สมัชชาแห่งชาติของเวียดนามผ่านกฎหมายความมั่นคงทางไซเบอร์ ที่จะบังคับให้บริษัทอินเทอร์เน็ตจากทั่วโลก รวมถึงเฟซบุ๊กและกูเกิล ต้องเก็บข้อมูลผู้ใช้ที่ "สำคัญ" ไว้ในเวียดนาม และต้องลบโพสต์ที่เห็นว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของเวียดนามภายใน 24 ชั่วโมง
สมาชิกสมัชชาแห่งชาติเวียดนามประชุมเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2561 / AFP
สมัชชาแห่งชาติ หรือสภานิติบัญญัติของประเทศที่ปกครองโดยพรรคคอมมิวนิสต์พรรคเดียวแห่งนี้ ลงมติกันเมื่อวันอังคารที่ 12 มิถุนายน 2561 ผ่านร่างกฎหมายความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ด้วยคะแนนเห็นชอบถึง 91% โดยมี ส.ส.เพียง 15 คนจาก 466 คนในสภาตรายางแห่งนี้ที่ลงคะแนนคัดค้าน รัฐบาลเวียดนามประกาศว่ากฎหมายฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562
การลงมติเกิดขึ้น 1 วันภายหลังสมาชิกสภาแห่งเดียวกันตัดสินใจเลื่อนการพิจารณาผ่านร่างกฎหมายเขตเศรษฐกิจพิเศษ ที่จุดชนวนการประท้วงต่อต้านอย่างรุนแรงในหลายเมืองของเวียดนามเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ประท้วงไม่เห็นด้วยที่ร่างกฎหมายนี้จะอนุญาตให้นักลงทุนต่างชาติ ซึ่งพวกเขาเพ่งเล็งนักลงทุนจีนโดยเฉพาะ จะสามารถเช่าที่ดินในพื้นที่เหล่านั้นได้นานถึง 99 ปี แม้ต่อมารัฐบาลประกาศจะแก้ไขลดเวลาการเช่าลง
การชุมนุมประท้วงของคนหลายพันพร้อมกันในหลายเมืองเกิดจากการรณรงค์ผ่านทางโซเชียลมีเดียโดยเฉพาะเฟซบุ๊ก ในการประท้วงเมื่อวันอาทิตย์ ผู้ประท้วงบางคนกล่าวประณามกฎหมายความมั่นคงไซเบอร์ฉบับนี้ด้วย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญและนักเคลื่อนไหวมองว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและปราบปรามเสียงคัดค้านทางโลกออนไลน์
ภาพเมื่อวันที่ 10 มิถุุนายน 2561 ผู้ประท้วงเผารถจักรยานยนต์หน้าศาลากลางจังหวัดบิญถ่วน / AFP
รายงานเอเอฟพีกล่าวว่า บทบัญญัติในกฎหมายที่ส่งผลอย่างกว้างขวางนี้ กำหนดให้บริษัทอินเทอร์เน็ตต้องกำจัดโพสต์ที่เห็นว่าเป็นภัยคุกคาม "ความมั่นคงแห่งชาติ" ภายในเวลา 1 วัน และต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานบริการของพวกเขาไว้ภายในเวียดนาม
กฎหมายฉบับใหม่ยังห้ามเนื้อหาหรือสารที่กระตุ้นให้ประชาชนชุมนุมกัน หรือเนื้อหาที่ก้าวล่วงหรือฝ่าฝืนสารพันชนิดตั้งแต่ธงชาติ ไปจนถึงพวกผู้นำของประเทศและ "วีรบุรุษ" แต่ยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับบทลงโทษการฝ่าฝืนบทบัญญัติตามกฎหมายใหม่นี้
ด้านองค์กรสิทธิมนุษยชน แอมเนสตีอินเตอร์เนชันแนล วิจารณ์ว่ากฎหมายฉบับนี้ส่งผลกระทบรุนแรงต่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น โดยอนุญาตให้รัฐบังคับบริษัทเทคโนโลยีส่งมอบข้อมูลจำนวนมากมาย ซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคล และยังเซ็นเซอร์การโพสต์ของผู้ใช้งานได้ด้วย
ก่อนหน้านี้รัฐบาลสหรัฐและแคนาดาเรียกร้องให้เวียดนามชะลอการลงมติ และทบทวนกฎหมายนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าจะตรงตามมาตรฐานสากลและขจัดข้อวิตกที่ว่ากฎหมายนี้อาจทำร้ายนวัตกรรมด้านดิจิทัลในเวียดนาม ซึ่งมีผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียเป็นประจำถึง 55 ล้านคน จากประชากร 94 ล้านคน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |