่ใน คสช.ว่า ครม.ยังไม่อนุมัติในเรื่องดังกล่าว โดยให้ สลธ.คสช.ไปดูเรื่องของความจำเป็นของการทำงาน และเรื่องของจำนวนคนที่เสนอมา 600 นาย ที่ถือว่าลดลงมาเป็นลำดับ จากปีแรกที่มี 1,000 คน แต่นายกฯ บอกว่าควรลดได้มากกว่านี้ ให้ดูเท่าที่มีความจำเป็น ส่วนจะเสนอ ครม.กลับมาเมื่อไรนั้น ไม่มีกำหนดตายตัว ไม่ต้องรีบเร่ง เพราะครอบคลุมเวลาตั้งแต่ 1 ต.ค.60 จนถึงวันที่ 30 ก.ย.61
ที่ศูนย์การบินทหารบก (ศบบ.) พล.ต.วีรยุทธ อินทร์วร ผบ.ศูนย์การบินทหารบก (ศบบ.ทบ.) กล่าวว่า ปีงบประมาณ 2562 กองทัพบกมีโครงการจัดหาเฮลิคอปเตอร์เข้าประจำการ ทั้งแบบใช้งานทั่วไปและโจมตี ตามแผนพัฒนากองทัพ เพื่อทดแทนเฮลิคอปเตอร์เก่า (3 ลำ) ที่จะปลดประจำการ โดยพยายามจัดหาให้แบบน้อยลง เพราะเทคโนโลยีก้าวกระโดด พร้อมเลือกแบบที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด สอดคล้องกับงบประมาณที่เรามีอยู่ และพยายามเลือกสิ่งที่ดีตามนโยบายของ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ให้ไว้ว่าต้องจัดหายุทโธกรณ์ที่มีประสิทธิภาพและใช้งานได้จริง คุ้มค่า
ผบ.ศบบ.ทบ.กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการอนุมัติการจัดหาเฮลิคอปเตอร์โจมตีแทน ฮ.คอบร้า ที่กำลังจะปลดประจำการ อยู่ระหว่างขั้นตอนการคัดเลือกแบบ โดยกรกฎาคมนี้จะเริ่มเดินทางไปดูเฮลิคอปเตอร์แบบต่างๆ เพื่อรวมข้อมูลก่อนเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการคัดเลือกแบบ มีหลายประเทศที่เสนอมา ซึ่งเป็นแบบที่ทั่วโลกรู้จัก 4-5 แบบ แต่ละแบบมีความเหมาะสมกับการใช้งานที่แตกต่างกันไปแต่ละภูมิประเทศ ทั้งนี้ ความต้องการขั้นต่ำอยู่ที่ 6 เครื่อง โดยการพิจารณาว่าจะซื้อรุ่นไหน ก็ต้องเป็นไปตามภัยคุกคามของเราที่เปลี่ยนไปด้วย ต้องเป็นอากาศยานที่มีความเร็วมากขึ้น สมรรถนะที่ไกลมากขึ้น ระบบอาวุธวิธียิ่งที่แม่นมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเฮลิคอปเตอร์โจมตีที่ให้กองทัพบกพิจารณา เช่น MiG-28, KA-52 จากรัสเซีย AH-1Z viper, AH-64 apache จากสหรัฐ / Tiger-fฝรั่งเศส, AW-129 อิตาลี และ Z-11 จีน ขณะที่เฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป มี AW-101 และแบบต่างๆ อีกหลายบริษัทเสนอความต้องการเข้ามา
ผบ.ศูนย์การบินทหารบกกล่าวถึงความพร้อมของเฮลิคอปเตอร์ AW 149 หลังกรณีสำนักข่าวแห่งหนึ่งวิพากษ์วิจารณ์เครื่องไม่สามารถยกตัวขึ้นได้ว่า เมื่อ ศบบ.ได้รับอากาศยานดังกล่าวมาเรียบร้อยแล้ว ก็ได้ดำเนินการตรวจสอบความถูกต้อง รวมถึงองค์ประกอบต่างๆ ของอากาศยาน หลังจากนั้นจะต้องฝึกนักบิน ช่างเครื่อง และส่วนที่เกี่ยวข้องหลายส่วน เพราะมีรายละเอียดเป็นจำนวนมาก ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ ตามที่กองทัพบกได้จัดหามา พร้อมทั้งยืนยันอีกว่าเครื่องรุ่นนี้ไม่ได้เป็นไปตามสื่อบางสำนักวิพากษ์วิจารณ์ ทุกอย่างตรวจรับอย่างละเอียดทุกขั้นตอน ตั้งแต่รับเครื่องมา ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงชิ้นส่วนอะไรบางอย่าง เราต้องรู้ที่มาที่ไป หากเราไม่ละเอียด ก็จะเกิดปัญหาตามมาในอนาคต
“ทุกอย่างเรียบร้อย ไม่มีอะไร เมื่ออากาศยานเปลี่ยน เราต้องฝึกนักบินให้มีความพร้อม เพราะอากาศยานบางชนิดรูปร่างเหมือน แต่ระบบไม่เหมือน ก็ต้องฝึกนักบินเสมอ เพราะเทคนิคแต่ละเครื่องแตกต่างกัน ดังนั้นผมยืนยันว่านักบินของ ศบบ.ไม่มีปัญหา มีความพร้อมบินเสมอ” พล.ต.วีรยุทธกล่าว
เมื่อถามว่า จะดำเนินการอย่างไรกับสื่อบางสำนักที่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารบิดเบือน ผบ.ศบบ.กล่าวว่า “เรากำลังให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการพิจารณาว่าจะฟ้องร้องสื่อบางสำนัก เพราะเผยแพร่ข้อมูลที่บิดเบือน ทำให้ผมและกองทัพได้รับความเสียหาย”.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |