ว่าด้วยเรื่องทรงผมและสันติภาพ


เพิ่มเพื่อน    

เห็นใครต่อใครเค้าออกอาการตื่นเต้น ฮือฮา กันอยู่พอสมควร สำหรับการพบปะ เจอหน้า เจอตา ระหว่าง “คิมน้อย” ผู้นำเกาหลีเหนือ กับ ทรัมป์บ้า ผู้นำอเมริกา ชนิดผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญ กูรู กูรู้ ออกมาวิเคราะห์ สังเคราะห์ กันยกใหญ่ ดังนั้น...แทนที่จะไปว่ากันเรื่องการมง การเมือง ระดับโลก ที่มันอาจซับซ้อน ยุ่งยาก ซะยิ่งกว่าการเมืองไทยไม่รู้จะกี่เท่าต่อกี่เท่า ในฐานะผู้สังเกตการณ์อยู่ห่างๆ เลยคงต้องขออนุญาตชวนตามไปดู ทรงผม ของผู้นำทั้งสอง น่าจะสบายใจกว่า ลื่นไหลกว่า...

                                                                 -------------------------------------------------

      คือเรื่องของ ทรงผม ไม่ว่าทั้งของ คิมน้อย และ ทรัมป์บ้า นั้น...ต้องเรียกว่า เป็นสิ่งที่น่าสะดุดตา สะดุดใจ น่าสนใจมิใช่น้อย เรียกว่า...กว่าจะดลบันดาลให้ทรงผมของตัวเอง เกิดเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ ชนิดเข้าร้านตัดผมเมื่อไหร่ อาจต้องฉายสไลด์ ประกอบการบรรยาย นับเป็นชั่วโมงๆ ถึงจะสามารถทำให้ช่างตัดผม เนรมิตทรงผมตามที่ตัวเองหวัง และต้องการขึ้นมาได้จริงๆ เพราะสำหรับทรงผมสไตล์ของ คิมน้อย นั้น จะเรียกว่าทรงกระทุ่ม หรือทรงกระท้อน ก็ดูจะไม่ถนัดซักไหร่ คือมันปนๆ ระหว่างกระทุ่มกับกระท้อน กระทุ่มตรงที่ไถด้านข้างเรียบสนิทติดหนังหัว แต่ตรงตุ่มกะโหลกทั้งสอง กลับหนานุ่มบานแฉ่ง คล้ายๆ กระท้อนที่โดนทุบก่อนเอามารับประทาน อะไรประมาณนั้น...

                                                                  -------------------------------------------------

      ส่วนทรงผมของ ทรัมป์บ้า นั้น...ถ้าหากเรียกขานแบบไทยๆ อาจเรียกว่า ทรงเพิงหมาแหงน ก็น่าจะพอได้ เพราะมันมีเพิงๆ ย้วยๆ กระจุยกระจาย ออกมาตรงหน้าผาก ซึ่งไม่ได้เป็นสิ่งที่สามารถดลบันดาล จัดแต่ง ได้ง่ายๆ  แม้ว่าเวลาหวีผมในแต่ละวัน แต่ละชั่วโมง ใครที่เคยมีโอกาสได้อ่านหนังสือเรื่อง Fire and Fury-Inside the Trump White House ของนาย ไมเคิล วูล์ฟฟ์ (Michale Wolff) คงพอรับรู้ได้ว่า ขนาดลูกสาวของ ทรัมป์บ้า อย่าง อีวานกา ทรัมป์ (Ivanka Trump) ยังต้องถูกตั้งคำถามจากเพื่อนๆ สมัยยังเป็นวัยรุ่น คราวแล้ว คราวเล่า ว่าพ่อตัวเองมีวิธีหวีผม เสยผม กันในแบบไหน อย่างไร...

                                                                  --------------------------------------------------

      การนิรมิตทรงผมของตัวเอง...ให้กลายเป็นเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ ชนิดยากซ์ซ์ซ์จะหาใครเลียนแบบได้ง่ายๆ จึงต้องถือเป็นความสามารถเฉพาะตัว ที่น่าทึ่ง น่าประทับใจ ตั้งแต่แรก ต่างไปจากผู้ที่ไม่มีเส้นผมจะให้นิรมิต ให้มีโอกาสจัดรูป จัดทรง อย่างเช่น ท่านขุนน้อย เป็นต้น (หัวล้าน) ที่เวลาเดินเข้าร้านตัดผม อย่างมาก...ก็ได้แต่พึมๆ พำๆ แบบเศร้าๆ ประมาณว่า ข้างๆ รองทรง...ข้างบนตัดเกลี่ย อะไรประมาณนั้น แทบไม่มีโอกาสเสย โอกาสหวี แถมยังขาดเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ ชนิดแทบอยากไป เกิดใหม่ เอาเลยก็ว่าได้...

                                                                   --------------------------------------------------

      แต่เอาเป็นว่า...เอกลักษณ์ อัตลักษณ์ แห่งความเป็นผู้นำ ไม่ว่ามันจะโดดเด่น เป็นสง่า หรือน่าเกลียด น่าชัง ยังไงก็แล้วแต่ สุดท้ายแล้ว...คงไม่เท่ากับอุปนิสัย ใจคอ ของแต่ละคน แต่ละราย ว่าจะออกไปในแนวไหนกันแน่ แนวที่ก่อให้เกิดประโยชน์สุขต่อตัวเองและผู้อื่น ต่อสังคม ประเทศชาติ หรือต่อโลกทั้งโลก ได้มาก-น้อยขนาดไหน ไม่ก่อให้เกิดการเบียดเบียน ทำร้าย ทำลายใครต่อใคร อันนั้นนั่นแหละ...ที่อาจถือเป็นเครื่องชี้วัดตัดสิน เป็นตัวกำหนดมาตรฐานแห่งความเป็นผู้นำ ได้ดีซะยิ่งกว่าบุคลิกลักษณะภายนอก ไม่ว่าหน้าตา ทรงผม หรือไลฟ์สไตล์ในแบบไหน อย่างไร...

