นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมด้วยนายสนั่น พงษ์อักษร รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นพ.ธีรวัฒน์ วลัยเสถียร ผอ.สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น และนายแพทย์ประวิตร ศรีบุญรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ นำคณะสื่อมวลชนลงพื้น ลงพื้นที่ อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ดูผลกระทบจากกรณีชาวบ้านประกอยอาชีพถอดชิ้นส่วนขยะอิเลิกทรอนิกส์ขาย โดย นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า ในเดือนก.ค.2561 กรมฯ จะดำเนินการเฝ้าระวังโลหะหนักในกลุ่มผู้ประกอบอาชีพคัดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์และกลุ่มเด็กอายุ 0-5 ปี จากการลงพื้นในครั้งนี้เห็นการเปลี่ยนแปลงเรื่องการจัดการขยะที่ เป็นระบบมากขึ้น รวมทั้งคุณภาพชีวิตของชาวบ้านดีขึ้น แต่ยังต้องคอยดูเรื่องผลกระทบจากสารโหละหนักเพราะของพวกนี้มีผลกระทบระยะยาวจึงให้ทีมหมอครอบครัวช่วยติดตามดูแล ทั้งเด็กรุ่นนี้ไปจนถึงเด็กรุ่นต่อไปด้วย นอกจากนี้จะได้หารือร่วมกับสำนักงานประกันสังคม (สปส.) และกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กรส.) เพื่อหาช่องทางดูแลเรื่องสุขภาพผู้ประกอบอาชีพนี้
ทั้งนี้ยังมีความเป็นห่วงในส่วนของบ่อขยะที่มีการปรับปรุงดีขึ้นกว่าเดิม มีรั่วกั้นแต่ก็ห่วงเพราะเป็นบ่อดินที่มีเพียงพลาสติกรองซึ่งในระยะยาวอาจจะทำให้โลหะหนักซึมลงดินและปนเปื้อนน้ำใต้ดิน ทำให้ดินและน้ำที่ใช้ในการปลูกพืชเกษตรปนเปื้อนห่วงโซ่อาหาร และท้ายที่สุดคนก็กินเข้าไป
นายสนั่น กล่าวว่า จังหวัดมีความต้องการจะรวมแหล่งจัดการขยะมาไว้ที่จุดเดียวเพื่อให้มีระบบในการป้องกันการปนเปื้อนโลหะหนักในน้ำและอากาศซึ่งจะกระทบสิ่งแวดล้อมในภาพรวม โดยได้ตั้งงบศึกษาวิจัยนวัตกรรมเพื่อมาแก้ไขปัญหาจากที่ปัจจุบันชาวบ้านมีบ่อขยะอยู่ในทุ่งนา หากมีแหล่งรวมที่ถูกมาตรฐานและไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งที่ผ่านมาได้ให้มีการเขียนแบบแปลนบ่อเก็บขยะอิเล็กทรอนิกส์ งบ 1.7 ล้านบาท แต่หากจะก่อสร้างตามแบบต้องใช้งบถึง 50 ล้านบาท จึงยังไม่ได้ดำเนินการ