                                                                  ---------------------------------------------------

      และเมื่อมาถึงขั้นนี้...คงต้องสรุปว่า ไม่น่าจะเป็นแค่เฉพาะ ทรงผม ที่ทำให้ผู้นำประเทศมหาอำนาจสูงสุด อย่าง ทรัมป์บ้า ชักจะกลายเป็นที่น่าเกลียด น่าชัง ของใครต่อใครอยู่ไม่น้อย แม้แต่ผู้ที่เคยเป็นมิตร เป็นเพื่อน เป็นผู้ร่วมยืนหยัด เคียงบ่า เคียงไหล่กับอเมริกามาโดยตลอด อย่างเช่นบรรดาผู้นำประเทศยุโรปเป็นต้น ลามไปถึงเพื่อนบ้านใกล้ชิด ติดพรมแดน อย่างแคนาดา เม็กซิโก ที่ต่างดาหน้าออกมาตำหนิ ติเตียน ดุด่า ว่ากล่าวรัฐบาลอเมริกัน ภายใต้การนำของ ทรัมป์บ้า ชนิดแทบไม่เว้นแต่ละวัน โดยเฉพาะต่อแนวนโยบายที่เรียกขานกันในนาม America First หรือ อเมริกาต้องมาก่อน ทุกสิ่งทุกอย่าง อันไม่ได้ต่างอะไรไปจากการนำเอา ความเห็นแก่ตัว มาใช้เป็นพื้นฐานรองรับนโยบายที่ว่านั่นเอง...

                                                                   -------------------------------------------------

      แม้ว่า...อาจเป็นเรื่องปกติ สำหรับประเทศโดยทั่วไป ที่ ผลประโยชน์แห่งชาติ ย่อมต้องอยู่เหนือสิ่งอื่นใด หรือมาก่อนสิ่งอื่นใดด้วยกันทั้งสิ้น แต่ถ้าหากผลประโยชน์นั้นๆ...เกิดขึ้นภายใต้การเบียดเบียน ทำร้าย ทำลายผู้อื่น อย่างชนิดไม่คิดหน้า คิดหลัง ไม่คำนึงถึงความเป็นมนุษย์ หรือความเป็นเพื่อนร่วมวัฏสงสารไว้บ้างเลย ชนิดไม่ว่า โลกจะร้อน ไปถึงขั้นไหน แต่ตัวกู-ของกู ขอเอาอเมริกาเข้าไว้ก่อน ไม่ว่าเคยร่วมผูกพัน สร้างพันธสัญญาไว้กับประชาคมระหว่างประเทศ แต่ถ้าไม่ถูกใจ-ไม่ถูกอารมณ์ตัวกู-ของกูขึ้นมาเมื่อไหร่ ก็พร้อมฉีกพันธสัญญานั้นๆ ได้เสมอๆ ไม่ว่าใครที่เคยเป็นมิตร เคยร่วมเป็น ร่วมตาย ร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่ด้วยกันมาก่อน แต่ถ้าทำให้กูรู้สึกเสียเปรียบขึ้นมาเมื่อไหร่ กูก็พร้อมที่จะฆ่ามิตร ทำลายมิตร ได้ทุกเมื่อ...ฯลฯลฯ...

                                                                -----------------------------------------------------

      อันนี้นี่แหละ...ที่มันเลยทำให้ ไม่ว่าการพบปะเจรจา ระหว่าง คิมน้อย กับ ทรัมป์บ้า จะเป็นไปในรูปไหน อย่างไร แต่ในแง่ของ ทรงผม แล้วล่ะก็ ยังไงๆ...ทรงกระทุ่ม ทรงกระท้อน ก็น่าจะดูดี ดูเก๋ ดูมีเสน่ห์ กว่าทรงเพิงหมาแหงน ประมาณห้าเท่า สิบเท่า เป็นอย่างน้อย และอาจหยิบเอามาใช้เป็นอุทาหรณ์ สอนใจ สำหรับบรรดา ผู้นำ ในบ้านเราได้บ้างเหมือนกัน ว่าไม่ว่าไว้ผม ไว้เผ้า ออกมาในทรงไหน สไตล์ไหน ไม่ว่าจะดูเก๋ ดูดี ดูเก่ง ดูฉลาด หรือไม่ เพียงใด แต่ที่สำคัญเอามากๆ...คงต้องดูกันที่อุปนิสัย ใจคอ นั่นแหละเป็นหลัก คือยังไงๆ...คงต้องเอาแบบที่นิสัยดี ไม่ขี้โกรธ ขี้ยัวะ และที่สำคัญที่สุดคือต้อง ไม่เห็นแก่ตัว เข้าไว้ สังคม ประเทศชาติบ้านเมือง ถึงพอจะสงบ ร่มเย็น ได้มั่ง...

                                                                ----------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Harry S. Truman ... The responsibility of the great states is to serve and not to dominate the world.- ความรับผิดชอบของมหาประเทศ...คือการรับใช้โลก ไม่ใช่การครองโลก...

                                                                 --------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"